ข่าวปนคน คนปนข่าว
**น้ำมนต์ต้องมาแล้ว! "เศรษฐา" เฉลยเหตุเหวี่ยงใส่ DSI ไม่ใช่แค่หมูเถื่อน หุ้นมอร์-สตารค์ ก็ด้วย คดีอืดกว่าเรือเกลือ!!
ช่วงนี้บรรดา “บิ๊กDSI” น่าจะต้องเข้าวัดทำบุญ ให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้รอดพ้น แคล้วคลาดหนักหน่อย เพราะถูกมองว่า ผลงานไม่มี ความดีไม่ปรากฏ โดนเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษ
วันก่อนก็ถูกนายกฯ "เศรษฐา ทวีสิน" เฉ่งใส่ต่อหน้าธารกำนัลออกสื่อ ยิงตรงทำไมคดี “หมูเถื่อน” จึงไม่ไปถึงไหน
เล่นเอาบิ๊กๆ ทั้งหลายของ DSI หน้าชา ไม่กล้าสบตาผู้คน ด้วยระดับความอายชนิดที่มุดดินหายตัวได้ก็คงทำไปแล้ว
แน่นอนว่า ชาวเน็ตจับเอาการแสดงออก ด้วยอาการ "เหวี่ยง" ชักสีหน้าของท่านผู้นำ ไปขยำขยี้ ทั้งที่จริงสิ่งที่ต้องโฟกัสก็คือคดี "หมูเถื่อน" เป็นคดีที่ดีเอสไอ ควรต้องรีบทำ ไม่ต้องให้คนระดับนายกฯ ลงมาสั่งงานมิใช่หรือ ?
DSI ควรรู้ว่า “หมูเถื่อน” ส่งผลกระทบต่อกลไกตลาดและห่วงโซ่การเลี้ยงสุกร ไปจนถึงเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชอาหารสัตว์ รวมไปถึงผู้บริโภคเนื้อหมู
เรื่องหมูๆ ไม่ใช่หมู ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ DSI สมควรทำออกมาให้เร็ว เพื่อป้องปรามขบวนการค้าหมูเถื่อน
คดีเมื่ออืดเป็นเรือเกลือ สาระสำคัญที่นายกฯ สั่งก็ถูกต้องแล้ว ประเด็นอยู่ที่ให้ DSI เร่งรัดคดี ไม่ใช่จับสีหน้าท่าทางเศรษฐา
ฟังว่า นายกฯ ที่ตอนนี้มีภารกิจที่อเมริกา เอ่ยปากถึงอารมณ์วันนั้นยอมรับว่า เหวี่ยงใส่ DSI จริง และไม่ใช่แค่เรื่องหมูเถื่อนเรื่องเดียว แต่มีเรื่อง “หุ้นมอร์และหุ้นสตาร์ค” ด้วย
คดีหุ้นมอร์ และสตาร์ค ต่างรู้กันว่า อื้อฉาว เน่าแค่ไหน สร้างความเสียหายแก่นักลงทุนเพียงใด จนกลายเป็นตัวทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน และของตลาด แต่คดีไม่คืบ!
นี่ก็เป็นอีกประเด็น ที่ทำให้นายกฯ ฉุนกับการทำงานที่ล่าช้าของ DSI อย่าว่าแต่นายกฯ เลยนักลงทุนรายย่อย ที่ได้รับความเสียหาย ก็เรียกร้อง เร่งเร้าให้จัดการ
งานนี้พอประเดประดังเข้ามา ขณะที่ตลาดหุ้นตกกราวรูดต่อเนื่อง มองไม่เห็นก้นเหว มาตรการในการกำกับดูแลตลาดหุ้น ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งโปรแกรมเทรด และชอร์ตเซล
ทำเอานักลงทุนรายย่อยว้าวุ่นหนัก รัฐบาลก็นั่งไม่ติด!!
ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลที่เห็นคือ นายกฯส่ง “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไปหารือกับก.ล.ต.และตลาดหุ้น เพื่อหามาตรการผลักดันให้บรรยากาศการซื้อขายหุ้นกลับมามีความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ระหว่างที่ตลาดหุ้นสามวันดี สี่วันไข้ กลับมีกระแสข่าวว่านักลงทุนรายย่อยไม่พอใจ จะหยุดซื้อขายหุ้นวันจันทร์นี้ โดยที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เตรียมตั้งโต๊ะแถลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ถามว่า “เศรษฐา” ในฐานะนายกฯ และรมว.คลัง รู้หรือยัง เห็นว่ายังไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องนี้ แต่ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องสอบถาม
นายกฯยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีมาตรการที่เป็นผลลบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่พยายามทำหลายๆอย่างให้ดีขึ้น ส่วนจะดีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของนักลงทุน
นายกฯและรมว.คลัง “เศรษฐา” ยังเสนอตัวว่า หากนักลงทุนต้องการอะไรขอให้บอกมา ไม่ได้ประชด หรือ ว่าอารมณ์เสีย แต่อยากรู้ความต้องการ เพื่อจะได้จัดให้ และมีอะไรใหม่ที่อยากได้
สรุปว่า เหตุอารมณ์เสียของนายกฯ มีอยู่ 2 เรื่อง “หมูเถื่อน” และ “ตลาดหุ้น” ซึ่งไม่ได้เหวี่ยงใส่นักลงทุน หากแต่พุ่งเป้าไปที่ DSI เต็มๆ งานนี้น้ำมนต์ต้องมาแล้วล่ะ
**“อุ๊งอิ๊ง”เยือนบ้านริมคลอง เคลียร์ใจ “เหลิม-วัน อยู่บำรุง” ประสานรอยร้าว
คอการเมืองคงจำกันได้ เมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา “เหลิม บางบอน” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประกาศตัดขาด จะหันหลังให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ตลอดชีวิต เพราะได้ยินข่าวมาว่า“ทักษิณ”พูดกับคนใกล้ชิด ทำนองว่า “เหลิม” และ“วัน อยู่บำรุง” ลูกชาย มันกวนโอ๊ย!! เลยไม่ตั้งให้มีตำแหน่งใดๆในรัฐบาล
“ทักษิณ...มีคนมาบอกผมว่าคุณพูดแบบใหญ่โต ว่าผมเป็นคนกวนโอ๊ย ทั้งพ่อทั้งลูก เลยไม่ให้ตำแหน่ง คุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้ร่วมรัฐบาลกับคุณ ผมมีความสุข พูดอะไรระมัดระวังบ้าง คุณใหญ่โตได้ ในพรรคของคุณ คุณไล่ผมออกสิ นึกถึงแก้คดี 8 คดี ให้คุณแล้ว ผมคิดว่าคุณจะเปลี่ยนนิสัย แล้วเวลาใช้คำพูดถึงผม อย่าเอ่ยมือ เอ่ยเท้า มันไม่สุภาพ ผมก็มีมือมีเท้า ที่จะเอ่ยถึงเหมือนกัน... เฉลิม ซึ่งจะหันหลังให้คุณตลอดชีวิต...!!
ขณะที่ “วัน อยู่บำรุง” ผู้สมัครสส. เขตบางบอน ของพรรคเพื่อไทย ที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุด พ่ายแพ้ให้กับ “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก จากพรรคก้าวไกล ก็ยกเนื้อเพลงของวงไมโคร มาโพสต์เฟซบุ๊ก เสริมท่าทีของ “เฉลิม” ผู้เป็นพ่อ ว่า... บอกมาเลย ให้รู้กันไป ให้อยู่หรือไปก็บอกมา ... #บอกมาคำเดียว
ตามด้วยอีกเพลง... เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน จนบางครั้งคนเราไม่ทันได้ตระเตรียม…หัวใจ...
นอกจากนี้ “วัน” ยังโพสต์ อีกว่า “ผมไม่เคยพูดจาให้ร้ายพรรคเพื่อไทย!! ผมไปพูดกวนโอ๊ยใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่ทราบครับท่าน!”
