รอง อธ.อัยการปราบทุจริตภาค 9 วอนผู้ปกครองเด็กสาวที่ถูกโมเดลลิ่งทำอนาจาร เข้าตรวจสอบข้อมูลและดำเนินคดี ชี้มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้
วันนี้ (22 ม.ค.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เปิดเผยความคืบหน้าในคดีที่ ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้ร้องขอให้ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศกรณีมีเด็กผู้หญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศหลายราย โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายจำนวนหนึ่ง โดยมีการกล่าวหา นายพงษ์ศักดิ์ มั่นคงวิวัฒน์ ผู้ต้องหา มีโอกาสคลุกคลีกับเด็กหญิงจำนวนมากโดยอาศัยโอกาสจากการประกอบอาชีพเกี่ยวกับเด็ก เปิดบริษัท ดราม่า เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และมีลักษณะเป็นโมเดลลิ่ง (สอนการเต้นการเดินแบบและจัดงานประกวดเด็กในเทศกาลต่างๆ) จนนำไปสู่การออกหมายจับเเละตั้งข้อหาเเละยื่นฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดสงขลาไปเเล้วนั้น
ตนอยากฝากถึงคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองหากทราบเองดีครับว่าบุตรหลานของท่านที่เข้าไปร่วมกิจกรรมกับงานโมเดลลิ่งหรือประกวดเด็ก กับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมที่หาดใหญ่ไปแล้วอยากให้ช่วยกันสอบถามบุตรหลานเรา ว่า ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือ บุตรหลานได้ถูกกระทำอะไรบ้าง รับฟังเรื่องจากเด็กแล้วแจ้งความดำเนินคดีได้เลย แม้ผู้ปกครองยังไม่เห็นภาพที่ผู้ต้องหาถ่ายเก็บไว้เกือบ 100 ภาพ ในการดำเนินคดีตามกฎหมายก็สามารถไปขอตรวจสอบได้และยังมีสิทธิเท่าที่กฎหมายบัญญัติไว้ คดีนี้ยังเป็นคดีอาญาที่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายแเละเงินเยียวยา รวมถึงการคุ้มครองพยานตามกฏหมาย หากมีข้อสงสัยสามารถโทร.สอบถามได้ที่ศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็ก ภาค 9 หมายเลขโทรศัพท์ 074-311349
“ถ้าลูกมองว่า พ่อ แม่ เป็นเพื่อน ลูกจะเล่าทุกเรื่องให้พ่อแม่ฟังอย่าใช้อำนาจปกครองของพ่อแม่จนลืมความเป็นเพื่อนกับลูกนะครับ สังคมเราวันนี้เปลี่ยนยุคสมัยรวดเร็ว มีการพบภาพเด็กเป็น 100 ภาพ แต่ทำไมเด็กไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่ให้ทราบว่าเจออะไรมากับตัวเขา” รองอธิบดีอัยการ ระบุ
นายโกศลวัฒน์ ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของคดีว่าตนได้รับเรื่องนี้จาก ดร.ปนัดดา จึงได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ อส 0042(9)/24 ลงวันที่ 14 ม.ค.2564
เรื่อง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี แจ้งขอความช่วยเหลือเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถึงอธิบดีอัยการภาค 9 เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีมีเด็กผู้หญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศหลายราย โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายจำนวนหนึ่งซึ่งอธิบดีอัยการภาค 9 ในฐานะประธานคณะทำงานประจำศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชน และสถาบันครอบครัวภาค 9 ได้มอบหมายให้อัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายภาค 9 ดำเนินการ ซึ่งศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชนและสถาบันครอบครัวภาค 9 ได้ประชุมหารือร่วมกับตน ในฐานะผู้ได้รับข้อมูลการขอความช่วยเหลือ
เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่ปรากฏการกระทำความผิดทางเพศต่อเด็กหญิงหลายราย โดยผู้ต้องสงสัยซึ่งยังคงมีโอกาสคลุกคลีกับเด็กหญิงจำนวนมาก โดยอาศัยโอกาสจากการประกอบอาชีพเกี่ยวกับเด็ก เปิดบริษัท ดราม่า เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และมีลักษณะเป็นโมเดลลิ่ง (สอนการเต้นการเดินแบบและจัดงานประกวดเด็กในเทศกาลต่างๆ) จึงเป็นกรณีเร่งด่วนที่ต้องสอบข้อเท็จจริง และไม่อาจดำเนินการโดยเปิดเผยอันอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกอ้างอิงตามข้อมูลและภาพถ่ายที่ได้รับมา และเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิด ตลอดจนวัตถุพยานสำคัญที่ใช้ในการกระทำความผิดหรือใช้บันทึกข้อมูลอันเป็นหลักฐานการกระทำความผิด อันได้แก่ โทรศัพท์มือถือ และเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ที่อาจถูกทำลายหรือซ่อนเร้นได้โดยง่ายหากผู้ต้องสงสัยได้รับทราบถึงการตรวจสอบ จึงได้เร่งพิจารณาร่วมกันในการวางแนวทางการดำเนินงานและตรวจสอบข้อมูล จนสามารถติดต่อมารดาเด็กผู้เสียหายคนหนึ่งได้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้เดินทางมาพบคณะผู้ปฏิบัติงานโดยทันทีและได้ยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ต้องสงสัย ทั้งมีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
คณะผู้ปฏิบัติงานจึงได้รายงานต่อท่านอธิบดีอัยการภาค 9 แจ้งประสานงานไปยังตำรวจภูธรภาค 9 และ ผกก.สภ.อ.หาดใหญ่ โดยให้คณะผู้ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือแก่มารดาเด็กผู้เสียหายในการเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ.หาดใหญ่ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันดังกล่าว และเนื่องจากจำเป็นต้องสอบคำให้การเด็กผู้เสียหายซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่ยืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องสงสัย เพื่อดำเนินการขอออกหมายจับและหมายค้นต่อศาล คณะผู้ปฏิบัติงานจึงได้ประสานงานกับพนักงานอัยการและสหวิชาชีพเป็นกรณีเร่งด่วน โดยได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี จึงสามารถสอบคำให้การเด็กผู้เสียหายได้เสร็จสิ้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. 64 และในวันที่ 18 ม.ค. 2564 พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และสอบพยานเพิ่มเติมให้ครบถ้วนทุกประเด็น
ต่อมาวันที่ 19 ม.ค. 2564 ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับและหมายค้นตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวน ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัว นายพงษ์ศักดิ์ มั่นคงวิวัฒน์ ผู้ต้องหาดำเนินคดีได้ในวันเดียวกันและภายหลังศาลให้ประกันตัว
