xs
xsm
sm
md
lg

อวสานจิ้งจกเปลี่ยนสี บั้นปลายชีวิต “ธาริต” ป.ป.ช.เจอเพิ่มซุก 53 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 4 ก.พ.65 นำเสนอรายงานพิเศษ อวสานจิ้งจกเปลี่ยนสี บั้นปลายชีวิต “ธาริต” ป.ป.ช.เจอเพิ่มซุก 53 ล.



การดิ้นรนแทบจะหนสุดท้ายของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เรื่องถูกยึดทรัพย์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตกไปเรียบร้อย

เท่ากับว่าทรัพย์สินที่นายธาริตได้มาโดยมิชอบกว่า 346 ล้านบาท ก็คงต้องตกเป็นของแผ่นดิน ตามที่ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาล

ทั้งติดคุก ทั้งโดนยึดทรัพย์ บั้นปลายชีวิตของข้าราชการคนดังอย่าง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นดั่งคำที่ว่า “กรรมตามทัน”

ภาพจำของนายธาริต คือการรับใช้นักการเมืองอย่างไม่แคร์สื่อ พอเปลี่ยนขั้วเปลี่ยนสี ก็หันมาเล่นงานผู้บังคับบัญชาเก่าของตัวเอง แบบเทหมดหน้าตัก

เขาทำตัวเองให้เหมือน “หอก” พร้อมจะเป็นอาวุธทิ่มแทงให้เจ้านาย

ขณะเดียวกัน ก็เป็นดั่ง “สายล่อฟ้า” โดนประชาชนสองขั้วการเมืองด่าประณามไม่มีชิ้นดี

คือสมัยทำงานกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2553 ก็ถูกคนเสื้อแดง และสื่อแดง ด่าเละว่าเป็นข้าราชการเลว

แต่พอย้ายขั้วมาทำงานกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในปี 2554 คราวนี้ถูกคนเสื้อเหลืองด่ากระจาย เพราะเขาจัดหนัก ถึงขั้นแจ้งดำเนินสถานหนักกับนายเก่า ข้อหาสั่งฆ่าประชาชน

ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนเสื้อแดงและสื่อแดง ตอนนี้นายธาริต กลายเป็นข้าราชการที่ดีแล้ว ซะงั้น

ใครไม่แน่จริง คงทำอย่างนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ไม่ได้ ซึ่งเขาก็ได้รับรางวัลตอบแทนอย่างงามจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จัดการต่ออายุราชการให้นายธาริต ในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ อันทรงอิทธิพล

ไม่เพียงกลับมาเล่นงานนายเก่า นายธาริตยังช่วยเคลียร์คดีให้เครือข่ายนายปัจจุบัน ณ เวลานั้น อย่างการสั่งไม่ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ที่ปราศรัยดุเดือดด้วยคำว่า “กระสุนพระราชทาน” ที่ล่อแหลมจะเป็นคดี 112

เคยสั่งยกเลิกการอายัดทรัพย์ ที่ดินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งโดนคดีฉ้อโกงประชาชน โดยมีโยงใยการโกงไปถึงวัดพระธรรมกาย

ถึงขนาดเด้งรับแรง กรณีภาพ fake “เสือ สิงห์ กระทิง ปู” เสียดสีนายกฯ ยิ่งลักษณ์แสบๆ คันๆ นายธาริตถึงกับประกาศ ต้องทำเป็นคดีพิเศษ

เมื่อพิจารณาจากแต้มต่อทางการเมืองเวลานั้น ดูอย่างไร รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ภายใต้การบงการของพี่ชาย ก็คงครองอำนาจไปอีกนาน

นายธาริตจึงแทงม้าตัวเดียว แบบไม่มีกั๊กไม่มีโต๊ด ขอทุ่มเทให้พรรคนี้ หวังชีวิตบั้นปลายคงจบลงอย่างสุขสบาย

ว่าไปแล้ว การทำงานกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แท้จริงก็คือการกลับบ้านหลังเก่า เพราะตอนที่นายทักษิณ ชินวัตร ริเริ่มตั้งพรรคการเมือง มีการระดมความคิดจากนักกฎหมาย ปรากฏว่านายธาริตก็คือหนึ่งในนั้น

จนได้เป็นเปิดซิงหน่วยงานเปิดใหม่อย่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ในตำแหน่งเลขาธิการคนแรก

ท่ามกลางความอบอุ่นเชื่อมั่น ใต้ปีกพรรคการเมือง แต่แล้วเคราะห์ร้ายก็มาถึงนายธาริตอย่างไม่คาดฝัน ในรูปของการรัฐประหารเมื่อปี 2557 นำมาสู่การเช็กบิลทบต้นทบดอก

ไม่เพียงแต่ถูกไล่ออกจากราชการ แต่ยังถูกดำเนินคดี ถูกยึดทรัพย์ ขณะที่โจทก์เก่าทั้งหลายแหล่ ก็แห่มาฟ้องร้อง รวมแล้ว นายธาริตมีคดีติดตัวไม่ต่ำกว่า 26 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาท

คดีเหล่านั้น ยังต่อสู้กันในชั้นศาลไม่จบ แต่หลายคดีก็พิพากษาจำคุกนายธาริต แบบไม่รอลงอาญาไปแล้ว

ความเชี่ยวชาญกฎหมายของนายธาริต ดูเหมือนจะช่วยอะไรเขาไม่ได้มาก มีแต่ดิ้นรนไปอย่างสิ้นหวัง

ในส่วนทรัพย์สินที่ได้มาโดยทุจริต นายธาริตก็พลิกสถานการณ์ได้บ้าง เมื่อมีการโยกย้ายถ่ายโอนไปก่อนแล้วจำนวนมาก

โดยจากจำนวน 346 ล้านบาทที่ถูกตรวจสอบเจอนั้น มีแค่ 90 ล้านบาทเท่านั้น ที่ ป.ป.ช.อายัดได้ทัน แต่อีก 256 ล้านบาท ยากจะตามเอาคืน

อย่างไรก็ดี มีข่าวออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ป.ป.ช.ตรวจสอบเจอทรัพย์สินก้อนใหม่ ที่นายธาริตซุกไว้อีก 53 ล้านบาท

จิ้งจกเปลี่ยนสี บางทีก็อวสานไม่สวย


กำลังโหลดความคิดเห็น