MGR Online - โฆษก ตร. วอน ปชช.ขอให้ดูที่ผลลัพธ์ ยันคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา เมื่อปี 2558 คณะทำงานฯ บูรณาการจากหลายหน่วย ไร้การแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 153 ราย ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วหลายราย คุกสูงสุด 1,626 ปี หวั่นกระทบความเชื่อมั่นด้านการปราบค้ามนุษย์ของประเทศไทยต่อนานาชาติ
วันนี้ (25 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่คลิปของสำนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 และได้มีการชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง ขอชี้แจงว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทย ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ซึ่งในการทำงานนั้น เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากหลายหน่วยงาน ได้เข้ามาร่วมบูรณาการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลังความสามารถ
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า คณะทำงานในคดีนี้ได้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบ จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 153 หมายจับ จับกุมได้แล้ว 122 ราย หลบหนี 31 ราย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง เช่น พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก (ตำแหน่งในขณะนั้น) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ยืนยันไม่มีการละเว้น หรือมีการแทรกแซงจากรัฐบาลหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่อไปว่า ในชั้นศาลมีการพิจารณาคดีแล้วจำนวน 116 ราย ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ 75 ราย มากที่สุดจำคุก 1,626 ปี และบางส่วนดำเนินการถึงชั้นศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาแล้ว โดยมีผู้ต้องหาเสียชีวิตระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาลจำนวน 4 ราย รวมถึง พล.ท.มนัส ซึ่งเสียชีวิตในเรือนจำ แสดงให้เห็นได้ว่า แม้ผู้กระทำผิดจะมีตำแหน่งหน้าที่หรือฐานะทางสังคมอย่างไร ก็ได้ถูกดำเนินตามการกฎหมายอย่างไม่มีการละเว้น
“ขอวอนให้พี่น้องประชาชนได้ดูถึงผลลัพธ์ของการดำเนินคดีอย่างเป็นรูปธรรม จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหากว่า 150 คน รวมถึงผู้ต้องหาบางรายที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจนศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยบางรายมากสุดถึง 1,626 ปี" โฆษก ตร.ระบุ
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ประชุมติดตามความคืบหน้าในคดีนี้และสถานการณ์การค้ามนุษย์โดยรวมในประเทศไทย ซึ่งหากมีความคืบหน้าในการติดตามผลอย่างไร จะเรียนให้พี่น้องสื่อมวลชนทราบต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการปฏิบัติตามนโยบายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นนโยบายหลักและสำคัญของประเทศ โดยรัฐบาลได้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง หากพี่น้องประชาชนท่านใดพบเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์ ขอให้ท่านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทร.สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง