รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วัน้สาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ "บิ๊กต่อ" เดือด ฟาดกลับ "บิ๊กโจ๊ก" ส่วยรถบรรทุก ภาค 2
น่าจะเป็นครั้งแรกหลังจากขึ้นเป็น ผบ.ตร. ที่พ ล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้สัมภาษณ์สื่อด้วยอาการหงุดหงิด พยายามเก็บอารมณ์อย่างถึงที่สุด
จากกรณีรถสิบล้อบรรทุกดิน ตกหลุมสายไฟใจกลางกรุง ย่านพระโขนง แล้วรถดังกล่าว ดันมีสติ๊กเกอร์ เป็นดาวสีเขียว และตัวอักษร B แปะอยู่ที่หน้ากระจกรถ
นำมาสู่การขยายผลของบรรดา ส.ส.พรรคก้าวไกล อย่างนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือนายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. เขตพระโขนง ที่ลุยเปิดแผล “สติ๊กเกอร์ส่วยรถบรรทุก”
แต่สาเหตุแท้จริงที่ทำเอา “บิ๊กต่อ” หงุดหงิด ไม่ใช่เพราะความเคลื่อนไหวของนักการเมือง แต่เป็นเพราะตำรวจด้วยกันนี่แหละ
และคนๆ นั้นก็คือเจ้าเก่า “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ที่โดดเข้ามามีบทบาทในคดีนี้อย่างฉับไว ด้วยสไตล์ถนัดคือ “โปลิศจับตำรวจ”
บิ๊กโจ๊กบุกไป สน.พระโขนง ในฐานะที่ควบคุมดูแลงานด้านจราจร เรียกประชุมตำรวจ และขอดูสำนวนสอบสวน
จากนั้นประกาศเลยว่า จะทำคดีนี้ ให้เป็นคดีตัวอย่าง
“หากพบใครที่ละเมิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าหน้าที่เอง ก็ต้องถูกดำเนินคดี” บิ๊กโจ๊กลั่น ในสไตล์ที่หลายๆ คน คุ้นเคยดี
บิ๊กโจ๊กยังแฉว่า ได้ตรวจสอบสถิติการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินในกรุงเทพฯ ย้อนหลังไป พบว่าไม่มีการจับกุมเลย จับเพียงแค่สิ่งของตกหล่นเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่สร้างผลกระทบกับประชาชนมากกว่า คือการบรรทุกน้ำหนักเกิน ก็จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ว่า สาเหตุใดที่ทำให้ไม่มีสถิติการจับกุมเลย
ว่าแล้ว ก็ประกาศจัดงานระบบการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ เริ่มจากบูรณาการร่วมกับกรมทางหลวง จัดหาตราชั่งรถบรรทุกมา และจะกวดขันลงไปถึงระดับ สน.ทุกแห่ง
ต่อไป รถบรรทุกที่แล่นเข้ามาในกรุงเทพฯ จะต้องมีการชั่งน้ำหนัก ต้องไม่มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินเข้ามาในกรุงอีกต่อไป
แม้บิ๊กโจ๊กจะถูกเปลี่ยนงาน จากงานอาชญากรรม มาเป็นงานด้สนความมั่นคง และดูแลงานจราจร ในยุคของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์
แต่การเกิดเหตุรถบรรทุกน้ำหนักเกินตกหลุม ที่มีสติ๊กเกอร์แปะหราเช่นนั้น เหมือนอะไรๆ มาเข้าทางปืนของบิ๊กโจ๊ก
เท่ากับบิ๊กโจ๊ก ได้ทำคดี “ส่วยรถบรรทุก ภาคสอง” ต่อจากคดี “กำนันนก นครปฐม” ซึ่งตอนนั้น บิ๊กโจ๊ก ก็เล่นบทกร้าวในแนวทาง “โปลิศจับตำรวจ”
มาคราวนี้ เมื่อบิ๊กโจ๊ก ได้กลิ่นตุตุของการส่งส่วยรถบรรทุก ก็เลยออกแอคชั่นเต็มที่ ด้วยลีลาเดิมๆ ไม่ต่างจากตอนคุมงานอาชญากรรม
อาจจะเข้าตาใครต่อใคร แต่ไม่เข้าตาบิ๊กต่อ ซึ่งดูว่าเป็นการทำงานแบบออฟไซต์ และรุกไล่ตำรวจด้วยกันอย่างไร้หลักการอีกแล้ว
ประเด็นสำคัญก็คือ บิ๊กโจ๊กไม่มีอำนาจสอบสวน ไม่ใช่หัวหน้าพนักงานสอบสวน แต่ยังไปเรียกตรวจสำนวนการสอบสวน
ดูจากคำสัมภาษณ์ของบิ๊กต่อ ที่กล่าวกับสื่ออย่างเครียดๆ ว่า “บ้านพี่ พี่แบ่งกันแล้ว พ่อบ้านก็ต้องไปดูบ้าน พี่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่อะไรก็ต้องผู้ใหญ่บ้าน ไม่เช่นนั้น พี่ไม่ต้องมีหรอกผู้บัญชาการ”
“ทุกอย่างฟีดแบ็คมันกลับมาที่ตำรวจ ทุกคนพยายามทำสิ่งดีๆ ให้เกิดในสังคม แต่บางคนเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ตำรวจกำลังทำ ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตำรวจ”
“ถ้ามันเป็นสติ๊กเกอร์ส่วย หลักฐานชัดเจน พี่ก็ไม่เอาไว้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ชัดเจน มันเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว ที่จะไม่ไปยุ่งกับของนอกระบบ หรือที่มันไม่ดี ประวัติศาสตร์มันมีให้เห็นตั้งเยอะตั้งแยะ แต่อย่าเอามาเป็นประเด็น”
“เขามีพ่อบ้าน พ่อบ้านคือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก็ว่ากันตามสายงาน”
ล่าสุด ผลการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกคันเกิดเหตุ พบว่ามีน้ำหนักกว่า 37 ตัน ขณะที่กฎหมายกำหนดไว้แค่ 25 ตันเท่านั้น
ตรงนี้ ถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องรับผิดชอบในความหย่อนยาน และต้องมีการสาวต่อไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลังสติ๊กเกอร์ปริศนาแผ่นนั้น
*************************
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1