xs
xsm
sm
md
lg

“ตู่-จตุพร” ฟันธง! แก้รัฐธรรมนูญ 60 ไม่สำเร็จ มวลชนสองฝ่ายออกมาปะทะ เป็นเงื่อนไข รธน.ถูกฉีกเหมือนเดิม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 53 ปี ประธาน นปช.มั่นใจรัฐธรรมนูญปี 2560 จะไม่ได้รับการแก้ไขแน่นอน
“ตู่-จตุพร” ประธาน นปช.ฟังสืบพยานโจทก์คดีก่อม็อบไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปี 52 ชี้รัฐบาลและสภาไม่ช่วยกันหาทางออกประเทศ ตีตกร่างรัฐธรรมนูญไอลอว์ มั่นใจรัฐธรรมนูญปี 60 จะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน ฟันธงมวลชนทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนเป็นเงื่อนไข สุดท้ายรัฐธรรมนูญจะถูกฉีกเหมือนที่ผ่านมา
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (19 พ.ย.) ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำที่ อ.968/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 70 ปี อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 1, นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 53 ปี ประธาน นปช. จำเลยที่ 2, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 43 ปี แกนนำ นปช. จำเลยที่ 3 กับพวกรวม 13 คน เป็นจำเลยกรณีกลุ่ม นปช.จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งแรกเมื่อปี 2552 ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

โดยในวันนี้ นายจตุพร ประธาน นปช.ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า วันนี้เพิ่งจะสืบพยานโจทก์ปากแรกซึ่งเป็นปากสำคัญ ขณะเดียวกันก็ต้องรอผลคำวินิจฉัยของคดีการชุมนุมที่พัทยาว่าเป็นการฟ้องซ้ำกันหรือไม่ เพราะว่าทั้งสองคดีนั้นพยานหลักฐานเป็นชุดเดียวกัน ดังนั้น ขั้นตอนจึงยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสืบพยานฝ่ายโจทก์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมติรัฐสภาโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ส่วนร่างรัฐธรรมนูญฉบับของไอลอว์ตกไปนั้นจะทำให้สถานการณ์การชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด และทางออกจะเป็นอย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า การที่ทุกส่วนไม่ช่วยในการร่วมกันหาทางออก เท่ากับเป็นการผลักไสให้ผู้ชุมนุมมุ่งไปที่ข้อเรียกร้องที่ 3 เพียงข้อเดียว ทั้งที่ข้อ 1 และ 2 คือการพิจารณาตัวเองของนายกรัฐมนตรี และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ น่าจะได้ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ ความจริงทุกคนต่างก็รู้ว่าเมื่อวานนี้ถ้ารัฐสภามีการรับร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ร่างแล้วค่อยไปว่ากันในส่วนของกรรมาธิการในวาระที่ 2 ซึ่งการเสนอกฎหมายที่ผ่านไปในวาระที่ 1 ไม่ได้หมายความว่ากฎหมายจะต้องเป็นไปตามนั้นทั้งหมด ยังสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ และที่สำคัญที่สุดแม้ว่าจะยื่นใดๆ ไปก็ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 255 ยังสามารถควบคุมไว้อีก หมายความว่าการไปแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้นจะกระทำไม่ได้

นายจตุพรกล่าวว่า จากการชุมนุมดังกล่าวตอนนี้เรากำลังมาพูดว่ากระสุนมาจากฝั่งไหน มาจากใครยิง ความจริงแล้วในเวลาดังกล่าวนักการเมืองคนใดนำเอาคนเสื้อเหลืองเข้ามาสร้างเงื่อนไข หลังจากนี้ให้จำปากตนไว้เลยว่า พอเลือดมันเริ่มออกแล้วจะไหลไม่หยุด จนกว่าจะไหลนองเต็มท้องช้างแล้วจึงจะหยุด เพราะฉะนั้น ก็คาดหวังว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องไปสอบถามรัฐมนตรี เพราะปรากฏเป็นข่าวไปทั่วว่าใครเป็นคนนำพามา

