ศาลอาญาสั่งจำคุก 87 ปี “อัญชัญ” อดีตข้าราชการซี 8 กรมสรรพากร ใช้ยูทูปและเฟซบุ๊กแพร่ข้อมูลหมิ่นเบื้องสูง ผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ลดโทษเหลือ 29 ปี 174 เดือน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.3065/2562 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นางอัญชัญ ปรีเลิศ อดีตข้าราชการกรมสรรพากร ซี 8 เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2558 โดยอัยการศาลทหารกรุงเทพอาศัยอำนาจตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 เรื่องความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหารลงวันที่ 25 พ.ค. 2557 ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 38/2557 เรื่องคดีที่ประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ได้ยื่นฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ใช้งานเว็บไซต์ www.youtube.com ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงได้ โดยการใช้นามแฝง anchana siri, มารี รูท, un un และเป็นผู้ใช้งานเว็บไซต์ Facebook.com ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้โดยใช้นามแฝงว่า Petch Prakery กระทำความผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกันในระหว่างประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้กระทำผิดหลายรายการยึดเป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกระทำความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ระหว่างที่ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติทั้งสองฉบับใช้บังคับต่อศาลทหารกรุงเทพเป็นคดีดำที่ 194/2559 เหตุเกิดที่แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน, แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยให้การรับสารภาพ
ภายหลังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคำสั่งที่ 9/2562 ลงวันที่ 9 ก.ค. 2562 ให้คดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหารกรุงเทพ 65 สำนวน รวมถึงสำนวนคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม จึงมีหนังสือโอนคดีนี้มายังศาลยุติธรรมและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลทหารกรุงเทพ
ในวันนี้ นางอัญชัญ อดีตข้าราชการกรมสรรพากร จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความและบุคคลใกล้ชิดหลายคน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) (3) (5) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์พระราชินีหรือรัชทายาท กับฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นเท็จและเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 29 กระทง เป็นจำคุก 87 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวม 29 กระทง เป็นจำคุก 29 ปี 174 เดือน
ต่อมาญาติของนางอัญชัญ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพยเป็นเงินสด สลากออมทรัพย์ และโฉนดที่ดิน มูลค่ากว่า 1ล้านบาทยื่นขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์
อย่างไรก็ตามศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นควรส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์ เป็นผู้พิจารณามีคำสั่งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้นางอัญชัญ จัถูกนำตัวไปคุมขังตามคำพิพากษาของศาลอาญา ที่ทัณฑสถานหญิงกลางก่อน เพื่อรอคำสั่งประกันจากศาลอุทธรณ์ซึ่งคงใช้เวลา3-4วัน หากศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัว นางอัญชัญก็จะถูกคุมขังในเรือนจำ