xs
xsm
sm
md
lg

สาวร้องถูกนายจ้างโหด ทำร้ายจุดไฟเผา-รัดคอปางตาย ทำงาน 4 ปี ได้ค่าจ้างครั้งเดียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดพาสาววัย 21 ปี ร้อง รอง ผบ.ตร. หลังถูกนายจ้างร้านอาหาร ย่านภาษีเจริญ ทำร้ายจุดไฟเผาและใช้สายยางรัดคอปางตาย อีกทั้งทำงานมา 4 ปี ได้ค่าจ้างเพียงครั้งเดียว

วันนี้ (25 ต.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานพา น.ส.สาว (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้าง หลังถูกนายจ้างที่เป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านภาษีเจริญ ทำร้ายร่างกายมานานหลายปี ตามตัวมีร่องรอยบาดแผลอยู่ทั่วทั้งร่างกาย

โดยผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองมาสมัครเป็นพนักงานร้านดังกล่าว ผ่านทางรุ่นพี่แนะนำมา โดยตนเองทำหน้าที่คอยเตรียมวัตถุดิบ หุงข้าว หั่นผัก และเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า ซึ่งตั้งแต่ทำงานมากว่า 4 ปี ได้ค่าจ้างครั้งแรกเพียงครั้งเดียว และได้แต๊ะเอียตรุษจีน 50 บาทเมื่อปีที่แลัว หลังจากนั้นไม่เคยได้เงินเดือนอีกเลย โดยนายจ้าง อ้างว่า ได้จ่ายค่าทำคลอดลูกของตนให้แล้ว และพาตัวเด็กไปอยู่กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง และได้จ่ายค่าดูแลรักษาพยาบาลระหว่างที่ลูกของตนไปอยู่ที่มูลนิธิ

นอกจากเงินค่าคลอดบุตร มีก็อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งพ่อของตนเองประสบอุบัติเหตุ นายจ้างจึงเป็นคนออกค่ารักษาพยาบาลให้ เพื่อเป็นค่าดำเนินการอีก 10,000 บาท เงิน 2 ส่วนนี้ จึงกลายเป็นข้ออ้างที่นายจ้างไม่ยอมจ่ายเงินเดือน

ทั้งนี้ ระหว่างที่ทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้าน นายจ้างให้กินนอนอยู่ที่ร้าน และจะถูกทำร้ายร่างกาย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากนายจ้างไม่พอใจ เช่น เวลาถูกลูกค้าคอมเพลน จะใช้แอลกอฮอล์ราดตามร่างกายและจุดไฟเผา ใช้ไฟเบิร์นซูชิ รนตามร่างกาย ใช้สายยางรัดคอจนหายใจไม่ออกแทบตาย และเวลาพูดหรือร้องด้วยความเจ็บปวด นายจ้างจะใช้เท้าเหยียบปาก

ล่าสุด ตนเองถูกตีจนหัวแตก และนายจ้างเตรียมคีม ค้อน และอุปกรณ์ช่าง ซึ่งตนเห็นและรู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ทำให้ตนตัดสินใจแอบหนีออกมาจากร้านเพื่อขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ทำให้ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือมาที่เพจสายไหมต้องรอด

ทั้งนี้ วีรกรรมของนายจ้าง ยังมีเรื่องการข่มขู่ โดยเคยบอกให้ตนเองไปหยิบนาฬิกาเพื่อนำมาใส่ในกระเป๋าของตน และกล่าวหาว่าตนเป็นคนที่ขโมยนาฬิกา เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการข่มขู่ ซึ่งตนเองต้องอดทนถูกทรมานแบบนี้มานานถึง 2 ปี เพราะนายจ้างข่มขู่ไว้ว่า จะทำให้พ่อติดคุกและจะนำตัวลูกของตน มาทารุณแบบตนเอง ทำให้ตนกลัว ซึ่งเจ้าของร้านเป็นสองสามีภรรยา ส่วนใหญ่คนที่ลงมือทำร้ายร่างกายจะเป็นฝั่งภรรยา และชอบอ้างว่า สนิทกับตำรวจในพื้นที่และมีญาติผู้ใหญ่เป็นทหาร ทำให้ตนไม่กล้าออกไปขอความช่วยเหลือจากใคร

ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังจากที่น้องผู้เสียหายหนีออกมาจากร้านและติดต่อมาขอความช่วยเหลือ ทางเพจได้สอบถามข้อเท็จจริง ทราบว่า นายจ้างมีการบังคับใช้แรงงานเกินควร โดยให้น้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เตรียมของเปิดร้านทุกอย่าง และทำงานคนเดียว จนบางวันต้องเก็บร้านถึงตี 3 ได้นอนแป๊ปเดียว 6 โมง ก็ต้องตื่น และไม่มีที่นอน หมอนผ้าห่อให้ ต้องนอนในครัว ใช้ขวดน้ำหนุนแทนหมอน และนอนบนพื้นกระเบื้อง ได้กินข้าววันละ 1 มื้อ เป็นข้าวกับไข่ 2 ฟอง แล้วแต่จะต้มหรือจะทอด แต่ให้กินแค่นั้นต่อวัน บางวันมีเศษผัก เศษอาหารเหลือๆ จากลูกค้า ก็จะได้กิน ซึ่งสิ่งที่นายจ้างทำกับน้อง ตนเองมองว่ากระทำเยี่ยงสัตว์และเกินกว่ามนุษย์ทั่วไป

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมีการสอบปากคำผู้เสียหาย และจะมีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตภาษีเจริญ จะเรียกผู้กำกับมาสอบถาม หากพบว่ามีการคุกคามจริง จะดำเนินการกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้งในเรื่อง พ.ร.บ.แรงงาน เกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงาน โดยจะบูรณาการร่วมกับกระทรวงแรงงาน และจะไล่เรียงเรื่องต่างๆ โดยตอนนี้ยืนยันว่า ทราบตัวเจ้าของร้านแล้ว เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น