รอยร้าวที่เกิดขึ้นระหว่าง “ขุนศึกฝั่งธนฯ” กับ “ผู้ทรงอิทธิพล” ของพรรคเพื่อไทยในครั้งนั้น คนวงในพอจะคาดเดาที่มาที่ไปได้ว่ามาจากสาเหตุที่ สนามเลือกตั้งฝั่งธนฯ ในความดูแลของ “เฉลิม” พ่ายยับ แม้แต่ “วัน” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ก็ยังรักษาเก้าอี้ สส.เขตบางบอน ไว้ไม่ได้ ...
แม้ “เฉลิม” จะได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะพรรคจัดให้อยู่ในลำดับที่ 5 แต่ด้วยปัญหาสุขภาพ จากที่เคยมีบทบาททั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ เคยดุดัน ขันแข็งเวลาหาเสียง กลายเป็นคนเสียงแหบแห้ง และดูหอบเหนื่อย เมื่อเวลาพูดจา ปราศรัย
รอบนี้ “สองพ่อลูก” จึงไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆในรัฐบาล ทั้งที่พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้ง
เมื่อมีคนมาพูดเข้าหูว่า ที่ไม่ได้ตำแหน่งใดๆ เพราะ “กวนโอ๊ย ทั้งพ่อทั้งลูก” ... แถมยังมีกระแสข่าวว่า ถ้า “ไอซ์ รักชนก” สส.ก้าวไกล ที่ตอนนี้ติดบ่วง 112 อาจถูกถอดถอนจากตำแหน่งสส. หรือถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ก็จะต้องมีการเลือกตั้งสส.เขตบางบอน กันใหม่ “วัน อยู่บำรุง” อาจจะไม่ได้ลงสมัคร ในนามพรรคเพื่อไทยก็ได้
แล้วอย่างนี้ทำไม “เฉลิม” จะไม่เดือดจัด ถึงขั้นประกาศว่าจะหันหลังให้ตลอดชีวิต!!
ช่วงที่ผ่านมา “เฉลิม” หันหลังให้พรรคเพื่อไทย ตามที่ได้ลั่นวาจา แม้แต่ตอนประชุมใหญ่ เพื่อเลือก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค “เฉลิม” ก็ไม่ไป
กระทั่งล่าสุด “วัน อยู่บำรุง” โพสต์ภาพในเพจเฟซบุ๊ก เป็นภาพ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปที่บ้านริมคลอง ย่านบางบอน กทม. พร้อมถ่ายภาพร่วมกับ “เฉลิม อยู่บำรุง - วัน อยู่บำรุง และ อาชวิน อยู่บำรุง” ลูกชายของวัน พร้อมติดแฮชแท็ก # อยู่บำรุง # ครอบครัวเพื่อไทย # ครอบครัวใจถึงพึ่งได้
โพสต์นี้ “แพทองธาร” ก็เข้ามาเมนต์ว่า “ดีใจได้เจอลุงเหลิมค่ะ”
ขณะที่ “ชยิกา วงศ์นภาจันทร์” หลานสาวทักษิณ ก็เข้ามาเมนต์ด้วยว่า... 1 ภาพกับล้านความปลาบปลื้มใจ ก่อนที่ “วัน อยู่บำรุง” จะตอบว่า แซนไม่มา...ทำให้ “ชยิกา” ตอบกลับว่า ถึงไม่ได้ไปด้วย แต่พี่ก็อยู่ในใจน้องคนนี้เสมอนะคะ
เป็นอันว่า ภาพและข้อความที่ตอบโต้กันในโพสต์นี้ บอกเล่าเรื่องราวว่า หลังจาก “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ทำหน้าที่เป็นกาวใจ ประสานรอยร้าว ระหว่าง “เฉลิม กับ ทักษิณ” สองผู้อาวุโส ที่มีวิวาทะกันก่อนหน้านี้