MGR Online - "ทนายรณณรงค์" พาผู้เสียหายแชร์ Forex-3D หอบกระเช้าขอบคุณ รมว.ยธ. และดีเอสไอ หลังจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ พบมีดาราเอี่ยวเส้นทางการเงินต้องเข้าชี้แจง
วันนี้ (18 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรมตึกใหม่ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมตัวแทนผู้เสียหายจากการหลอกลวงให้ร่วมลงทุนแชร์ Forex-3D นำดอกไม้เข้าขอบคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังสามารถจับกุม นายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหารบริษัท Forex-3D ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ซึ่งหลบหนีคดีเกือบ 2 ปี พร้อมยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบบุคคลรอบข้างของ นายอภิรักษ์ เพราะเชื่อว่ามีการถ่ายโอนเงินไปยังบุคคลใกล้ชิดเนื่องจากทรัพย์สินที่ถูกยึดมามีเพียง 1,100 ล้านบาท จากความเสียหายทั้งหมด กว่า 2,000 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลาติดตามตัว นายอภิรักษ์ อยู่นานเนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะลักลอบกลับเข้ามา จนสามารถจับกุมได้เมื่อ วันที่ 15 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนผู้เสียหายในสำนวนที่ให้ปากคำกับ ดีเอสไอ รวม 8,437 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ทราบว่ายังมีผู้เสียหายมากกว่านี้อีกจึงอยากให้ผู้เสียหายที่ตกหล่นรีบเข้ามาให้ข้อมูลกับ ดีเอสไอ ภายใน 3 สัปดาห์หลังจากนี้ เพราะหากคดีถึงที่สุดและมีการเฉลี่ยทรัพย์คืนก็จะเกิดปัญหาไม่สามารถได้รับเงินคืนได้ สำหรับการยื่นให้เร่งรัดตรวจสอบบุคคลรอบข้างของผู้ต้องหาในวันนี้ก็จะเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส
ด้าน นายปิยะศิริ กล่าวว่า ในส่วนคดีแชร์ Forex-3D สำนวนคดีแรก คดีพิเศษที่ 153/2562 ขณะนี้พนักงานอัยการได้ส่งสำนวนกลับมาให้ดีเอสไอ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายที่ยังไม่เคยร้องทุกข์ สามารถเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม โดย นายอภิรักษ์ ถูกแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ ฟอกเงิน ส่วนคดีพิเศษที่ 36/2563 เป็นความผิดฐานฟอกเงินนั้นแยกออกมาเป็นอีกคดี จะดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เบื้องต้นอาจใช้เวลาประมาณ 4 เดือน เพราะนายอภิรักษ์มีการโอนถ่ายทรัพย์สินไปในหลายรูปแบบและตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด หากบุคคลนั้นไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ก็จะยึดอายัดทันที
"สำหรับดาราหรือบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง พบว่ามี 6 คนที่เชื่อมโยง ขณะนี้ยังอยู่ในฐานะผู้เสียหายแต่ต้องเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม ทั้งนี้ ดีเอสไอ ยึดทรัพย์ได้ 500 กว่าล้านบาท ส่วน ปปง. ก็ติดตามยึดอายัดทรัพย์ได้กว่า 500 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดมาประมาณ 1,100 ล้านบาท"
ส่วน นายรณณรงค์ เผยว่า ดีเอสไอขยายเวลาอีก 3 สัปดาห์แก่ผู้เสียหายที่ไม่เคยเข้าให้ข้อมูลมาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้ง อยากให้ดาราหรือบุคคลสาธารณะมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพราะพบว่าเคยชักชวนลงทุนแต่สุดท้ายไม่มารับผิดชอบกับความเสียหายแต่อย่างใด
