รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 3 ส.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ยุทธศาสตร์ 2 ขาล้มบิ๊กตู่ “แม้ว” คลับเฮ้าส์ “เต้น” คาร์ม็อบ
การชุมนุมม็อบไล่บิ๊กตู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันอาทิตย์ที่1 สิงหาคม ดูแล้วมีบรรยากาศในขณะนี้คล้ายกับยุคเสื้อแดงเมื่อ 11 ปีก่อน
หลัง “เต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ลั่นกลองรบร่วมทัพ “คาร์ม็อบ” กับ “บก.ลายจุด”สมบัติ บุญงามอนงค์ โดย “เต้น-ณัฐวุฒิ” เอาฤกษ์เอาชัยสวมเสื้อแดงคำว่า “ไพร่” ลงถนน โดยก่อนเริ่มเคลื่อนขบวน “เต้น-ณัฐวุฒิ” ได้ร้องเพลง “แดงเสรีชน” เพื่อรำลึกการต่อสู่ของคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ ด้วย
.
ในขบวนคาร์ม็อบ จะพบธง นปช. และผ้าแดงโพกหัว และสัญลักษณ์ต่างๆ มีภาพ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ร่วมอยู่ด้วย
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า นปช. เป็นส่วนหนึ่งของคาร์ม็อบ ซึ่ง บก.ลายจุด เองก็เคยเป็นหนึ่งในแกนนำเสื้อแดงยุคเผาบ้านเผาเมือง แต่ในวันนี้ขบวนการต่อสู้ของ “คนเสื้อแดง” ไม่ได้เหนียวแน่นเฉกในอดีต แต่กลับมี “พลังคนรุ่นใหม่” เข้ามาสมทบ
รวมทั้งกลุ่มคนที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเข้าร่วมร่วม ทำให้ “เต้น-ณัฐวุฒิ” เรียกการจัดคาร์ม็อบครั้งนี้ว่า “เครือข่ายไล่ประยุทธ์”
เพราะเป็น “ความร่วมมือ” ของหลายๆกลุ่มจัดขึ้นมาในพื้นที่จัดหวังต่างๆ เช่น กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มอาชีวะ หมู่บ้านทะลุฟ้า กลุ่มปลดแอกหรือราษฎรจังหวัดต่างๆ เป็นต้น
.
แน่นอนว่าภาพ นปช. จากนี้จะเปลี่ยนไป การออกมาของ “เต้น-ณัฐวุฒิ” คือหมุดหมายสำคัญที่จะกำหนด “ทิศทาง นปช.” นับจากนี้ ซึ่งตัว “เต้น-ณัฐวุฒิ” ก็ได้รับ “การตอบรับ” จากคนรุ่นใหม่ และมี “เครดิต” มากกว่า “ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. จากสายตาคนรุ่นใหม่และคนออกมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์
ด้วยท่าทีของ “ตู่-จตุพร” ที่ออกมาให้ความเห็นหลายครั้ง “ไม่ถูกใจ” และ “มีพิรุธ” ให้คนฝั่งเดียวกัน “ไม่เชื่อใจ” จึงทำให้ภาพการชุมนุม “กลุ่มไทยไม่ทน” ที่รวมอดีตเสื้อเหลือง-แดง กลับ “ท่าดีทีเหลว” มีผู้ชุมนุมจำนวนไม่มากนัก ไม่ระคายเคืองรัฐบาล ผิดกับภาพของ “คาร์ม็อบ” ที่เกิดขึ้น
.
มีการมองว่า การออกมาของเหล่าอดีตนปช. เหมือนนัดกันมา เฉกเช่นเหตุการณ์ที่ “ทักษิณ” ใช้วิธีโฟนอินเข้ามาในการชุมนุม นปช. แต่วันนี้ “ทักษิณ” ใช้คลับเฮ้าส์และช่องทางอื่นๆบนโซเชียลฯ สื่อสารกับแฟนคลับและมวลชนแทน ซึ่งคนที่เข้ามาฟัง “ทักษิณ” พบว่ามี “คนรุ่นใหม่” เพิ่มเข้ามาด้วย
ก็คล้ายกับ “คาร์ม็อบ” ที่ไม่ได้มีแต่ “คนเสื้อแดง-นปช.” เช่นในอดีต แม้ว่า “ทักษิณ” จะไม่ได้พูดปลุกระดมให้มาร่วมม็อบเช่นในอดีต แต่สิ่งที่ “ทักษิณ” ออกมาพูดแต่ละครั้ง ก็เพื่อ “สั่นคลอน” และตอกย้ำ “ความผิดพลาด” ของรัฐบาล รวมทั้งพุ่งเป้าไปที่ “3ป.” อย่างชัดเจน
การเคลื่อนไหวของทักษิณ จึงเป็นอีก “เชื้อไฟ” ที่สามารถใช้ปลุกแรงต่อต้านขึ้นมาได้ และปลุกฐานมวลชน เตรียมการเลือกตั้งในอนาคตไปในตัว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “เต้น-ณัฐวุฒิ” ยังคงมี “สายสัมพันธ์” กับทาง “ทักษิณ” แม้วันนี้ นปช. จะแตกเป็น 2 สาย ได้แก่ สายจตุพร กับ สายณัฐวุฒิ แต่ก็ไม่มีการยุบ นปช. ซึ่งบรรดาแกนนำก็แก้ปัญหาโดยการ “ต่างคนต่างอยู่”
ทาง “สายณัฐวุฒิ” นั้น ยังผูกโยงกับ “ทักษิณ” เพราะเมื่อครั้งเลือกตั้งปี2562 โดย “สายณัฐวุฒิ” ไปอยู่ทางซีก “พรรคไทยรักษาชาติ” ที่เป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทย ส่วน “สายจตุพร” ไปทาง “พรรคเพื่อชาติ” ซึ่งสุดท้ายแล้ว “จตุพร” ก็ออกจากพรรคเพื่อชาติ มาตั้งทัพที่ “พีซทีวี” ย่านรามอินทรา
และตั้ง “กลุ่มไทยไม่ทนฯ” ขึ้นมา เป็นฐานที่มั่นของตัวเอง ก่อนต้องกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง หลังศาลฎีกายืนจำคุก"จตุพร" 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เมื่อปี 2552 ซึ่ง “จตุพร” ได้ฝาก “บก.ลายจุด” ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป
.
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าทางฝั่ง “เพื่อไทย-ทักษิณ” กลับมาเดินเกม 2 ขาอีกครั้ง ทั้งเกมในสภา การเตรียมเลือกตั้ง และการชุมนุมบนท้องถนน คล้ายกับเมื่อ 2553 ในการล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่พวกเขาเรียกว่า “ฝั่งอำมาตยาธิปไตย” นั่นเอง
