“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ตอน เปิดลับ 3 P เพื่อไทย สามพิษสกัดเจ๊หน่อย
โทนี่ วู้ดซัม หรือ ทักษิณ ชินวัตร ปรากฏตัวและเสียง ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ คลับเฮ้าส์เพื่อแสดงความคิดเห็นเรื่องต่างๆ โดยการแก้ปัญหาโควิดในประเทศไทย อย่างถี่ยิบ และเชื่อว่า โทนี่ ทักษิณ คงจะโผล่ออกมาพูดเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง สังคม หลังจากนี้อย่างต่อเนื่อง
ทักษิณหรือโทนี่ วู้ดซัมใน พ.ศ.นี้ คงไม่มีหยุดแล้ว เพราะถือเป็นโอกาสทองในการไล่ถล่ม สอนมวยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในประเด็นการแก้ปัญหาโควิดล่าช้า
การเคลื่อนไหวของโทนี่ในทางการเมือง มันก็เป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทย ของทักษิณ ชินวัตร แน่นอน โดยเฉพาะการเรียกเรตติ้ง ให้เพื่อไทย ในยามที่แกนนำพรรคเพื่อไทย แต่ละคน ไล่ตั้งแต่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พูดจาอะไรเรื่อง โควิด ไม่ค่อยมีน้ำหนัก
การออกมาขย่มรัฐบาลและแสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาโควิดโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยสร้างเรตติ้งให้เพื่อไทยได้ ไม่มากก็น้อย เพราะทักษิณก็คือเพื่อไทย เพื่อไทยก็คือ ทักษิณ เงาของกันและกัน เป็นเรื่องที่ปฏิเสธกันไม่ได้
ยิ่งเมื่อ นับจากนี้ นับอายุขัยของสภาฯชุดนี้ ก็เหลืออีกไม่ถึงสองปี ก็หมดวาระในเดือนมีนาคม 2566 การทำให้คนจดจำแบนด์พรรคเพื่อไทยให้ได้ โดยมี ทักษิณ มาเป็นตัวช่วย จึงเป็นผลดีต่อเพื่อไทย โดยตรง ในยามที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังขายไม่ได้ ในทางการเมือง
โดยจุดนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทย เองก็รู้สภาพ จึงเห็นได้ชัด เพื่อไทย กลายเป็นพรรคการเมืองแรกๆ ที่เริ่มออกตัว เตรียมพร้อมรับมือกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ผ่านการแบ่งโซนเลือกตั้ง ที่มีการส่งแกนนำพรรค ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ไปรับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งหลายภาคทั่วประเทศ เป็นการขยับที่พรรคการเมืองอื่นๆ เกือบทั้งหมด มองว่า ไม่ธรรมดา
เพราะในทางการเมือง แวดวงการเมืองวิเคราะห์กัน โอกาส พลเอก ประยุทธ์ นายกฯ จะยุบสภา ก่อนสภาหมดวาระ อาจจะปลายปีนี้ หากรัฐนาวา ประยุทธ์ จำเป็นต้องเลือกยุบสภา เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง
ถ้าแก้ปัญหาโควิด ได้แบบเบ็ดเสร็จ คนไทยฉีดวัคซีนกันได้เกือบค่อนประเทศภายในไม่เกินปีนี้ และสามารถพอพยุงเศรษฐกิจ ไม่ให้ย่ำแย่ต่ำเรี่ยราดได้ มีการอัดฉีดมาตราการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน เช่น โครงการเราชนะ -เรารักกัน-คนละครึ่ง -ยิ่งใช้ยิ่งได้ จนซื้อใจประชาชนทุกกลุ่ม ให้พอใจได้ แล้ว
และหลังร่างพรบ.งบปี 65 ผ่านสภาฯ ผนวกกับ การจัดทัพอำนาจต่างๆ ปลายปีนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ตามร่างของพรรคพลังประชารัฐเสร็จเรียบร้อยดี
โดยเฉพาะการเปลี่ยแปลงระบบการเลือกตั้งเป็นบัตรสองใบ จนทำให้ พลังประชารัฐ ได้เปรียบทุกพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง เมื่อเวลาและโอกาสมา ถึงจุดนั้น บิ๊กตู่ อาจยุบสภา ปลายปี2564นี้
ด้วยเหตุนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ชิงออกตัว จัดทัพแบ่งโซนพื้นที่เลือกตั้งให้แกนนำแต่ละคนรับผิดชอบพื้นที่แต่เนิ่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับศึกเลือกตั้ง ที่สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค ออกคำสั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ 0001/2564 เพื่อให้แกนนำพรรค-ส.ส. รับผิดชอบพื้นที่โซนเลือกตั้ง ก็เป็นเรื่องที่น่าจับตาไม่น้อย
