สภ.คลองหลวง ตามจับคาที่พัก 3 ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ ของรถป็อป 9 คัน สารภาพขโมยมาแล้วจะนำไปขายในราคาคันละ 2,000 บาท ส่วนคนรับซื้อจะนำไปขายต่อให้ร้านแถวมีนบุรีอีกทอดในราคา 4,000-5,000 บาท
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.ณฐณัษฐ์ สัมภัณสิทธิ์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง, พ.ต.ท.สามารถ เปาจีน สว.สส.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง, ร.ต.อ.พงษ์นพนนท์ รุ่งโรจน์ รอง.สว.สส.สภ.คลองหลวง, ร.ต.อ.ณพัทธ์พล ศรีพลอย รอง สว.สส.สภ.คลองหลวง, ร.ต.อ.สมเกตุ ชนะค้า รอง สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้รวมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายนัฐพล หรือปืน ธรรมทันตา อายุ 27 ปี ชาวปทุมธานี พร้อมด้วย นายมนตรี หรือเบส จันทร์มีชัย อายุ 35 ปี ชาวปทุมธานี และนายยงยุทธ หรือบังซุป ชื่นขำ อายุ 30 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลางรถยนต์จำนวน 2 คัน ได้แก่ รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กฆ 3599 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นโคโรลาโด สีดำ หมายเลขทะเบียน บล 9343 ฉะเชิงเทรา จักรยานยนต์ (รถป็อป) จำนวน 9 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง โดยสามารถจับผู้ต้องหาได้ที่บริเวณใกล้หอพักกอล์ฟวิว หมู่ 17 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลการจับกุมถึงแหล่งที่ซุกซ่อนจักรยานยนต์ที่ร่วมกันลักมา
ส่วนนายนัฐพล ธรรมทันตา หรือปืน อายุ 27 ปี ยอมรับสารภาพว่า ตนเองพร้อมกับเพื่อนได้ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ป็อปจริงโดยจะใช้รถกระบะขนและก็นำไปเก็บไว้ที่บ้านพัก จากนั้นก็นำไปขายคันละ 4-5 พันบาท
ต่อมา นายภาณุศิษฏ์ แตรรุ่งโรจน์ อายุ 22 ปี บอกว่า ตนเองได้จอดรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าไว้เมื่อช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาและมาทราบหายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ไปบอกว่าตามจับคนร้ายได้แล้วและสามารถนำรถกลับมาคืนตนเองได้ ก็รู้สึกดีใจและต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่หน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ตามจับกุมแก๊งลักจักรยานยนต์มาลงโทษตามกฎหมายในครั้งนี้ได้
ทางด้าน พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า สืบเนื่องด้วยในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.คลองหลวง ได้มีเหตุลักทรัพย์จักรยานยนต์ประเภทสกูตเตอร์ (รถป็อป) บ่อยครั้งในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา จะมีจักรยานยนต์ (รถป็อป) ถูกลักไปในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และบริเวณข้างเคียง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบเบาะแสว่าคนร้ายใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว สี่ประตู ลักษณะแต่งซิ่ง ล้อแม็กสีทอง มีสติกเกอร์ติดอยู่บริเวณส่วนท้ายรถ โดยรถยนต์ที่มีลักษณะเดียวกันมาก่อเหตุจำนวนหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนหาข่าว และประสานข้อมูลกับแหล่งข่าวทราบเพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป
จนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้ทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องหาและได้ดำเนินการควบคุมตัวเป็นคดีร่วมกันลักทรัพย์ (รถป็อป) จำนวน 2 ราย คือ นายนัฐพล หรือปืน ธรรมทันตา อายุ 27 ปี ชาวปทุมธานี และ นายมนตรี หรือเบส จันทร์มีชัย อายุ 35 ปี ชาวปทุมธานี พร้อมของกลางรถยนต์ 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ 1 คัน จับกุมได้ที่บริเวณบริเวณใกล้หอพักกอล์ฟวิว หมู่ 17 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลการจับกุมถึง แหล่งที่ซุกซ่อนรถจักรยานยนต์ที่ร่วมกันลักมา รวมถึงกลุ่มผู้รับซื้อ จึงได้นัดนายยงยุทธ หรือบังซุป ชื่นขำ อายุ 30 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ให้มารับรถที่บริเวณบ้านของนายนัฐพล หรือปืน ในเขต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. นายยงยุทธ หรือบังซุป ชื่นขำ อายุ 30 ปี ได้ขับรถยนต์มารับจักรยานยนต์ (รถป็อปคันดังกล่าว) ที่บ้านของผู้ต้องหาที่ 1 แล้วเจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงได้เข้าตรวจยึด รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไว้เป็นของกลางในคดี สอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดและรับว่าแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ มาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนแล้ว จากนั้นจึงได้ขยายผลการจับกุมไปตรวจค้น พบจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาที่ 3 รับซื้อมาจากกลุ่มผู้ต้องหาที่ 1 อีก
จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวน 3 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี พร้อมตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 2 คัน จักรยานยนต์ (รถป็อป) จำนวน 9 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำการซักถามและขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป อนึ่งจากการขยายผลพบว่าผู้ต้องหาที่ 3 ได้นำรถที่รับซื้อไว้ไปขายต่อกับเจ้าของอู่ซ่อมจักรยานยนต์ในเขตบึ่งกุ่ม กรุงเทพฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบและตรวจยึดรถจักรยานยนต์ไว้จำนวน 2 คัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นจักรยานยนต์ (รถป็อป) ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งหายไว้ในเขตพื้นที่ อยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายในข้อหาร้วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นหรือรับของโจร ต่อไป
ทางด้าน นายนัฐพล หรือปืน ธรรมทันตา อายุ 27 ปี ชาวปทุมธานี และนายมนตรี หรือเบส จันทร์มีชัย อายุ 35 ปี ชาวปทุมธานี หลังจากขโมยมาแล้วจะนำไปขายให้กับนายยงยุทธ หรือบังซุป ชื่นขำ อายุ 30 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ในราคาคันละ 2,000 บาท ส่วนนายยงยุทธ หรือบังซุป จะนำไปขายต่อให้ร้านแถวมีนบุรีอีกทอดในราคา 4,000-5,000 บาท