“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม 2564 ตอน ไทยไม่ทน ไล่บิ๊กตู่ ขยับทุบฐานอำนาจ
กลุ่ม ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังเคลื่อนไหวไล่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงจากอำนาจ แม้ถูกปรามาสว่า จุดไม่ติด แต่ไม่ยอมเลิกรา ไม่เป็นปัญหา
เริ่มพลิกกลยุทธ์ เดินออกจากที่ตั้ง ออกมาเคลื่อนไหว เดินสายยื่นหนังสือถึงพรรคร่วมรัฐบาล คือ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รวมถึงยื่นหนังสือเรียกร้องให้ บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ ลาออกจากนายกฯ แถมด้วยการจี้ให้ผบ. เหล่าทัพถอนตัวจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยตำแหน่ง
การไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ พรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล มีหรือที่คนอย่าง จตุพร และอดุลย์ จะไม่รู้ว่า ให้เรียกร้องให้ตายยังไง สองพรรคนี้ก็ไม่มีทางถอนตัวในสถานการณ์ ณ เวลานี้
แต่ก็ทำไปเพื่อเจาะยางทุบฐานอำนาจรัฐบาล และหลอกด่าตีกินไปก่อน เช่นไปพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประจานประชาธิปัตย์ จอมหลักการ ว่าตระบัดสัตย์ที่เป็นนั่งร้านให้บิ๊กตู่ แบบฟรีๆ สรุปแล้วแผนนี้แค่เป้าหมายแรกก็เห็นผลดีกับม็อบไทยไม่ทน ที่ดีกว่าไม่ออกมาทำอะไรเลย
ตอนนี้มีข่าวภายในว่า ทีมงานของไทยไม่ทน ที่ใช้สถานีพีซทีวี ย่านรามอินทรา เป็นศูนย์บัญชาการการเคลื่อนไหว กำลังคิดวางแผน จะสร้างอีเวนต์การเมือง ให้ออกมาต่อเนื่อง อีกหลายอีเวนต์ นับจากนี้ เพื่อเลี้ยงกระแสไล่บิ๊กตู่ ไปเรื่อยๆ คล้ายกับเลี้ยงอารมณ์ประชาชนไว้ เพื่อรอสถานการณ์สุกงอม
กลุ่มแนวร่วมไทยไม่ทน ระดับแกนนำบางคนมีความเห็นว่า หากจำเป็นต้องเป่านกหวีด ระดมนัดชุมนุมใหญ่ ก็อาจต้องทำ หลังกระแสประชาชนไม่พอใจ รัฐบาล ในเรื่องการบริหารวัคซีนมาฉีดให้ประชาชน ซึ่งเริ่มพบปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ กับความล่าช้าในการกระจายฉีดวัคซีน
เรียกได้ว่า สถานการณ์โควิด จบเมื่อไหร่ กลุ่มไทยไม่ทน คงไม่รอช้า จะใช้จังหวะ ประชาชนสุดจะทน กับรัฐบาลประยุทธ์ ด้วยการ ส่งสัญญาณเคลื่อนไหวใหญ่ เพื่อสร้างกระแสกดดันไล่บิ๊กตู่แน่
ซึ่งถึงตอนนี้ ต้องยอมรับว่า กลุ่มไทยไม่ทน ได้กลายเป็น กลุ่มก้อนการเมืองระดับแถวหน้า เพียงกลุ่มเดียว ที่เคลื่อนไหวต่อเนื่องและจัดหนัก รัฐบาลมาร่วมสองเดือน
ม็อบสามนิ้ว เงียบหายไปแล้ว หลังแกนนำเดี้ยงกันหมด ทั้งโดนโควิด เล่นงาน ต้องนอนรักษาตัว และถึงต่อให้ไม่มีโควิด ก็ขยับเหมือนปีก่อนยากเพราะแกนนำม็อบสามนิ้ว ที่ได้รับการปล่อยตัวมีเงื่อนไขการปล่อยตัวของศาลที่รัดตึง เป็นชนักติดหลัง ทำให้ขยับแอคชั่นอะไรมาก อาจโดนยื่นถอนประกัน
