“พิชัย” ลั่น 7 ปี รัฐบาลประยุทธ์ทำประเทศเสียโอกาส ใช้เงินสะเปะสะปะโดยไม่เกิดประโยชน์ เสียหายหนักยิ่งกว่าการคอร์รัปชัน ย้ำทางออกเดียว นายกฯ ต้องลาออก ขอคนมาแทนที่ฉลาดหน่อยและมาจากประชาชน
วันที่ 25 พ.ค. 2564 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “7 ปี คสช.-พล.อ.ประยุทธ์ ไทยเสียโอกาส-ถอยหลัง?”
โดย นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลประยุทธ์ล้มเหลวทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เรื่องเศรษฐกิจสัญญาณที่เห็นชัดว่ามีปัญหา คือ งบประมาณปี 65 ที่ถูกตัดลดลงจากปี 64 จำนวน 1.85 แสนล้าน ซึ่งปกติต้องมีงบประมาณเพิ่มขึ้น เพราะคนมากขึ้น ประเทศต้องพัฒนาขึ้น ที่ลดเพราะเก็บรายได้ลดลง
ส่วน พ.ร.ก.กู้เงิน ตนเชื่อว่า ยากมากที่รัฐบาลหาเงินใช้คืนได้ 7 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลใช้เงินไปแล้ว 20.8 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะ 8.47 ล้านล้าน เดี๋ยวมีอีก 7 แสนล้าน ก็จะทะลุ 9 ล้านล้าน ตนเตือนเรื่องหนี้สาธารณะมาตั้งนานแล้ว ว่า จะทะลุ 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แล้วหนี้ครัวเรือนจะทะลุ 90 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ซึ่งตัวเลขสุดท้ายพุ่ง 92 เปอร์เซ็นต์แล้ว หนี้เสียธนาคารก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว
นายพิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับตนมีทางเดียว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกจากอำนาจไป ตนมีส่วนร่วมกับกลุ่มไทยไม่ทน ที่นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก มีการโทร.คุยกันตลอด ชื่อกลุ่มตนก็เป็นคนตั้ง
เมื่อถามว่า มีโอกาสลงท้องถนนหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า มีสูง เพราะคนอึดอัด และปัญหาเศรษฐกิจที่พุ่งสูง ส่วนจะทำอย่างไรต่อหากนายกฯลาออก ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งในส่วนของแนวทางตรงนั้น แต่ตนอยากให้มีนายกฯ คนใหม่ ใครก็ดีกว่าประยุทธ์ ขอฉลาดหน่อย แล้วอยากได้ที่มาจากประชาชน ดีกว่าแนวทางของกลุ่มประชาชนคนไทยของทนายนกเขา ที่เสนอนายกฯ คนนอก
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ถ้าตนส่วนร่วมบริหารประเทศในสถานการณ์โควิด ป่านนี้ประชาชนฉีดวัคซีนหมดแล้ว นี่คือ ความผิดพลาดที่ไม่มองเหตุการณ์ในอนาคต รัฐบอกว่าสั่งวัคซีนช้าเพราะคนไทยติดน้อย มันคนละเรื่องกันเลย พอช้ามันเลยเป็นปัญหา
ส่วนการทุจริต ข้อมูลที่ได้รับมันกลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย สิ่งที่แย่กว่าการคอร์รัปชัน คือ การทำประเทศเสียหายจากการเสียโอกาสต่างๆ การใช้เงินสะเปะสะปะและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ทำประเทศเสียโอกาส 7 ปี ถ้าไม่เกิดการไม่ปฏิวัติ ตอนนี้มีรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ท่าเรือ สนามบินใหม่แล้ว นี่คือโอกาสที่เสียไป มันเสียหายมากมายมหาศาล มีการคำนวณตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจ 7 ปี ประมาณ 45 ล้านล้าน รวมค่าเสียโอกาสด้วยอาจแย่กว่านั้น