รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ จับลูกเขย ‘ชาดา’ ข้อหาหนักรับสินบน เขย่านโยบายล้างเจ้าพ่อ
กลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับแวดวงราชการไทยภายหลังตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ป.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เข้าจับกุมนายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จังหวัดอุทัยธานี พร้อมพวก
ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบและร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จากกรณีเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการทำโครงการก่อสร้างระบบประปาในพื้นที่ โดยถูกจับพร้อมของกลางเป็นเงิน 600,000 บาท
เรื่องนี้มากลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อคนที่ถูกจับมีสถานะเป็นลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คนดังเมืองอุทัยธานีและยังเป็นผู้นำในนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามที่ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
พฤติการณ์ความผิดของลูกเขยนายชาดานั้น ตำรวจตรวจสอบพบว่า เริ่มมาจากการที่ผู้เสียหายได้เข้ามาร้องเรียนกับตำรวจ โดยผู้เสียหายเป็นผู้ชนะการประมูลในโครงการก่อสร้างดังกล่าว แต่กลับไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้
เนื่องจากถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลข่มขู่ร้านขายวัสดุก่อสร้างห้ามขายสินค้าให้กับผู้เสียหาย จนส่งผลให้ไม่สามารถก่อสร้างตามกำหนดการได้
จากนั้นนายวีระชาติเรียกผู้เสียหายมาพบ 3 ครั้ง และเสนอให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน 1 ล้านบาท เพื่อแลกกับการก่อสร้างตามปกติ แต่ได้มีการต่อรองเหลือ 6 แสนบาท พร้อมกับนัดเวลาส่งมอบ ตำรวจจึงร่วมมือกับผู้เสียหายเข้าจับกุมนายวีระชาติทันที
อย่างไรก็ตาม ภายหลังพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวโดยมีหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 4 แสนบาท ซึ่งตำรวจให้เหตุผลถึงการให้ประกันตัวว่า ผู้ต้องหามีหน้าที่การงาน ที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และ ไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบอีกครั้งเมื่อสำนวนคดีเสร็จสิ้น เพื่อส่งเรื่องไปให้ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เหตุการณ์จับกุมลูกเขยบิ๊กมหาดไทยที่เกิดขึ้นนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระทบกระเทือนต่อนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่กระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการไม่มากก็น้อย
เพราะด้านหนึ่งถูกสายตาย่อมจับจ้องมาที่นายชาดาโดยตรงในฐานะผู้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ซึ่งในสถานการณ์ที่เป็นอยู่เวลานี้ ดูเหมือนว่านายใหญ่จังหวัดอุทัยธานีก็อ่านทิศทางลมได้อย่างแตกฉานพอสมควร จึงได้ออกตัวตั้งแต่แรกว่าจะไม่เข้ายุ่งกับการทำหน้าที่ตำรวจ
โดยท่าทีของนายชาดาต่อกรณีนี้ได้รับการยืนยันจากพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบว่าได้หารือผ่านทางโทรศัพท์แล้ว ซึ่งนายชาดาระบุว่าได้เคยเตือนนายวีระชาติแล้ว และขอให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
สอดคล้องกับท่าทีของนายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ยืนยันเช่นกันว่าจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นและยืนยันว่า นายชาดาจะไม่เข้าไปก้าวก่ายอย่างแน่นอน
จากนี้ไปแน่นอนว่าแรงกดดันอาจพุ่งมาที่นายชาดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะถึงขนาดเป็นแรงกระเพื่อมที่นำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่เพียงผู้เดียว
เพราะบางทีเรื่องนี้อาจใหญ่กว่า ที่หลายคนคิดก็เป็นไปได้
-------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1