ข่าวลึกปมลับ : เฉลิม-ทักษิณ ตัดกันไม่ขาด ความสัมพันธ์ล้ำลึก

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 19 พฤจิกายน 2566 ตอน เฉลิม-ทักษิณ ตัดกันไม่ขาด ความสัมพันธ์ล้ำลึก



ก่อนหน้านี้เพิ่งเป็นที่ฮือฮาทางการเมือง ภายหลังเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประกาศหันหลังให้กับครอบครัวชินวัตร เนื่องจากไม่พอใจท่าทีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการบอกผ่านมาร้อยตำรวจเอกเฉลิมเป็นกวนโอ๊ย

ครั้งนั้นคาดการณ์ว่าความไม่พอใจของร้อยตำรวจเอกเฉลิมมาจากการที่ถูกลดบทบาทภายในพรรคเพื่อไทย จนไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาล ไม่เว้นแม้แต่ลูกชาย ‘วัน อยู่บำรุง’ อดีตผู้สมัครสส.กทม.ของพรรค ก็พลาดไม่ได้รับเก้าอี้หน้าห้องรัฐมนตรีเหมือนกับผู้สมัครส.ส.คนอื่นที่แพ้การเลือกตั้ง พอเรื่องถึงหูนายใหญ่และมีคำพูดพาดพิงคนบ้านริมคลองออกมาเช่นนั้น จึงทำให้ร้อยตำรวจเอกเฉลิมประกาศตัดไมตรีทันที

ทว่าผ่านมาได้ไม่นาน ดูเหมือนว่าบ้านจันทร์ส่องหล้าและบ้านริมคลอง จะกลับมาคืนดีกันแล้ว หลังจากปรากกฎภาพ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมสามีเดินไปทางพบร้อยตำรวจเอกเฉลิมถึงบ้านริมคลอง ซึ่งภาพแห่งความชื่นมื่นนี้ได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของนายวัน อยู่บำรุง โดยอุ๊งอิ๊ง แสดงความคิดเห็นใต้ภาพด้วยข้อความว่า “ดีใจได้เจอลุงเหลิมค่ะ”

การใช้คำว่า “ลุงเหลิม” ที่ออกมาจากบุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณนั้นถือว่ามีนัยและเป็นการแสดงสัญลักษณ์ให้เห็นในทางการเมืองพอสมควร เพราะย้อนกลับไปสมัยที่ครอบครัวชินวัตรยังไม่มีอาณาจักรธุรกิจโทรคมนาคมที่ยิ่งใหญ่ และยังไม่เข้าสู่เวทีการเมืองจนกลายเป็นครอบครัวที่ทรงอิทธิพลทางการเมืองเหมือนทุกวันนี้ ร้อยตำรวจเฉลิมกลายเป็นหนึ่งในบุคคลทางประวัติศาสตร์ของครอบครัวชินวัตรในยุคก่อร่างสร้างตัวด้วย

เนื่องจากสัมปทานโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่บริษัทไอบีซีที่ของครอบครัวชินวัตรได้รับนั้นนสมัยที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลอสมท.ชื่อ ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง โดยธุรกิจสัมปทานดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นการวางอิฐก้อนแรกๆที่นำไปสู่ธุรกิจโทรคมนาคมและดาวเทียมในเวลาต่อมา

ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อครั้งร้อยตำรวจเอกเฉลิมครองเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีดูแลงานตำรวจ ก็เป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ผลักดันให้พลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นับจากนั้นบทบาทของร้อยตำรวจเอกเฉลิมจะเพิ่มพูนมากขึ้น ไม่เว้นแต่เวลาพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านก็ยังเข้ามานั่งหัวโต๊ะร่วมกำหนดทิศทางการทำงานในสภาด้วย โดยเฉพาะการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

จากเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมบิ๊กเหลิมถึงไม่ค่อยพอใจเวลาถูกคนในพรรคเพื่อไทยหรือแม้แต่คนในครอบครัวชินวัตรแซะเป็นประจำ จนต้องประกาศตัดขาดกันเมื่อเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม เวลานี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันกับพรรคเพื่อไทยมากมาย โดยเฉพาะกระแสต่อต้านนโยบายเงินดิจิทัลที่กำลังเป็นไฟลามทุ่ง

ถ้าคนในพรรคเพื่อไทยไม่โลกสวยเกินไปต้องยอมรับว่าลำพังเจอแค่การออกมาให้ความเห็นของนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลฝ่ายนโยบาย เพียงแค่คนเดียว บรรดาลูกพรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถรับมือได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ มีแค่การใช้วาทะทางการเมืองตอบโต้เท่านั้น โดยไม่มีการนำข้อมูลมาหักล้าง ส่งผลให้ทัวร์ไปลงที่นายกรัฐมนตรีในฐานะเจ้าของนโยบายมากกว่าใคร

ดังนั้น อาจด้วยเหตุผลตรงนี้เองที่ทำให้ ‘แพทองธาร’ ต้องใช้ความเป็นหัวหน้าพรรคลงมาเป็นกาวใจเชื่อมคนรุ่นพ่อให้กลับมาคืนดีกัน เพื่อหวังจะให้ลุงเหลิมของหลานอิ๊งค์กลับมาใช้ฝีไม้ลายมือเพื่อตอบโต้ทางการเมืองช่วยพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ถ้ายิ่งปล่อยให้รถทัวร์จอดนานเกินไป งานใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในอนาคตอาจถูกสั่นคลอนได้นั่นเอง

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1