MGR Online - ดีเอสไอสนธิหน่วยงานที่เกี่ยข้องเข้าค้นคอนโดฯ ชั้น 35 ห้องพักหนุ่มอิสราเอลย่านเจริญนคร หลังสถานทูตอิสราเอลขอความร่วมมือ ยึดของกลางตรวจสอบพบคลิปลามกอนาจาร มีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดทางเพศเด็ก ส่งตัวดำเนินคดี
วันนี้ (12 ม.ค.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มอบหมาย กองคดีการค้ามนุษย์ ดีเอสไอ ดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ กรณีสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยขอความร่วมมือสืบสวนสอบสวนผู้ต้องสงสัยราย นายทซีไว เฮอร์ชคู (Mr.TZVI HERSCU) หรือมิค อายุ 44 ปี ชาวอิสราเอล ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก อันอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (เรื่องสืบสวนที่ 216/2563)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 64 คณะพนักงานสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบและพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยสนธิกำลังกับสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ส่วนแยกภาคตะวันออก) หรือ (สส.บก.ตม.3), เจ้าหน้าที่จากองค์กร Operation Underground Railroad (OUR) และองค์กร LIFT International เข้าทำการตรวจค้นห้องชุดหมายเลข 558 ชั้น 35 ของตึกเออร์บาโน่ แอบโซลูท สาทร-ตากสิน ตั้งอยู่เลขที่ 345 ซอยเจริญนคร 14/2 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยนายทซีไวเป็นผู้เช่าอยู่ ตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 2/2564 ลงวันที่ 8 มกราคม 2564 เพื่อตรวจค้นและอายัดสิ่งของซึ่งอาจจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา
ผลการตรวจค้นพบที่เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ เมื่อตรวจสอบผ่านอุปกรณ์ป้องกันการปนเปื้อนของวัตถุพยานดิจิทัล (writeblocker) แล้ว พบว่ามีคลิปวิดีโอการร่วมประเวณีของเด็กอยู่ในที่เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายทซีไว ในข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อการแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้ตรวจยึดพยานหลักฐานอื่นๆ เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม และจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป โดยหากพบว่ามีพยานหลักฐานที่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์หรืออาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรอาชญากรรม ทางดีเอสไอจะได้รับโอนสำนวนคดีมาทำการสืบสวนสอบสวนเป็นคดีพิเศษต่อไป