MGR Online - “อัจฉริยะ” พาครอบครัวแพะคดียาเสพติด ร้อง ก.ยุติธรรม ช่วยเหลือเงินประกันตัว 2 ล้านบาท หลังถูกคนร้ายนำเลข 13 หลักบัตร ปชช. แอบอ้างไปส่งยาผ่านบริษัทพัสดุเอกชน
วันนี้ (5 เม.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พามารดาและภรรยาของ นายวีรโชติ สุทธิกุล แพะคดียาเสพติด ที่มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต มาร้องเรียน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมหลังถูกตำรวจ บช.ปส. จับกุมคดียาบ้า 2 แสนเม็ดและไอซ์ 2 กิโลกรัม โดยผ่านทาง กองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ขอเงินประกันตัว จำนวน 2 ล้านบาท ออกมาต่อสู้คดีหลังศาลจะมีการนัดสั่งฟ้อง ในวันที่ 26 เม.ย.นี้
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 63 ตำรวจ บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหาพร้อมพัสดุเป็นลำโพงเครื่องเสียงที่ซุกซ่อนยาบ้า 2 แสนเม็ด และไอซ์ 2 กิโลกรัม ได้ที่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อตรวจสอบพบว่าต้นทางถูกส่งมาจากบริษัทส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 63 ซึ่งจากการสอบสวนบริษัทดังกล่าวพบว่ามีผู้ชายอ้างว่าลืมบัตรประชาชนแต่ขอใช้เลข 13 หลักบัตรประชาชนแทน และใช้ชื่อสกุล “วีรโชติ สุทธิกุล” เป็นผู้ส่งพัสดุดังกล่าว
นายอัจฉริยะ เผยอีกว่า ต่อมา เดือน ก.ค. 63 ตำรวจ บช.ปส. ได้ขอศาลออกหมายจับนายวีรโชติ ก่อนเจ้าตัวเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ ในเดือน ส.ค. 63 หลังหมายจับถูกส่งไปยังที่บ้าน พร้อมนำหลักฐานเป็นบันทึกการสแกนนิ้วมือเข้าทำงาน และกล้องวงจรปิดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ กระทั่งวันที่ 10 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา อัยการกลับมีการสั่งฟ้องและควบคุมตัวนายวีรโชติ เข้าเรือนจำทันที
“พนักงานสอบสวนที่ทำคดียอมรับว่า จากหลักฐานพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เนื่องด้วยสำนวนได้ถูกส่งไปอัยการเป็นที่เรียบร้อย พนักงานสอบสวนจึงไม่สามารถก้าวล่วงได้ ทั้งนี้ ยังพบว่า ยาเสพติดที่ถูกส่งจากเครือข่ายรายนี้ มีการใช้ชื่อบุคคลอื่นในการส่งยาเสพติดไปจังหวัดต่างๆ รวม 5 ครั้ง และครั้งที่ 6 ที่ตรวจสอบพบว่าใช้ชื่อของนายวีรโชติ อย่างไรก็ตาม ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมขบวนการยาเสพติดกลุ่มดังกล่าว” นายอัจฉริยะ กล่าว
ด้าน น.ส.พรวารี มณีสาย แม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ทุกวันนี้ตนเองและครอบครัวได้รับความเดือดร้อน เพราะลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยยืนยันลูกไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และไม่มีความผิดปกติในเรื่องของการใช้เงิน
ขณะที่ น.ส.ลูกน้ำ แก้วใส ภรรยา กล่าวว่า ตลอดเวลาที่อยู่กันมาไม่เคยพบว่าสามีไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และยืนยันว่า สามีไม่เคยเดินทางไป จ.เชียงราย และมีพยานหลักฐานยืนยันวันเวลาเกิดเหตุกำลังทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่ทราบว่า นายวีรโชติ เคยทำบัตรประชาชนหาย แต่ไม่มีการแจ้งความ และได้ไปขอทำบัตรใหม่แทน