xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” ยื่นฟ้อง “สุทิน คลังแสง” ส.ส.เพื่อไทย หมิ่นประมาท อภิปรายพาดพิงให้เสียหายเรื่องโฮปเวลล์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอดีตแกนนำ กปปส.
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” ยื่นฟ้อง “สุทิน คลังแสง” อภิปรายพาดพิงหมิ่นประมาทให้เสียหาย ใส่ร้ายกล่าวหาว่าทำให้เสียค่าโง่โฮปเวลล์ 26,000 ล้าน ซัดพูดข้อเท็จจริงครึ่งเดียว เหตุการณ์ผ่านมาหลายรัฐบาลกว่า 20 ปีแล้ว ยังเอามาพูดบิดเบือน จึงต้องฟ้องเป็นคดีตัวอย่าง 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอดีตแกนนำ กปปส.เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญา ม.326, 328 กรณีนายสุทินอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2564 โดยมีเนื้อหาพาดพิงนายสุเทพ เรื่องโครงการโฮปเวลล์

ภายหลังยื่นฟ้องนายสุทินต่อศาลเรียบร้อยแล้ว นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า นายสุทิน ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายในสภากล่าวหาว่าผมกระทำการด้วยความประมาทเลินเล่อในกรณีโฮปเวลล์ ทำให้รัฐเสียหาย 26,000 ล้านบาท และกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ช่วยเหลือผม พยายามประวิงเวลาให้คดีหมดอายุความก่อน ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ ส.ส.อภิปรายในสภาคิดเอาเองว่า ตัวเองจะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย พูดอะไรก็ได้ เราก็จะเห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มี ส.ส.หลายคนพูดจาไม่เหมาะสม ไม่พูดความจริง บิดเบือน ด่าว่านายกฯ และรัฐมนตรีอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในสภา เขาทำได้เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง แต่ว่ากฎหมายก็ได้ปกป้องสิทธิคนที่อยู่นอกสภา ถ้าพาดพิงถึงบุคคลภายนอกสภาให้ได้รับความเสียหาย กฎหมายก็ไม่คุ้มครองคนพูด บุคคลภายนอกสามารถฟ้องคดีต่อศาลได้ ตนจึงมาฟ้องคดีอาญาให้เห็นเป็นตัวอย่าง

“ผมจำเป็นต้องทำ เพราะว่านักการเมืองพวกหนึ่งทำงานกันเป็นขบวนการ พูดโกหก พูดบิดเบือน พูดใส่ร้าย แล้วก็เอาไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล ทำซ้ำๆ บ่อยๆ คนก็จะเชื่อ สังคมก็คล้อยตาม ผมจำเป็นที่จะต้องปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของผม ผมเคยถูกคนพวกนี้กระทำอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้และต่อไปนี้ผมจะไม่ยอมแล้ว ผมจะดำเนินการคดีทุกกรณี” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า กรณีโฮปเวลล์ที่อภิปรายเป็นตุเป็นตะในสภา ข้อเท็จจริงคือ การตัดสินใจยกเลิกสัญญากับบริษัท โฮปเวลล์ ได้กระทำโดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลก่อนที่ตนจะไปดำรงตำแหน่งเป็น รมว.คมนาคม เขามีมติกันเสร็จเรียบร้อย ตั้งกรรมการพิจารณาว่าจะต้องยกเลิกสัญญาอย่างไร อาจจะต้องทำแผนรองรับอย่างไร เพราะบริษัท โฮปเวลล์ ได้สัญญาสัมปทานไปแล้วไม่สามารถก่อสร้างให้สำเร็จได้ตามสัญญา เปอร์เซ็นต์ของเนื้องานที่ได้ประเมินติดตามกัน 6-7 ปี ก่อนหน้านั้น แสดงให้เห็นว่า บริษัทไม่สามารถทำได้ บริษัทก็ขอแก้สัญญาหลายครั้ง รัฐบาลก่อนหน้านั้น ก็ช่วยแก้สัญญา เมื่อเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ รมว.คมนาคม ก่อนหน้าตน ก็เสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แล้วมีมติให้กระทรวงคมนาคมยกเลิกสัญญากับโฮปเวลล์

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนเข้ามาภายหลัง ก็มอบอำนาจให้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการตามมติ ครม. พิจารณาในการร่างหนังสือบอกเลิกสัญญาจะต้องทำอย่างไร มีตัวแทนอัยการสูงสุด กฤษฎีกา หลายฝ่ายมาประชุมหลายครั้ง ทั้งหมดมีหลักฐานข้อเท็จจริง เมื่อได้ข้อสรุปจะบอกเลิกสัญญาอย่างไร ตนในฐานะ รมว.คมนาคม ก็ลงนามในหนังสือบอกเลิกสัญญา หลังจากนั้น มีรัฐบาลมาอีกหลายรัฐบาล 23 ปีมาแล้ว พรรคเพื่อไทยเองเคยเป็นรัฐบาล มีคนของพรรคเป็นรัฐมนตรีหลายคน ไม่เห็นออกมาดำเนินการอะไร วันนี้มากล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นนายกฯ หลังเหตุการณ์ผ่านมานาน 20 กว่าปีแล้ว

“ผมจะเรียนว่า ข้อเท็จจริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์ประเทศ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรวบรวมหลักฐานเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเรื่องมันผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว เดี๋ยวนี้ผมคิดว่ารัฐบาลจะมีข้อมูลครบถ้วน รมว.คมนาคม คนปัจจุบันก็ได้รวบรวมหลักฐาน เอกสารทั้งหลายครบถ้วน เขาจะต้องดำเนินการต่อไปตามกระบวนการของกฎหมาย นี่เป็นข้อเท็จจริง สิ่งที่ ส.ส.สุทิน เอาไปพูด ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร แต่ว่าไม่พูดความจริงทั้งหมด พูดเฉพาะในประเด็นว่าผมเป็นคนลงนามในหนังสือบอกเลิกสัญญา แต่ไม่ได้พูดถึงความเป็นมาก่อนหน้านั้นและหลังจากนั้น ผมก็ตั้งใจว่าจะเอาความจริงทั้งหมดมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันในศาล ผมไม่ต้องการเห็นการโจมตีใส่ร้าย แล้วก็ทำกันเป็นขบวนการเอาไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล เพื่อที่จะทำลายเครดิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”

ทั้งนี้ ศาลอาญารับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.359/2564 นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 31 พ.ค. 2564 ส่วนค่าเสียหายจะดำเนินการฟ้องทางแพ่งในภายหลัง








กำลังโหลดความคิดเห็น