ประเด็นต่อมา คำวินิจฉัยคดีการพักอยู่บ้านพักหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าสังคมก็มีความหวังลึกๆ ว่านี่จะเป็นจุดคลี่คลายของสถานการณ์ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรตนก็ไม่ขอก้าวล่วงใดๆ ทั้งสิ้น แต่เชื่อว่าการวินิจฉัยในวันที่ 2 ธ.ค. 2563 ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตามจะนำไปสู่สถานการณ์ที่มีความแตกต่างกัน เช่น ถ้าคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเหมือนกับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ผลลัพธ์ก็จะเป็นอีกอย่าง หรือไม่ให้พ้นจากตำแหน่งก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง เพราะว่าสถานการณ์ตนเห็นได้ชัดเจนว่าเมื่อรัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาไม่ได้ร่วมกันคลี่คลายสถานการณ์ใดๆ แล้ว สถานการณ์ต่างๆ ก็จะมุ่งไปที่สถาบันฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งรัฐบาลและรัฐสภาจะต้องเป็นด่านหน้าในการหาทางออกแก้ไขปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์

“เพราะฉะนั้น ผมเองก็เห็นว่าในแต่ละเรื่องราว ถ้านายกรัฐมนตรีได้มองสถานการณ์ว่าถ้าไม่ช่วยแบกรับเรื่องรัฐธรรมนูญหรือปัญหาต่างๆ ที่ตัวเองจะต้องเสียสละเป็นคนแรก หรือเรื่องรัฐธรรมนูญเพียงแค่ท่านเปล่งวาจาว่าจะให้ผ่านและไปแก้ในวาระที่ 2 เชื่อว่าทั้ง ส.ว.และรัฐบาลก็คงจะรับกันไปทั้ง 7 ร่าง” นายจตุพรกล่าว

เมื่อถามว่ามีสมาชิกวุฒิสภา 3 คน โหวตให้ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ มีความเห็นอย่างไรบ้าง นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อรู้ว่าเสียง 1 ใน 3 ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว การแสดงออกทั้งหมดก็เชื่อได้ว่าแม้จะผ่านร่างรัฐธรรมนูญวาระ 1 ทั้งสองร่างแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะลงเอยอย่างนั้น เพราะฉะนั้น การแสดงจุดยืนของสมาชิกรัฐสภาบางคนก็สวนมติพรรค ไม่รับทั้ง 7 ร่างก็มี สวนฝั่งรัฐบาลก็มี แม้กระทั่งการโหวตแสดงออกของ ส.ว. ตนเชื่อว่าสุดท้ายทุกคนก็รู้อยู่ว่าไม่มีผลใดๆ แล้ว แต่ขอพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าว่ารัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2560 จะไม่ได้รับการแก้ไขโดยเด็ดขาด เชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเหมือนรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2540 และ 2550 ที่จะถูกฉีกทั้งที่สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่านี้ การให้มวลชนทั้งสองฝ่ายปะทะกันก็จะเป็นเงื่อนไข เพราะฉะนั้น แบบของรัฐธรรมนูญถูกออกมาตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้มีไว้เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ แต่มีไว้เพื่อส่งให้คณะรัฐประหารชุดใหม่เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง ต่างก็รู้ปลายทางว่ามันจะต้องจบเหมือนอย่างที่เคยจบ เพียงแต่ว่าสถานการณ์ในขณะนี้มันเปราะบาง แต่ก็อ่านกันได้ว่าทั้งรัฐบาลและรัฐสภาต่างไม่ช่วยกันเป็นด่านหน้าเพื่อปกป้องสถาบันฯ ถ้าทั้งสองส่วนนี้ได้ช่วยกัน ตนเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ตอนนี้พิสูจน์ชัดว่าต่างฝ่ายต่างเอาตัวรอด ตนตั้งข้อกล่าวหากันไว้เลย เพราะฉะนั้น เชื่อว่าอย่างไรก็ตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้ว่าจะผ่านวาระที่ 1 แต่จะไม่มีวันสำเร็จ แล้วท้ายที่สุดจะจบลงด้วยการถูกฉีกเหมือนเช่นเดิมที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น