รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ ‘โจรไซเบอร์’ ล้ำไปอีกก้าว โอนเงินไม่ต้องสแกนหน้า กฎหมายเข้ม แต่ตามไม่ทัน
การก่ออาชญากรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลยังมีให้เห็นอยู่เป็นระยะและมีวิวัฒนาการแตกต่างกันไป โดยก่อนหน้านี้เป็นรูปแบบของแก๊งคอลเซนเตอร์ที่อาศัยข้อมูลส่วนบุคคลและอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐติดต่อหาเหยื่อเพื่อให้หลอกโอนเงิน รวมไปถึงการหลอกให้มาร่วมลงทุนด้วยการสร้างภาพลักษณ์ทื่ดีผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง
ในส่วนของภาครัฐเองก็พยายามแก้ไขในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงค์ชาติ ที่ได้ออกประกาศควบคุมการโอนเงินผ่านระบบโมบายแบงค์กิ้งตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต้องทำการแสดงตัวตนอย่างการสแกนใบหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อหวังจะเป็นช่อทางตรวจจับเส้นทางการเงินของผู้ใช้บัญชีม้า
แต่ดูเหมือนว่าพวกมิจฉาชีพจะเดินนำหน้าหน่วยงานภาครัฐไปอีกก้าวแล้ว
โดยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลการจับกุมขบวนการค้าข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งประเด็นที่สร้างความตระหนกให้กับคนไทยในยุคสังคมไร้เงินสด
คือ กรณีคนร้ายที่เป็นโปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมขึ้นมาใหม่ที่ทำให้สามารถโอนเงินในจำนวนเท่าไหรก็ได้โดยไม่ต้องผ่านสแกนใบหน้าในระบบโมบายแบงค์กิ้ง
โปรมแกรมเมอร์รายนี้ได้ผลิตเครื่องมือชิ้นนี้ขึ้นมาและจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ เว็บไซต์พนันออนไลน์ และกลุ่มผู้ใช้บัญชีม้า เพื่อให้นำไปใช้ในการโอนเงินที่ได้จากการทำผิดกฎหมายไปยังที่อื่นและยากต่อการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ขณะเดียวกัน ตำรวจยังตรวจสอบขยายผลพบขบวนการที่เป็นบุคคลภายในบริษัทประกันภัยชื่อดังนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าบริษัทมากกว่า 1 ล้านรายชื่อ นำไปขายให้กับกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายด้วย กำหนดราคาซื้อขายข้อมูลไว้ดังนี้
1.ข้อมูลหนึ่งแสนรายชื่อ ขายราคา 500 บาท 2. ห้าแสนรายชื่อ ขายราคา 1,500 บาท 3. หนึ่งล้านรายชื่อ ขายราคา 2,500 บาท และ 4. สองล้านรายชื่อ ขายราคา 3,500 บาท ซึ่งคนร้ายสามารถสร้างรายได้จากการขายข้อมูลเหล่านี้ได้ตั้งแต่ 8 หมื่นบาทถึง หนึ่งแสนบาทต่อเดือน
ยิ่งเป็นการตอกย้ำนับวันการก่ออาชญากรรมลักษณะนี้จะขยายตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยตัวเลขผลตอบแทนที่สูงเช่นนี้ทำให้มีคนหัวใสใจทราม พร้อมที่จะกล้าเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันปราบปรามขบวนการเหล่านี้ยังทำงานในเชิงตั้งรับพอสมควร แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกมาตรการให้ผู้โอนเงินผ่านระบบโมบายแบงค์กิ้งที่มีจำนวนเงินมากกว่า 50,000 บาทต้องสแกนใบหน้าก่อนถึงจะสามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มมิจฉาชีพก็ปรับรูปแบบการกระทำความผิดเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายเช่นกัน
โดยเฉพาะขบวนการบัญชีม้าที่ปราบเท่าไหรก็ยังปราบไม่หมด นับวันมีแต่จะเพิ่มเป็นทวีคูณ ทั้งๆที่มีกฎหมายกำหนดโทษชัดเจนสำหรับคนที่เปิดบัญชีม้า และที่สำคัญคนที่เปิดบัญชีม้าส่วนมากจะเป็นคนที่ถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อแลกกับเงินเพียงไม่กี่บาท โดยไม่รู้ว่าคนที่มาเชื้อเชิญให้เปิดบัญชีธนาคารให้นั้นจะเอาบัญชีดังกล่าวไปเป็นเครื่องมือในการทำผิดกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเองก็จะสันนิษฐานไว้ก่อนผู้ที่มีชื่อในบัญชีม้าเป็นผู้กระทำความผิดโดยปริยาย
ปัจจุบัน หน่วยงานภาครัฐได้พยายามทำงานร่วมกันอย่างการจัดทำเว็บไซต์ฉลาดโอน หรือ www.ฉลาดโอน.com ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างกสทช. กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลสาง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกองปราบปราม เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนใช้ตรวจสอบข้อมูลมิจฉาชีพก่อนการโอนเงินผ่านเลขบัญชีธนาคาร เบอร์โทรศัพท์ ข้อความสั้น หรือ เอสเอ็มเอส โดยจากการเก็บสถิติพบว่ามีประชาชนเข้ามาตรวจสอบ 3,389,840 ครั้ง มีการแจ้งข้อมูลร้องเรียน 410,900 ราย
ดังนั้น เมื่อมองจากภาพรวมของปัญหาที่เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ากฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จะมีบทลงโทษหนักเพียงใด แต่ก็เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายทางเท่านั้น เพราะจำนวนผู้กระทำความผิดที่สูงขึ้น จึงต้องรอดูว่าภายใต้การทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่มีมาตรการเข้มงวดและทำงานอย่างสอดประสานกัน จะมีผลให้การก่ออาชญากรรมลดลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ต่อไป
********
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1