ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง “หมอเจ้าของ รพ.ลำพูน” สั่งซื้อยาซูโดฯ เกือบ 1 ล้านเม็ด ศาลชี้สั่งซื้อยาถูกต้อง พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักให้ลงโทษจำเลยได้ ด้านเจ้าตัวกล่าวสั้นๆ ว่า นำยาไปรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ภาคเหนือเท่านั้น
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีดำ ย.493/2563 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ลำพูนรวมแพทย์ จำกัด และ ผศ.นพ.โชติ นิสูง กก.ผจก. บริษัท ลำพูนฯร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 มาตรา 3, 4, 16, 19, 29, 123 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91
อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า จำเลยทั้งสองได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ชื่อ รพ.ศิริเวชลำพูน โดยเมื่อระหว่างวันที่ 26 มี.ค. 2553 - 7ก.ย. 2554 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันจำหน่ายซูโดอีเฟรดรีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ซึ่งได้จากการสั่งซื้อ โดยมิได้นำมาเก็บไว้ ในห้องยา รพ.ลำพูนรวมแพทย์ แต่กลับนำไปเก็บไว้ที่บ้านพัก แล้วจำหน่ายให้แก่โรงงาน และร้านค้าต่างๆ จำนวน 42 ครั้ง รวม 954,000 เม็ด โดยไม่ได้รับอนุญาตให้แก่โรงงาน ร้านค้า เหตุเกิดที่ จ.ลำพูน และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด
ในวันนี้ ศาลเบิกตัว นพ.โชติ มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา ขณะที่มีเพื่อน ญาติ และบุคคลต่างๆ เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นเป็นขั้นตอนว่ามีการกระทำความผิดอย่างไร ขณะที่จำเลยนำสืบว่าสั่งซื้อซูโดอีเฟรดรีนอย่างถูกต้อง โดยได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อย.) พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังศาลพิพากษายกฟ้อง นพ.โชติ จำเลย มีอาการดีใจมาก โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มั่นใจในความบริสุทธิ์ เพราะยาที่สั่งซื้อนั้นนำไปขายให้กับหมอด้วยกัน เพื่อรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ และ จ.ใกล้เคียงเท่านั้น ไม่ได้นำไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ด้าน นายประยงค์ ไชยศรี ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้คุณหมอโดนฟ้องว่าซื้อยาซูโดอีเฟรดรีนแล้ว ไม่เก็บไว้ในโรงพยาบาล แต่ความจริงแล้ว สถานที่เก็บนั้นเป็นสถานที่สต็อกเก็บยาหรือคลังยาของโรงพยาบาล ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นโรงพยาบาล จะเป็นที่ไหนก็ได้ นั่นคือ สิ่งที่เราปฏิบัติมาเป็น 20 ปี แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เก็บยาไว้ที่บ้าน ทั้งนี้ขั้นตอนเวลาสั่งยาจากห้องเภสัช ก็ต้องไปเอาจากสต็อกเก็บยา ที่อยู่นอกโรงพยาบาล
นอกจากนั้น ยังฟ้องว่า จำหน่ายซูโดอีเฟรดรีนสูตรผสม โดยไม่แจ้งรายการให้กับ อย.ทราบ ความจริงแล้วสูตรผสม หรือ ยาแก้หวัดนั้น ทุกคนสามารถซื้อได้อยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องแจ้งกับ อย. และแม้กระทั่งในร้านขายของชำก็ยังมีขายอยู่
นายประยงค์ ทนายความ กล่าวต่อว่า คดีนี้เริ่มจากสาธารณสุขจังหวัดแจ้งตำรวจท้องที่จับกุมแล้วภายหลังโอนคดีให้ดีเอสไอสอบสวน ตั้งแต่ปี 2555 สมัย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่เพิ่งมาฟ้องศาลเมื่อปี 2563 ในที่สุดก็พิพากษายกฟ้อง