เลยทำให้ กลุ่มไทยไม่ทน กลายเป็นกลุ่มการเมืองหลักเวลานี้ ที่ยืนซดกับรัฐบาลและบิ๊กตู่ โดยมีแนวร่วมเกิดขึ้นใหม่อีกกลุ่มคือ
กลุ่มประชาชนคนไทย ที่ นำโดย นิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และ ปรีดา เตียสุวรรณ์ นักธุรกิจด้านอัญมณี แต่อยู่ในแวดวงสายนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกลุ่มเอ็นจีโอ มานานปี
ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวของ กลุ่มประชาชนคนไทย แตกต่างจากกลุ่มไทยไม่ทน คือเรียกร้องให้ บิ๊กตู่ ลาออก แล้วจากนั้น ขอให้ส.ส.และส. ว. เปิดช่อง ให้ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อให้มีการเลือกนายกฯคนนอก
ภายใต้สูตร ที่แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย ต้องการคือ เอาคนที่มีบุคลิก สามนำ คือนำคน
-นำงาน-นำความคิด มาเป็นนายกฯ เพื่อตั้ง รัฐบาลสร้างชาติ
โดยชื่อที่ ทนาย นกเขา ขานชื่อว่า สามารถเข้ามาเป็นนายกฯ คนนอก ได้ ที่โยนหินถามทางออกมา ก็มีเช่น ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO),
ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ
หรือ แพทย์หญิงภัททิรา ทางรัตนสุวรรณ ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี จ.ปัตตานี ที่เคยได้รางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบทของรพ.ศิริราช โดยเป็นแพทย์หญิงคนแรกในรอบ 35 ปีที่ได้รับรางวัลดังกล่าว วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
และ พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ เป็นต้น
ซึ่งรายชื่อข้างต้น ทนายนกเขา บอกมาว่า ยืนยันว่าแค่โยนชื่อมาเป็นตัวอย่างว่า ประเทศไทย ยังมีคนที่สามารถขึ้นมาเป็นนายกคนนอก ได้ ไม่ใช่ว่า หากเปลี่ยนม้ากลางศึกจากบิ๊กตู่ไปแล้ว จะหาคนมาแทนไม่ได้ โดยชื่อทั้งหมดที่โยนมา ไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรทั้งสิ้น หรือจะเอาชื่ออื่นนอกเหนือจากนี้ก็ได้ ยังมีอีกหลายตัวเลือก
กลุ่มประชาชนคนไทย แม้ตอนนี้จะดู เงียบๆ แต่ก็ซุ่มรอดูจังหวะการขับเคลื่อน ที่พร้อมจะออกมาต่อจากนี้ โดยหากถึงจังหวะที่เหมาะสม กลุ่มประชาชนคนไทย พร้อมไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มไทยไม่ทน ได้ทุกเมื่อ เพราะก็อย่างที่เห็น สองกลุ่มนี้ ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือเปลี่ยนตัวนายกฯ -ไม่เอาประยุทธ์
อีกทั้งคนในกลุ่มอย่าง ปรีดา เตียวสุวรรณ ก็เพื่อนเลิฟกับอดุลย์ เขียวบริบูรณ์อยู่แล้ว หากทุกอย่างพร้อม กลุ่มไทยไม่ทน และประชาชนคนไทยก็พร้อมหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ยามเมื่อสถานการณ์พาไป
เพียงแต่ช่วงนี้ ตามกลยุทธ์ทั้งสองกลุ่ม คอยเลี้ยงกระแส ไม่เอาบิ๊กตู่ เปลี่ยนตัวนายกฯไปพลางก่อน เพื่อรอวันสถานการณ์สุกงอมมากกว่านี้ จากนั้น การยกระดับเพื่อกดดัน พลเอกประยุทธ์ มีมาแน่!