รองโฆษก ตร.เผยสอบปากคำ “จ.ส.อ.” เสมียน วทบ.ยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต เป็นวันที่สอง ยังให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เตรียมแจ้ง 4 ข้อหาก่อนคุมตัวฝากขังพรุ่งนี้
จากกรณี จ.ส.อ.ยงยุทธ มังกรกิม อายุ 58 ปี ตำแหน่งเสมียน วิทยาลัยการทัพบก ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงานในวิทยาลัยการทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 ก.ย.) ที่ สน.ดุสิต พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเดินทางมาติดตามคดีดังกล่าว หลังควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า เป็นวันที่สองที่ได้ควบคุมตัว จ.ส.อ.ยงยุทธ พนักงานสอบสวนมีอำนาจในการควบคุมตัว 48 ชั่วโมง การให้การของผู้ถูกจับกุมไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก ยังคงให้การสับสน พนักงานสอบสวนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องติดต่อไปยังแพทย์โรงพยาบาลวชิระ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลผู้ก่อเหตุเคยไปรักษาตัวช่วงปี 2559 เพื่อตรวจระบบประสาท ซึ่งทาง ผกก.สน.ดุสิต ได้กำกับดูแลการสอบสวนอย่างใกล้ชิด โดยมีทหารรัฐธรรมนูญเข้าร่วมรับฟังการสอบสวน หลังจากครบกำหนดก็จะนำตัวไปยื่นฝากขังที่ศาลทหาร
ส่วนจะส่งตัวไปตรวจอาการทางจิตหรือเชิญแพทย์มาให้ปากคำอยู่ระหว่างการประสานงาน จริงๆ แล้วเป็นไปตามขั้นตอนตามปกติอยากให้มองว่า ถ้ามีการแจ้งข้อกล่าวหา พื้นฐานจะมี 4 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร แต่ผู้ถูกจับเป็นทหารต้องมีทหารรัฐธรรมนูญเข้ามาร่วมฟังการสอบสวนด้วย และอำนาจในการสอบสวนยังเป็นอำนาจของตำรวจ ส่วนอำนาจในการพิจารณาคดีเป็นศาลทหาร
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยอีกว่า ถ้าการตรวจพบว่า มีอาการป่วยทางจิตมีแนวทางได้หลายทาง ที่ผ่านมา มีทั้งการเข้ารักษาพยาบาลก่อนแล้วเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา หรือจะเป็นกระบวนให้ศาลมีคำสั่งมาที่กระบวนการยุติธรรมอย่างหนึ่งอย่างใด อย่าไรก็ตามก็เป็นไปตามกระบวนการสอสวนไม่ได้แปลกใหม่ ภายใน 48 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนในเชิงธุรการให้แล้วเสร็จ เมื่อครบเวลาที่กำหนดยังไม่แล้วเสร็จต้องนำผู้ต้องหาไปฝากขังศาลที่ศาลทหาร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะผู้ถูกจับกุมยังไม่ได้มีความพร้อมในการรับแจ้งข้อหา แต่ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งแก่ผู้ถูกจับกุมแล้วว่าถูกจับกุม เพราะกระทำความผิดอะไรมา เบื้องต้นจากการสอบพยาน 10 ปาก เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่สิ่งที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชม.คือ การแจ้งข้อหาก่อนนำตัวฝากขัง ถ้าเร็วก็บ่ายวันนี้หรือช่วงสายวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ได้นำตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถคุมขังออกจากสถานีตำรวจเพื่อส่งตัวไปตรวจที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ต่อไป