ตร.สำเหร่ ฝากขัง-ค้านประกัน หนุ่มใหญ่อิสราเอลครอบครองคลิปโป๊และสิ่งลามกอนาจารเด็กในคอมพิวเตอร์และฮาร์ดดิสก์เพียบ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต จนท.ราชทัณฑ์จึงคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษธนบุรี
วันนี้ (12 ม.ค.) ร.ต.อ.วิเชียร สิมมาโคตร พนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ได้ควบคุมตัว นายทซีไว เฮอร์ซโก้ ( TZI HERSCU) อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล ซึ่งถือหนังสือเดินทางเลขที่ 23943751 พักอาศัยอยู่ที่ คอนโดมีเนียมย่านสาธร ซอยเจริญนคร 14/2 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาธนบุรี โดยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก จึงได้
รวบรวมพยานหลักฐานและขอหมายค้นที่คอนโดมิเนียมดังกล่าวภายในซอยเจริญนคร 14/2 ซึ่งผู้ต้องหาได้แสดงตนป็นผู้เช่าห้องดังกล่าวอยู่ ตำรวจชุดรับกุมจึงแสดงหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี พร้อมกับตรวจค้นพบที่เก็บข้อมูลหลายรายการ ประกอบด้วย
1. คอมพิวเตอร์พกพา สีแดง ยี่ห้อ DELL
จำนวน 1 เครื่อง
2. EXTERNAL HARDDISK จำนวน 4 เครื่อง
3. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ HUAWEI จำนวน 2 เครื่อง
4. แท็บเล็ต ยี่ห้อ SUMSUNG และ ที่เก็บข้อมูล (FLASH DRIVE) สีดำ จำนวน 1 อัน
จึงตรวจยึดไว้และแจ้งข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน"ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1
ซึ่งต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจสอบผ่านอุปกรณ์ป้องกันการปนเปื้อนของวัตฤพยานดิจิทัลแล้ว พบว่ามีคลิปวิดีโอการร่วมประเวณีของเด็กอยู่ในที่เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าว จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียม ห้องเลขที่ที่ 558 ซอยเจริญนคร 14/2 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 เวลาประมาณ 09.00 น.
ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนระบุว่า ได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอีก 2 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 ม.ค.นี้ และขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น นอกจากนี้ ในกรณีผู้ต้องหาไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนมีความประสงค์ขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหา หรือทำการสอบสวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุม ทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อไปทุกครั้ง ณ เรือนจำพิเศษธนบุรี
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า ไม่มีญาติมายื่นคำร้องขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษธนบุรี