“ปิยะ” รับยังมีบ่อนลักลอบเปิดในกรุงเทพฯ เร่งสอบเชิงลึกปมโรฮิงญาเข้าดอนเมือง

MGR Online - บช.น.แถลงจับ 3 บ่อน ลั่นพบอีกจับอีก รับดอนเมืองพื้นที่กว้างจน 18 โรฮิงญาหลุดเข้าดอนเมือง เร่งตรวจสอบเกี่ยวกับ“อำนวย” หรือไม่ ยันนครบาลประสาน ตม.ตลอด

วันนี้ (6 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีตำรวจจับกุมบ่อนดอนเมือง บ่อนปิ่นเกล้า บ่อนแจ้งวัฒนะ 14 และผลการปฏิบัติสำคัญที่ผ่านมา ว่า นโยบายของ ผบ.ตร.ให้ตำรวจทั่วประเทศ รวมทั้ง บช.น.ดำเนินการกวดขันจับกุมการลักลอบเล่นการพนันทุกพื้นที่ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา บช.น.ได้ตรวจค้นบ่อนพนันแจ้งวัฒนะ 14 จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 86 คน นำตัวส่งศาลดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา ได้ทำการตรวจสอบในพื้นที่ที่ได้รับร้องเรียน โดยเฉพาะพื้นที่สำคัญย่านดอนเมือง เข้าตรวจค้นภูมิเฮ้าส์ หรือ ฟินเฮ้าส์ จับกุม นายอำนวย เกียรติดอนเมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่า และตรวจสอบแหล่งที่เชื่อว่ามีการลักลอบเล่นการพนันเครื่องจักรกลไฟฟ้า ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดี อีกทั้ง ผบช.น.ได้จัดชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียม ย่านปิ่นเกล้า พบอาคารตามที่มีการร้องเรียน พร้อมคุมตัวนายพุฒิพงศ์ กลงทอง ผู้ดูแลอาคาร

โดย นายพุฒิพงษ์ ให้การว่า พื้นที่ดังกล่าวเคยลักลอบเปิดเป็นสถานที่เล่นการพนันจริง แต่ช่วงนี้ได้เลิกไปแล้ว ก่อนหน้าช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เคยใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งานรื่นเริง และรับจ้างจัดงานเลี้ยงในพื้นที่บริเวณนั้น ได้บันทึกภาพและปากคำเรียบร้อยแล้ว

สำหรับข้อมูลที่ประชาชนให้ความสนใจโดยเฉพาะคดีบ่อนแจ้งวัฒนะ 14 ได้ทำการสืบสวนจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาล ได้มีคำพิพากษาและลงโทษผู้เป็นเจ้ามือทั้งหมด 13 ราย จำคุก 7 เดือน 15 วัน ปรับ 15,000 บาท ส่วนผู้เล่นอีก 81 ราย จำคุก 15 วัน ปรับ 15,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี ในส่วนความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.บ.การควบคุมโรค พนักงานสอบสวนได้แยกดำเนินคดีอีกส่วนหนึ่ง

ถามว่า เหตุใดจึงต้องมีการตรวจสอบบ่อนในช่วงนี้ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จริงแล้วเป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนจับกุมการกระทำผิดทุกประเภทอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ปรากฏข้อมูลข่าวสารในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะไทม์ไลน์ว่ามีบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือคนเจ็บเข้าไปปฏิสัมพันธ์ หรือไปที่หนึ่งที่ใด โดยมีการอ้างว่า หรือให้ข้อมูลว่าไปในบ่อนการพนันที่หนึ่งที่ใดเหล่านี้เป็นต้น เราจะต้องมีการดำเนินการขยายผล และสืบสวนจับกุมหมดทุกราย

ถามว่า บ่อนที่ไปตรวจ เช่น บ่อนดอนเมือง บ่อนปิ่นเกล้า ก่อนหน้านี้ มีการตรวจและจับกุมหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการจับกุมบ่อนทั้งสองแห่งอยู่สม่ำเสมอ ส่วนทำไมยังมีอุปกรณ์เล่นการพนันหลงเหลืออยู่นั้น คงจะกระจาย หรือเมื่อตำรวจจับที่หนึ่งก็หลบหนีไปอีกที่หนึ่ง โดยเฉพาะเครื่องจักรกลไฟฟ้า หรือตู้ม้า สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย

อย่างไรก็ตาม ในปีที่แล้วได้มีการจับกุมการกระทำผิด เกี่ยวกับบ่อนการพนันที่มีผู้เล่นมากกว่า 20 ราย จำนวน 16 คดี ผู้ต้องหา 351 ราย นอกจากนี้ มีการจับกุมการพนันอื่นๆ 3,811 คดี ผู้ต้องหา 8,221 ราย หลังจากนี้หากพบลักลอบเปิดบ่อนการพนันในกรุงเทพฯ ก็จะดำเนินการจับกุมทุกราย

ถามว่า มีบุคคลบางคนได้โทร.ไปให้ยกเลิกบ่อนจริงหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ไม่มีใครอนุญาตให้เปิด และก็ไม่มีใครโทร.ไปแจ้งให้ยกเลิกบ่อนได้ ส่วนจะมีการตรวจสอบบิลค่าน้ำ และค่าไฟย้อนหลัง บ่อนที่มีการจับกุมหรือไม่นั้น จะมีการสืบสวนขยายผลต่อไป

ถามว่า ตำรวจนครบาลมีข้อมูลนายทุนหรือไม่ว่าใครเป็นเจ้าของบ่อน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในส่วนนี้ถ้าพยานหลักฐานพาดพิง หรือปรากฎพยานหลักฐานยืนยันได้ว่า ผู้หนึ่งผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดให้มีการเล่นพนัน เป็นนายทุน หรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์แล้วผิดกฎหมายตำรวจจะดำเนินการทุกราย เช่น บ่อนแจ้งวัฒนะ 14 พิสูจน์แล้วพบว่ามีผู้เป็นเจ้ามือถึง 81 ราย ที่มีพยานหลักฐานยืนยันได้นำส่งฟ้องศาลและลงโทษจำคุก และจะมีการขยายผลโครงสร้าง ที่ดิน หรือที่ดินเป็นของใครหรือไม่นั้น ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนในการกระทำความผิด จะมีการขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ถามว่า มาตรฐานในการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เนื่องจากบางครั้งย้าย 5 เสือ และบางครั้งย้ายถึง ผบก.น.ด้วย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คงต้องดูรายละเอียดพฤติกรรมความปล่อยปละละเลย ความเอาใจใส่ และผลการดำเนินการที่ผ่านมาของแต่ละ สน.เป็นตัวหลัก แต่ถ้ามีส่วนในการบกพร่อง ผบช.น.ยืนยันว่า ไม่เอาไว้อย่างแน่นอน

ถามว่า ขณะนี้ยืนยันได้ไหมว่าในนครบาลไม่มีบ่อนการพนัน หรือการลักลอบเล่นการพนันแล้ว พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การลักลอบเล่นการพนันก็คงจะมีอยู่เรื่อยๆ แต่หากมีการพบ หรือสืบสวนทราบว่ามีการลักลอบเล่นเมื่อไหร่อย่างไร ตำรวจจะไม่ปล่อยไว้แน่นอน ถ้าประชาชน หรือสื่อมวลชนมีข้อมูล ในขณะนี้ตำรวจได้รับข้อมูลทุกวันอยู่แล้ว สามารถ โทร.แจ้งที่เบอร์ 083-515-6559 ได้ตลอด 24 ชม.

ถามว่า จากนี้จะมีการสืบสวนกรณีไทม์ไลน์ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ตรงกับที่ไปตรวจสอบ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ก็คงตรวจสอบในเชิงลึกร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หลังให้การว่าทำงานอยู่ที่บริเวณปิ่นเกล้า เขาอาจเข้าใจว่าเป็นบ่อนลอยฟ้า แต่วันที่เขาไปทำงานอาจเป็นวันที่จัดงานเลี้ยง หรืองานสังสรรค์อยู่ระหว่างการสืบสวน ส่วนคนไข้ระบุว่าได้ไปที่บ่อนลอยฟ้าถ้าโกหกจะมีการเอาผิดหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ก็เป็นพยานหลักฐานหนึ่งที่จะต้องดำเนินการขยายผลต่อ จริงแล้วอาจไม่ได้เล่นกันข้างบน อาจลักลอบเล่นการข้างนอกแบบครั้งก่อนในช่วงโควิด-19 รอบแรกก็เป็นได้ตรงนี้ต้องสอบสวนต่อไป

ถามว่า หลักฐานคนไข้น่าเชื่อถือหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า หนึ่งในคำให้การของคนไข้ก็เป็นหนึ่งในพยานหลักฐาน จะต้องมีการพิสูจน์ทราบต่อไป การพิสูจน์ทราบนอกจากคำให้การของคนไข้แล้ว จะสามารถหาหลักฐานจากที่ไหนได้อีกนั้น ก็มีพยานแวดล้อมอื่นๆ คนไข้อาจจะไม่ได้ไปคนเดียว อาจจะมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือคนที่อยู่ในงานเลี้ยง หรือคนที่อยู่ในบ่อนการพนันในวันนั้น ทุกอย่างเป็นพยานที่สามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมด

ถามว่า นายอำนวย ที่ถูกจับกุมให้การว่าอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในส่วนความผิดตามหมายจับคดีค้างเก่า ได้ให้การรับสารภาพ ส่วนที่เป็นเครื่องจักรกลไฟฟ้ายอมรับว่าเป็นเจ้าของ ในขณะที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเป็นอุปกรณ์เล่นการพนันยังไม่มีการเล่น จึงไม่ได้ยอมรับว่าเป็นผู้ลักลอบเปิดบ่อนพนัน ก็จะดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

รวมถึงตรวจสอบประวัติว่าเคยมีความผิดลักษณะดังกล่าว และเคยจัดลักลอบให้เล่นการพนันหรือไม่ ถ้าเป็นผู้กระทำผิดเป็นอาจิณ คงฟ้องศาลเพื่อขอเพิ่มโทษ กรณีสงสัยว่าบางคนถูกจับแล้วทำไมยังกลับมายุ่งเกี่ยวกับการพนัน สังเกตเกิดจากมีอาชีพ หรือมีนิสัยเป็นความชอบส่วนตัว เป็นบุคลิกของแต่ละคน ถ้าทำผิดตำรวจมีหน้าที่จับกุม หากทำผิดบ่อยครั้งก็ต้องฟ้องเพิ่มโทษตามกฎหมายทุกครั้ง

ถามว่า จากข้อมูลในส่วนของ บช.น.ที่ผ่านมา มีข้อมูลของคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีจัดทำบ่อนในพื้นที่กรุงเทพฯ มากน้อยแค่ไหน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เรามีศูนย์สืบสวนรับผิดชอบเรื่องการสืบสวนคดีอาญา โดยเฉพาะบ่อนการพนันและอบายมุขตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้ว ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนเป็นข้อมูลลับของทางราชการ ยืนยันว่า ทั้งนายทุน ผู้เล่น และผู้จัดให้มีการเล่นจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย

ถามว่า กรณีระบุว่า นายอำนวย มีความผิดข้อหา “ให้ที่พักพิงคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง” เกี่ยวข้องกับ 18 โรฮิงญาที่ดอนเมืองหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลต่อไป ส่วนที่มีข่าวว่า นายอำนวย เป็นคนชักพา 18 โรฮิงญา โดยเฉพาะลักษณะเกี่ยวข้องกับเล่นการพนัน อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเช่นกัน

