MGR Online - “สายไหมต้องรอด” พาลูกจ้างสาว ขอพิสูจน์ความจริงให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสารเสพติดผ่านเส้นผม ทราบผลประมาณ 1 สัปดาห์ เอาผิดนายจ้าง
จากกรณี เพจสายไหมต้องรอด พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้างที่เป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านภาษีเจริญ กรณีถูกทำร้ายร่างกายมานานหลายปี ตามตัวมีร่องรอยบาดแผลอยู่ทั่วทั้งร่างกาย
วันนี้ (27 ต.ค.) เวลา 13.00 น. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 8 อาคารบี เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา น.ส.เอ เข้าพบ พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจหาสารเสพติดในร่างกายจากเส้นผม เนื่องจากพยานนายจ้างอ้างว่าเคยเห็นผู้เสียหายใช้สารเสพติดและทำร้ายตัวเอง
พ.ต.ท.เชน กล่าวว่า จากกรณี น.ส.เอ ผู้เสียหาย ถูกทำร้ายร่างกายจากนายจ้าง แต่ฝั่งนายจ้างอ้างว่า ผู้เสียหายมีพฤติการณ์ลักทรัพย์ ใช้ยาเสพติดจนเห็นภาพหลอนและทำร้ายตัวเอง ซึ่งคำให้การทั้งสองฝ่ายจะไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องสารเสพติดผ่านการตรวจเส้นผม รวมถึงมีนักจิตแพทย์มาร่วมพิสูจน์ด้วยว่าสาเหตุการทำร้ายร่างกายเกิดจากตัวเองหรือมีคนอื่นมาทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ซึ่งจะเป็นแบบทดสอบที่ได้รับมาตรฐาน ทั้งนี้ การตรวจหาสารเสพติดในเส้นผม สามารถตรวจหาสารเสพติด 28 ชนิด อาทิ ยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ยากล่อมประสาท ส่วนความยาวของเส้นผม 20 เซนติเมตรของผู้เสียหาย จะสามารถตรวจย้อนหลังได้ถึง 1 ปีครึ่ง
พ.ต.ท.เชน เผยว่า ปกติแล้วผลตรวจเรื่องยาเสพติดจากเส้นผม จะทราบผลประมาณ 7-10 วัน ส่วนผลตรวจเรื่องสุขภาพจิต คาดประมาณ 1-2 เดือน แต่ยืนยันจะเร่งรัดตรวจพิสูจน์ เพื่อหาข้อข้อเท็จจริงให้โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ทางผู้เสียหายได้มีการแจ้งความที่ สน.ตำรวจ แล้ว มีการส่งเรื่องตรวจร่างกายและสุขภาพจิตที่ รพ.ตำรวจ ซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะไม่ดำเนินการตรวจซ้ำกับทาง รพ.ตำรวจ จะแยกกันตรวจเพื่อให้ได้ข้อสรุปอย่างครบทุกมิติ
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายมายังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจพิสูจน์เรื่องสารเสพติดผ่านเส้นผม จากนี้ตนขอประสานไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อเอาตัวพยานของนายจ้างที่เคยพักอาศัยอยู่กับผู้เสียหาย อ้างว่า เคยพบอุปกรณ์เสพยาในห้องพัก เพื่อนำตัวมาตรวจด้วยและให้ความเป็นธรรม หากพบสารเสพติดในตัวพยานรายดังกล่าวหรือผู้เสียหายก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนเรื่องบาดแผลร่างกายของผู้เสียหาย ทราบว่าสถาบันนิติวิทย์ฯ มีเครื่องมืออุปกรณ์ตรวจได้อย่างละเอียดว่าเป็นการทำร้ายร่างกายตัวเองหรือมีใครมาทำร้าย แต่ตนยืนยันว่าคนโกหกได้ แต่วิทยาศาสตร์มันโกหกไม่ได้
ส่วนทาง น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนสบายใจมากขึ้นหลังมาขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด และถูกทำร้ายร่างกายจริง รวมทั้งยืนยันไม่เคยใช้สารเสพติดทุกชนิด ยานอนหลับ หรือยากล่อมประสาท อีกทั้งที่ผ่านมาตนไม่เคยเข้าพบจิตแพทย์ และไม่เคยมีอาการซึมเศร้าแต่อย่างใด และระหว่างนี้ก็จะรอผลการตรวจสารเสพติดผ่านเส้นผม เพื่อพิสูจน์ความจริง