MGR Online - โฆษก ตร.แจงประเด็นดรามาจับแพะ “เดฟ ชยพล” แนวร่วม มธ. ชี้หากบริสุทธิ์จริงมีสิทธินำพยานหลักฐานมาหักล้างได้ ยันตำรวจทำคดี ม.112 และ 116 เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่นโยบาย
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดมาตรา 116 และ 112 ว่า ได้ดำเนินการในรูปแบบคณะกรรมการระดับกองบัญชาการ ที่สำคัญตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่นโยบาย และตำรวจจะละเว้นไม่ได้ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหามิสิทธิพบทนายความเนื่องจากเป็นสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาตำรวจไม่ได้ปิดกั้นสิทธิดังกล่าว ทั้งนี้ การเรียกร้องทางการเมืองเป็นสิทธิเช่นกัน แต่ต้องระวังไม่ให้ไปกระทบสิทธิของผู้อื่น หรือไม่ให้เกิดการกระทำความผิดกฎหมายเรื่องอื่น การเคลื่อนไหวที่กระทบสิทธิผู้อื่นทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน ผู้เคลื่อนไหวต้องรับผลจากการกระทำนั้น
พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตำรวจและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ร่วมมือดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง การที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ออกหมายเรียก ออกหมายจับ ตำรวจพิจารณาโดยคณะกรรมการ ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน การออกหมายเรียกหรือหมายจับ ตำรวจขอความเห็นชอบจากศาล จึงเป็นดุลพินิจของศาลที่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับให้ ขอย้ำว่าตำรวจทำตามหน้าที่ ทำตามขั้นตอนกฎหมาย ที่ผ่านมาตำรวจดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ 112 อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถบอกจำนวนได้เพราะอาจส่งผลกระทบหลายส่วน ยืนยันว่าต้องดำเนินการ เพราะหากไม่ทำแปลว่าตำรวจละเว้น ก็จะเป็นความผิดตามกฎหมายเช่นกัน
ส่วนกรณีตำรวจเข้าไปจับกุมแกนนำในเวลากลางคืน จนถูกตั้งคำถามว่าทำไม่ถูกต้องหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า ตนสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมแล้วทราบว่าเป็นการจับตามหมายในที่สาธารณะ ไม่มีข้อห้ามว่าต้องจับกี่โมง ผู้ต้องหามีถิ่นที่อยู่ไม่ชัดเจน มีแนวโน้มว่าจะไม่ปรากฏตัวให้จับหรือไม่ มีแนวโน้มว่าจะหลบหนี เมื่อพนักงานสอบสวนมีความเห็นไปยังศาลขออนุญาตออกหมายจับ ศาลพิจารณาออกหมายจับให้ ตำรวจก็ไปจับกุมตามหมายจับ ย้ำว่าขั้นตอนจับกุมตำรวจทำตามระเบียบวิธีปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทุกประการ
ผู้สื่อถามว่าแกนนำที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ หลังถูกดำเนินคดีแล้วทางตำรวจได้เรียกไปปรับทัศนคติบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า เรื่องการปรับทัศนคติไม่ได้เป็นขั้นตอนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อาจมีการพูดคุยส่วนตัว แลกเปลี่ยนความคิดกัน ทางพนักงานสอบสวนน่าจะอยากทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม ทำไมจึงต้องทำแบบนั้น ต่อข้อซักถามว่าตำรวจได้ดำเนินคดีต่อท่อน้ำเลี้ยงบ้างหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า การมีผู้สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ หากชุมนุมแล้วไม่สร้างความเสียหาย หรือกระทบสิทธิใคร คงเก็บข้อมูลไว้ตรวจสอบหากมีการกระทำความผิดภายหลัง
ส่วนกรณีนายชยพล ดโนทัย หรือเดฟ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ที่ถูกพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ออกหมายจับในมาตรา 112 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหายืนยันว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และเป็นการจับแพะ พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า หากเขายืนยันว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุก็เป็นเรื่องของกระบวนการสอบสวน สามารถเอาพยานแวดล้อม พยานบุคคลมายืนยันต่อพนักงานสอบสวนได้ เรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาต่อใครนั้น เราสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นยังไม่ได้กระทำผิด เพียงแต่ว่ามีพยานหลักฐานกล่าวหาว่าผิด เขาก็นำหลักฐานมายืนยัน ตรงนี้เป็นสิทธิอยู่แล้ว