ถามว่า กรณี 18 โรฮิงญา เข้ามาในพื้นที่ดอนเมือง ทำไมตำรวจในพื้นที่ถึงไม่ทราบ แล้วเข้ามาทำอะไรในพื้นที่นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คงจะต้องมีการตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง จริงแล้วตำรวจในพื้นที่มีหน้าที่หลายอย่าง ประกอบกับเขตดอนเมืองมีพื้นที่กว้าง ทั้งนี้ เมื่อความความปรากฎแล้วก็คงหนีไม่พ้นว่าเป็นหน้าที่ของ ผกก.ที่จะต้องลงไปตรวจสอบในเรื่องนี้ เป็นความบกพร่องหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดต่อไป ถ้ามีรูปแบบกระบวนการ หรือเป็นต่างด้าวจำนวนมากแล้ว ผกก.หรือตำรวจคนหนึ่งคนใด มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้รับผลประโยชน์ในส่วนนี้ถือว่าบกพร่อง สำหรับกรณีที่อาจเป็นแค่ 18 โรฮิงญาดอนเมืองมีพื้นที่กว้างถือว่าไม่บกพร่อง จะต้องดูรายละเอียดในแต่ละเรื่องไป

ถามว่า 18 โรฮิงญาเหมือนเป็นลักษณะนำพาโดยมีนายหน้า พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คงต้องตรวจสอบเป็นรายกรณีไป ส่วนในจำนวนนี้พบติดเชื้อโควิด-19 เป็นการสวนนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ที่ให้มาอยู่ในพื้นที่ดองเมืองนั้น ทุกรายที่ติดโควิด-19 จะต้องถูกเข้ากระบวนการตรวจรักษา เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลอยู่แล้ว คนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าคนที่สัมผัสจะต้องถูกกักตัว ตามข้อกำหนดของ สธ.

ถามว่า ที่ผ่านมา บช.น.ได้มีการประสานกับ ตม.ในเรื่องการตรวจสอบคนต่างด้าวหรือไม่ แล้วทำไมถึงให้ ตม.เข้าไปจับในพื้นที่นครบาล พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นหน้าที่โดยตรงของ ตม.เรื่องนี้ บช.น.รับทราบหรือไม่ย้ำว่ามีการประสานงานกันอยู่เรื่อยๆ ถ้าเป็นการจับกุมจำนวนไม่มากก็เป็นหน้าที่ของ ตม.ส่วนที่ผ่านมา บช.น.มีด่านความมั่นคงสะท้อนถึงการไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น ด่านความมั่นคงเน้นการตรวจกักกันโรคเป็นหลัก กรณีปล่อยให้ 18 โรฮิงญาเข้ามาถึงในพื้นที่ดอนเมืองเป็นการปล่อยปละละเลยหรือไม่นั้น ก็ต้องดูเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในส่วนการรับผิดชอบบุคคลต่างด้าวเป็นหน้าที่ ตม.

ถามว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งตั้งชุดขยายผลเรื่องขบวนการค้าต่างด้าว บช.น.จะสนองนโยบายอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) คงจะมอบหมายให้ ตม.เป็นหน่วยหลักที่รับผิดชอบ

ถามว่า การตรวจสอบที่บ่อนปิ่นเกล้าและบ่อนดอนเมือง บช.น.จะเป็นในรูปแบบการตั้งคณะกรรมการสรุปผลอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จะมีการรายงานเป็นทางการ โดยชุดปฏิบัติการแต่ละชุดที่ได้รับมอบหมาย และมีการตรวจตามวงรอบอยู่แล้ว ส่วนยืนยันไหมว่าในทั่วกรุงเทพฯ ตอนนี้ไม่มีบ่อนการพนันนั้น ในหลักการเราไม่อนุญาต ไม่ยินยอมให้มีการเล่นการพนันอยู่แล้ว แต่ถ้ามีที่หนึ่งที่ใดลักลอบเล่น ถ้าเรามีข้อมูลข่าวสาร ตำรวจพร้อมปฏิบัติการตามกฎหมายแน่นอน ยืนยันว่าถ้ามีข้อมูลเราไม่ปล่อยไว้แน่นอน