MGR Online - รอง ผบช.น.เผย แจ้งความใน บช.น.แล้ว 13 คดี ผู้เสียหาย 13 คน มูลค่า 1 แสนกว่าบาท ผบช.น.กำชับรวบรวมข้อมูลส่งต่อ ศปอส.ตร.“บิ๊กปั๊ด” สั่งเปิดรับแจ้งความคดีดูดเงินทั่วประเทศ ขู่ ตำรวจบ่ายเบี่ยงถือว่า ผกก.บกพร่อง
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีมีประชาชนหลายรายถูกถอนเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว ว่า ขณะนี้ในพื้นที่ บช.น.รับแจ้งความแล้ว 13 คดี มีผู้เสียหาย 13 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 116,903 บาท เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผบช.น.ได้กำชับตำรวจทุกพื้นที่เรื่องการรวบรวมข้อมูลรับแจ้งความแล้วส่งมาที่ รอง ผบก.รับผิดชอบงานสอบสวน และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อพิจารณามอบหมายให้ บช.สอท.และ บช.น.ดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ภาพรวมทั่วประเทศรับแจ้งความแล้ว 120 กว่าคดี มูลค่าความเสียหายรวม 1 ล้านกว่าบาท ความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละคนไม่มากแต่หลายครั้ง ทำให้มิจฉาชีพสามารถกลบระบบแจ้งเตือนผู้เสียหายได้ อยากให้ทุกคนตรวจสอบการเดินบัญชีของตัวเอง ทั้งการใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต และการทำธุรกรรมต่างๆ หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรม แอปพลิเคชัน ลิงค์แปลกๆ ไม่คุ้นเคย หรือเว็บไซต์ปลอมที่ระบุเสียภาษี เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลไปใช้ก่อเหตุทำให้เกิดความเสียหาย ในวันนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ได้ร่วมประชุมกับ สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ทุกโรงพักรับแจ้งความ และรับแจ้งความทางออนไลน์ที่ ศปอส.ตร.และ บช.สอท.โดยเปิดกูเกิลฟอร์มเป็นแอปพลิเคชันรับแจ้งความและแผนประทุษกรรมจะรวบรวมสถิติทุกวัน ฝากถึงผู้เสียหายสะดวกที่ไหนให้ไปแจ้งความที่โรงพักนั้น ถ้าไม่ได้รับความสะดวกสบายด้านการบริการสามารถแจ้งมาได้ หรือตำรวจไม่รับแจ้งความ หรือบ่ายเบี่ยงถือว่าเป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนและหัวหน้าโรงพัก ผบ.ตร.เน้นย้ำให้ความสำคัญกับความเดือนร้อนของประชาชน จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งการได้มาซึ่งพยานหลักฐาน การพิสูจน์ทราบตัวบุคคล การพิสูจน์ความผิด และการจับกุม
