MGR Online - ปคบ. ร่วม กรมปศุสัตว์-อย. บุกถึงแหล่งจำหน่าย ยึดไส้กรอกจีนสุดฮิต 1,440 แท่ง และของกลาง อีก 20 รายการ นิยมส่งร้านหมาล่าสายพาน
วันนี้ (20 ก.ค.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อม ว่าที่ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ., น.สพ.ต้นพงศ์ คำพลงาม นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมปศุสัตว์, ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมแถลงผลการปฏิบัติกรณีตรวจสอบแหล่งขายผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ยี่ห้อ “Shuanghui” จำนวน 1,440 แท่ง และผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รวม 20 รายการ รวมกว่า 1,861 ชิ้น
สืบเนื่องจาก กรมปศุสัตว์ได้ทำการตรวจยึดสินค้าไส้กรอกหมูลักลอบนำเข้าจากประเทศจีน โดยซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ยกระดับการป้องกันโรคระบาดสัตว์เข้าประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เพื่อป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ในทวีปเอเชีย จึงไม่อนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เนื่องจากเชื้อโรคดังกล่าวสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อม หรือซากสัตว์ได้นาน หากมีการนำขนส่งไปมาอาจเกิดความเสี่ยงในการปนเปื้อนและแพร่ระบาดของเชื้อโรค จนก่อให้เกิดโรคระบาดสัตว์ ส่งผลให้มีการแพร่กระจายไปในที่ต่างๆ หากเกิดการระบาดในประเทศอาจเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
โดยไส้กรอกดังกล่าวเป็นที่นิยมนำมาประกอบอาหารสุกี้สไตล์จีน แบบหมาล่าสายพาน ที่มีผู้คนนิยมรับประทานกันในขณะนี้ ร้านเหล่านี้มักจะมีเนื้อสัตว์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูปและน้ำซุปจากประเทศจีน มาประกอบอยู่ในเมนูด้วย ไส้กรอกชนิดดังกล่าวจะมีลักษณะแบบแท่งน้ำหนัก 40 กรัม ไม่แช่เย็น บรรจุในถุงพลาสติกเหนียวอย่างดี สามารถรับประทานได้ทันที หรือนำเข้าไมโครเวฟ เก็บรักษาไว้ในที่แห้ง มีอายุการเก็บรักษา 180 วัน หรือ 6 เดือน ปกติไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ส่วนมากมีขายตามตลาดชายแดน เช่น สปป.ลาว และกัมพูชา
จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงนำมาสู่การมาตรการเชิงรุก โดยมีการติดตามเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ที่อาจซื้อมารับประทานและได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน หรือเชื้อโรคที่แฝงมา จนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ ต่อมาได้รับการประสานจากกรมปศุสัตว์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ทำการตรวจสอบแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไส้กรอก และอาหารนำเข้าจากประเทศจีนย่านประชาชื่น กรุงเทพมหานคร จึงทำการสืบสวน พบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศจีนจริง
ต่อมา วันที่ 18 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ กรมปศุสัตว์ และ อย. เข้าทำการตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่ง ย่านถนนประชาชื่น แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจค้น พบ น.ส.จินดามณี (สงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานดูแลของสถานที่ดังกล่าว ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ยี่ห้อ “Shuanghui” จำนวน 1,440 แท่ง และผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รวม 20 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี โดยของกลางที่ยึดในครั้งนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจาก ประเทศจีนทั้งหมด
ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ไส้กรอกหมูที่ลักลอบนำเข้ามานั้น เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ได้ขอเลขสารบบอาหารและไม่แสดงฉลากตามกฎหมาย การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 กรณีผู้นำเข้า หากนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และหากพบการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่แสดงข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เลขสารบบอาหาร ผู้ผลิต ส่วนประกอบ วิธีรับประทาน จะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ หาจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค วัตถุกันเสีย และ สี ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบสารปนเปื้อน หรือจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จัดเป็น “อาหารไม่บริสุทธิ์” ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ว่า อย่าซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ทราบที่มาของแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจากร้านอาหาร ร้านค้าทั่วไป หรือแหล่งขายทางออนไลน์ เพราะอาจเกิดอันตรายจากการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค และขอเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบผลิต หรือจำหน่ายอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตหรือตัวแทนจำหน่าย ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด และหากพี่น้องประชาชนพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา