สุรินทร์ - “น้องแนน” สาวเมืองช้างติดคุกฟรี 21 เดือนคดียาเสพติด 21 เม็ด ขอบคุณ “ลุงสนธิ ลิ้มทองกุล” เสนอข่าวจนได้รับความช่วยเหลือ ก.ยุติธรรมยอมจ่ายค่าทดแทนรวม 472,245 บาท ทนายระบุถือเป็นกรณีแรกของประเทศที่มีการจ่ายค่าทดแทนในคดียาเสพติด
วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร หรือ “น้องแนน” อายุ 25 ปี ชาวบ้าน บ.โคกเพชร ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตกเป็นจำเลยคดียาเสพติด (ยาบ้า) 41 เม็ด ต้องจำคุกฟรีนาน 21 เดือน ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด กระทั่งศาลฎีกาได้พิพากษาตัดสินให้ยกฟ้องเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมจนเป็นข่าวทางสื่อมวลชน และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ ได้นำเสนอเรื่องราวความอยุติธรรมดังกล่าวทางรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ : SONDHI TALK” กระทั่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ ล่าสุด นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา ที่ให้ความช่วยเหลือทางคดีแก่น้องแนนมาตั้งแต่ต้น ได้พาน้องแนน พร้อมนางพัชรพร บำเพ็ญเพียร อายุ 53 ปี แม่ของน้องแนน เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาต่อยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ที่บ้านของ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร หรือน้องแนน อายุ 25 ปี เลขที่ 77 ม.6 บ.โคกเพชร ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายอาสา ที่ให้การช่วยเหลือในเรื่องคดีดังกล่าว ได้นำหนังสือคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ลงวันที่ 25 มี.ค. 64 มาแจ้งแก่ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร และนางพัชรพร บำเพ็ญเพียร แม่ของ น.ส.สุพรรณษา ทราบ
หลังคณะกรรมการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายให้แก่ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร แยกเป็นค่าทดแทนการถูกคุม เป็นจำนวนเงิน 283,500 บาท และค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ฯ จำนวน 188,745 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 472,245 บาท ซึ่งเป็นการพิจารณาตามความในมาตรา 8 มาตรา 15 และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 วรรคหนึ่ง และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2559 ข้อ 6 (3)
นางพัชรพร บำเพ็ญเพียร แม่ของ น.ส.สุพรรณษา กล่าวว่า ขอบคุณและดีใจที่ทางยุติธรรมจ่ายค่าทดแทนให้ลูกสาว ขอขอบคุณสื่อที่นำเสนอข่าว และขอขอบคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ช่วยเร่งรัดเรื่องให้ ร่วมทั้ง คุณลุงสนธิ ลิ้มทองกุล และทนายคำสิงห์ด้วย หากไม่ได้ทุกท่านเข้ามาให้การช่วยเหลือคงไม่มีวันนี้ ส่วนสภาพจิตใจของลูกสาวตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าดีขึ้น
ขณะที่ น.ส.สุพรรษาได้กล่าวขอบคุณสื่อต่างๆ ที่ให้การช่วยเหลือตนในครั้งนี้ โดยเฉพาะคุณลุงสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมทั้งอาหมี นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ช่องนิวส์ 1 และทนายคำสิงห์ ด้วย รวมทั้งพอใจกับค่าทดแทนที่ทางยุติธรรมจ่ายชดเชยให้
ด้าน นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสาที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า คดีลักษณะนี้ถือว่ายังไม่มีใครเคยได้รับเงินเยียวยา เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวไป ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน จึงดีใจที่ทางสื่อมวลชนทุกแขนงได้ช่วยกันนำเสนอจนทราบไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยได้ทดแทนเงินเยียวยาให้แก่จำเลยคือน้องแนน กรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีแรกของประเทศก็ว่าได้ ส่วนจะเป็นบรรทัดฐานให้กระทรวงยุติธรรมได้เยียวยากรณีอื่นๆ หรือไม่และเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดก็เป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรมที่จะพิจารณาต่อไป
“เงินทดแทนน้องแนนจะโอนเข้าบัญชีภายในต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ คดีนี้ต้องขอขอบคุณรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมพิจารณาวินิจฉัยให้การเยียวยาแก่น้องแนน ขอขอบพระคุณ ณ โอกาสนี้ด้วย” ทนายคำสิงห์กล่าวในตอนท้าย
อนึ่ง คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2561 น.ส.สุพรรณษาซ้อนรถจักรยานยนต์กับแฟนหนุ่ม คือ นายศุภกิจ นิยมสวน ในตอนนั้นอายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่คบกันได้ไม่กี่เดือน เพื่อไปทำธุระ แต่แฟนหนุ่มกลับพาไปส่งยาบ้า 41 เม็ดให้สายตำรวจที่ล่อซื้อ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิด ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
โดยแฟนหนุ่มที่เป็นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงถูกศาลตัดสินให้จำคุก 4 ปี 6 เดือน และปฏิเสธว่า น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ครอบครัวไม่มีเงินประกันตัว จนถูกคุมขังในเรือนจำกลางสุรินทร์ฟรีกว่า 8 เดือน ระหว่างสู้คดี โดยมี นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความ อาสาเข้าไปช่วยเหลือทางกฎหมายฟรี เนื่องจากครอบครัว น.ส.สุพรรณษามีฐานะยากจน จนศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องและได้รับอิสรภาพกลับคืนมา และต่อมาอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ฟ้องต่อ โดยศาลอุทธรณ์ตัดสินมีความผิด สั่งลงโทษจำคุก 5 ปี 12 เดือน และปรับเงิน 5.6 แสนบาท ถ้าไม่มีเงินให้กักขังแทนเงินค่าปรับ
ต่อมานายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา ได้ทำเรื่องขอฎีกา และศาลสุรินทร์ได้รับคำร้องส่งให้ศาลฎีกาและศาลฎีการับไว้พิจารณาคดีนี้ โดยระหว่างที่ศาลฎีการับเรื่อง น.ส.สุพรรณษาต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัวระหว่างที่สู้ในชั้นฎีกา
ล่าสุดศาลฎีกามีดุลพินิจตามพยานหลักฐานอ่านคำพิพากษาตัดสินยกฟ้อง ว่าจำเลยไม่มีส่วนร่วมในการกระทำผิด เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา ซึ่ง น.ส.สุพรรณษาต้องติดคุกระหว่างต่อสู้ในชั้นฎีกา 13 เดือน รวม 2 ครั้ง เป็นเวลา 21 เดือน