เชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ชี้คดีหนุ่มผู้ต้องหาคดีสังหารโหดสามีและภรรยาตั้งท้องลูกแฝดที่ไต้หวัน หลบหนีกลับมาบ้านที่เชียงใหม่ หากถูกจับกุมต้องดำเนินคดีในประเทศไทย เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน สั่งสแกนทุกพื้นที่ละเอียดยิบควานหาตัว พร้อมกล่อมให้เข้ามอบตัวเองจะดีกว่า ระบุถ้าถูกจับส่งไต้หวันต้องโดนโทษประหารสถานเดียว
ช่วงบ่ายวันนี้(14 มิ.ย.65) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยถึงคดีคนสังหารสามีและภรรยาตั้งท้องลูกแฝดที่ไต้หวัน ซึ่งผู้ต้องหาหลบหนีมาที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายลงทั่วพื้นที่เพื่อเร่งติดตามหาตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนประเด็นที่ว่าหากจับกุมตัวได้จะดำเนินคดีในประเทศไทยหรือต้องส่งตัวไปไต้หวันนั้น ขณะนี้ได้มีการร้องทุกข์และมีการขออนุมัติหมายจับในประเทศไทยแล้ว ดังนั้นจึงน่าจะมีการสอบสวนคดีในประเทศไทย ส่วนจะส่งตัวต่อให้กับทางไต้หวันดำเนินคดีหรือไม่นั้น ต้องดูพนักงานสอบสวนจากกองปราบปรามอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ เนื่องจากคดีนี้เป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นคนไทย และพ่อของผู้ตายได้มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในประเทศไทย จนกระทั่งทางศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว นอกจากนี้ไต้หวันกับประเทศไทย ไม่มีสนธิสัญญาส่งคนร้ายข้ามแดนใน 150 ประเทศที่มีสนธิสัญญาร่วมกัน เบื้องต้นคดีนี้จึงน่าจะต้องมีการดำเนินคดีในประเทศไทย ส่วนผู้ต้องหาจะหลบหนีออกไปนอกประเทศแล้วหรือไม่นั้น มองว่ามีความเป็นไปได้หมดทั้งยังหลบซ่อนอยู่ในประเทศและหลบหนีไปแล้ว โดยไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ต้องหามามอบตัวจะดีที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่าตามกฎหมายของไต้หวันนั้น ผู้กระทำความผิดในข้อหาฆ่าคนตาย มีโทษเด็ดขาดต้องถูกประหารชีวิตสถานเดียวด้วยการถูกยิงเป้า