MGR Online - ดีเอสไอสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจค้นสำนักงาน “เนเน่โมเดลลิ่ง” เครือข่ายแพร่ภาพอนาจารเด็กรายใหญ่ หลังตำรวจออสเตรเลียแจ้งข้อมูล พบสะสมกว่า 5 แสนไฟล์ภาพ เด็กตกเป็นเหยื่อนับหลายพันราย
วันนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอสไอ, เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ, สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, ตำรวจ สภ.คลองหลวง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจค้นจับกุม นายดนุเดช แสงแก้ว หรือนุ หรือเนเน่ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งใช้เป็นสำนักงานเนเน่โมเดลลิ่ง
พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า สืบเนื่องจากกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ รับเรื่องจากสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย เกี่ยวกับบุคคลสัญชาติไทยที่อาจมีพฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยได้รับข้อมูลเป็นภาพถ่ายโป๊เปลือยเด็กเพียงภาพเดียว จนนำมาสู่การปฏิบัติการแบบบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีในการตรวจวิเคราะห์ เชื่อมโยงข้อมูลจากองค์กร Operation Underground Railroad (O.U.R.)
พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวอีกว่า กระทั่งพบเบาะแสว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดชื่อ นายฐกร อรรถปฐมชัย หรือนายหมี หรือนายบาส จึงได้มีการสนธิกำลังร่วมกับ สน.โชคชัย และประสานข้อมูลร่วมกับ Federal Bureau of Investigation (FBI), Homeland Security Investigations (HSI) และ New Zealand Police จับกุมตัวนายฐกรเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 63 และล่าสุดในวันนี้ได้สนธิกำลังร่วมกับ สภ.คลองหลวง ในการรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญเพื่อเสนอเป็นคดีพิเศษที่ 77/2563 และนำมาสู่การจับกุม นายดนุเดช แสงแก้ว หรือนุ หรือเนเน่ ผู้ต้องหาตามหมายจับสัญชาติไทย ที่บ้านพัก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งถือว่าเป็นโมเดลลิ่งเด็กที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย
“ทั้งนี้ จากการสืบสวนและจับกุมนายดนุเดชในครั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการพบคลังภาพลามกอนาจารเด็กมากกว่า 500,000 ไฟล์ภาพ นับว่าเป็นการได้มาซึ่งภาพลามกอนาจารเด็กที่มากที่สุด และเกี่ยวพันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กจำนวนหลายพันราย ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมากกว่าครั้งใดๆ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว ตลอดจนความร่วมมือในการสืบสวนและการบังคับใช้กฎหมายที่มีความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดในหลายทวีปทั่วโลก”
พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวอีกว่า นอกจากการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาแล้ว ดีเอสไอยังได้มีการประสานกับองค์กรเอกชนไม่แสวงผลกำไร ได้แก่ องค์กร O.U.R., มูลนิธิเอ-ทเวนตี้วัน (A21 Foundation), องค์กร LIFT International, มูลนิธิพิทักษ์สตรี (AAT), TCLS Legal Advocate และศูนย์กฎหมายเพื่อสังคม ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงช่วยเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย อันจะนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือเด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ซึ่งเป็นความผิดทั้งทางกฎหมายและศีลธรรม
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, กระทำชำเรา และพยายามกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