พบว่าส่วนใหญ่ จะให้แกนนำพรรค รับผิดชอบในพื้นที่ของตัวเองหรือพื้นที่ซึ่งมีความคุ้นเคยเช่น สมพงษ์ ในฐานะส.ส.เชียงใหม่ ก็รับผิดชอบ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา และแม่ฮ่องสอน
และแผนนี้อ่านได้ว่า การจัดรุ่นใหญ่ อย่าง สมพงษ์ ลงประกบ พร้อมชนกับ ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน แบบให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้าง
หรือ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคและส.ส.โคราช นครราชสีมา ก็รับผิดชอบ เป็นประธานคุมโซนพื้นที่ จังหวัด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพื่อสู้กับ เนวิน และศักดิ์สยาม ชิดชอบ ของภูมิใจไทย
ยังมีจุดที่น่าสนใจ ก็คือ พื้นที่เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่พบว่า เพื่อไทย จัดการแบ่งโซนเลือกตั้ง ออกเป็น 6 โซน เพื่อซอยพื้นที่เรียงรายเขต อย่างละเอียด โดยมีการส่งแกนนำพรรค อดีตรัฐมนตรี และส.ส.กทม.ของเพื่อไทย ลงไปเป็นประธานคุมโซน แบบเขตต่อเขต
คำสั่งแบ่งโซนดังกล่าว นอกเหนือจากการที่ เพื่อไทย ไม่มีการมอบหมายพื้นที่ให้ ส.ส.กทม.เพื่อไทยสาย เจ๊หน่อย คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่ตอนนี้ออกไปตั้งพรรคไทยสร้างไทย อย่าง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรค อดีตรมว.ไอซีที -การุณ โหสกุล หรือจิรายุ ห่วงทรัพย์ ให้รับผิดชอบพื้นที่ คงมั่นใจแล้วว่า คนเหล่านี้ไปอยู่กับไทยสร้างไทยแน่
ในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่น่าสนใจไม่น้อย ก็คือ การที่ พรรคเพื่อไทย ที่ปัจจุบัน ควบคุมและบริหารจัดการพรรคโดยสองกลุ่มใหญ่คือ สายตระกูลชินวัตร กับสายเสี่ยเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล อดีตรมว.คมนาคม พบว่า คำสั่งแบ่งโซนล่าสุด เพื่อไทย ส่งสามแกนนำพรรค ที่รู้กันดีในพรรคเพื่อไทยและแวดวงการเมืองว่า ไม่กินเส้น เป็นคู่ปรับไม้เบื่อไม้เมากับ เจ๊หน่อย สุดารัตน์ มาตลอด
โดยสามคนดังกล่าว ก็คือ พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล -พิชัย นริพทะพันธุ์ หรือเสี่ยแดง และเจ๊แจ๋น พวงเพชร ชุณละเอียด หรือ "3 พี เพื่อไทย" ที่เป็นแกนนำพรรค นายทุนพรรคตัวจริงทั้งสามคน ลงมาเป็น ประธานคุมโซนพื้นที่ กทม.
3พี หรือ3 พิษ พีแรก คือ พงษ์ศักดิ์ คุมพื้นที่ เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดุสิต ปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย พีสอง -พวงเพชร ที่พื้นฐานเป็นนักการเมืองจังหวัดเลยมาตลอด มาเป็นประธานโซน ดูแล เขตดินแดง ห้วยขวาง พญาไท ราชเทวี จตุจักร บางซื่อ หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว และวังทองหลาง
และพีสาม คือ พี พิชัย เสี่ยแดง ที่บ้านอยู่หลังสยามพารากอน ก็มาเป็นประธานโซนคุมพื้นที่ คลองสามวา หนองจอก ลาดกระบัง สะพานสูง ประเวศ สวนหลวง บางนา และพระโขนง
การส่งสามพี มาเป็นแม่ทัพในกทม. พงษ์ศักดิ์-พวงเพชร-พิชัย มีภารกิจทำให้เพื่อไทยได้ส.ส.ในเขตที่ตัวเองรับผิดชอบ โดยที่ทั้งสามพี ต่างก็รู้มือ รู้ชั้นเชิงกลยุทธ์การเมืองของสุดารัตน์ เป็นอย่างดี ผนวกกับทั้งสามคน เป็นคู่ปรับการเมืองกันมาก่อนกับ สุดารัตน์ การจะแพ้ให้กันง่ายๆแบบล้มมวยจึงเป็นไปไม่ได้
ศึกคนกันเอง สุดารัตน์ ไทยสร้างไทยกับ สามพี หรือสามพิษเพื่อไทย ในการชิงชัยเลือกตั้งเมืองหลวง เมื่อ การเลือกตั้งมาถึง คงควักกันกระจาย! เพราะแต่ละคนแพ้ไม่ได้