xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ม็อบรอลุยเบิ้มๆ รอบใหม่ เงื่อนไขสภาฯ ตีตกแก้ รธน.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึก ปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 21 กันยายน 2563 ตอน ม็อบรอลุยเบิ้มๆ รอบใหม่ เงื่อนไขสภาฯ ตีตกแก้ รธน.



การชุมนุมใหญ่ “ 19 กันยา ทวงคืนอำนาจราษฎร” ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม 2วัน1คืน ที่สนามหลวง ถือว่า เบิ้มสมกับโฆษณาไว้หรือไม่ คำตอบย่อมแล้วแต่ว่า ใครหรือฝ่ายไหน จะมองด้วยสายตาอย่างไร และจะอ้างตรรกะอย่างไร

จบชุมนุม ทางฝ่ายม็อบยืนยันว่า คนมาร่วมชุมนุมในสนามหลวงและบริเวณโดยรอบ สองแสนคน ส่วนฝ่ายต้านม็อบให้คำตอบว่า มวลชนมาอย่างมากสองสามหมื่นคน ส่วนตำรวจรายงานว่า มีแค่หลักพันคน สูงสุดหมื่นกว่าๆ สามฝ่ายสามมุมได้ตัวเลขผู้ชุมนุมไม่เหมือนกัน แถมยังห่างกันเยอะ

ประเด็นปริมาณมวลชนที่เข้ามาร่วมการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสนามหลวง เมื่อวันที่19 กันยายน เป็นข้อโต้แย้งที่หาข้อยุติยาก แต่ความจริง พีคสุดน่าจะเกินห้าหมื่นชีวิต แต่ก็ไม่ถึงแสนแน่ เรื่องนี้ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ มากไปกว่าเนื้อหาที่เกิดขึ้นในการชุมนุม

แต่มีมุมหนึ่งที่น่าคิด คือ มวลชนคนเสื้อแดงมากันแน่น เสื้อแดงมีมามากจนเรียกได้ว่ามวลชนน้ำหมากกลบมวลชนคนรุ่นใหม่จนมองไม่เห็น กลายเป็น งานรวมพลังคนเสื้อแดงคืนชีพ

ซึ่งสะท้อนว่า คนเสื้อแดงยังเกาะกลุ่มรวมพลังกันอย่างเหนียวแน่น รอวันที่จะออกมาปรากฏตัว และตามชำระแค้นเก่า แม้แต่คสช. กำราบหนักมาห้าปีเต็ม ยังทำอะไรไม่ได้ ประมาณว่า ตีก็ไม่ยุบ ฆ่าก็ไม่ตาย

การชุมนุม มีประเด็นน่าสนใจ คือเนื้อหาการชุมนุม มีความเบิ้มเท่ากับเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตหรือไม่ ต้องบอกว่า มีความเข้มข้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หรือ อาจจะแรงกว่าด้วยซ้ำ

เนื่องจาก แกนนำอย่าง เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ปนัสยา หรือรุ้ง ทนายอานนท์ คำภา รวมถึง ไมค์ ระยอง เจาะจงเตรียมการปราศรัย มุ่งเน้นประเด็นเดียว คือเกี่ยวกับสถาบันฯตลอดทั้งคืนและวันชุมนุม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเนื้อหาจะแรง แต่บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปค่อนข้างเรียบร้อย ส่วนหนึ่งเพราะยุทธศาสตร์หลีกเลี่ยงการปะทะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เพียงแต่มาตรึงกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น ไม่ได้ถูกสั่งให้มาสกัดกั้น หรือปราบปราม

ขณะที่ประตูธรรมศาสตร์ที่ก่อนหน้านี้ถูกล็อก และมีคำสั่งห้ามไม่ให้ชุมนุม ก็เหมือนจะเป็นเพียงข้อห้ามเพื่อหลบเลี่ยงความรัยผิดชอบของผู้บริหารธรรมศาสตร์เท่านั้น เพราะในทางปฏิบัติไม่ได้มีมาตรการเข้มข้น ป้องกันมวลชนเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แต่อย่างใด

ประตูถูกเปิดออกโดย เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย และไม่มีตำรวจเข้าไปกั้นแผง หรือยื้อยุดฉุดกระชากมวลชนไม่ให้เข้าแต่อย่างใด ถือว่า เป็นแค่พิธีกรรมห้ามเข้ามาชุมนุมเท่านั้น

เช่นเดียวกับ การปล่อยข่าวลือว่า ม็อบจะไปที่ทำเนียบรัฐบาล และลานพระบรมรูปทรงม้า จนทำเอาฝ่ายความมั่นคงตื่น ต้องตั้งแผงสกัดกั้นตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ วางกำลังตำรวจอย่างหนาแน่นเป็นกำแพงมนุษย์ แต่กลับถูกเด็กหลอก

ม็อบจบการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง โดยการปักหมุดราษฎร อันใหม่ไว้ที่สนามหลวง แล้วยื่นหนังสือถึงองคมนตรี เรื่องข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งหมุดของม็อบที่สะท้อนว่าทำเอามันส์ อยู่ได้ไม่ทันข้ามคืน ถูกมือดีรื้อถอนไปแล้วอย่างลึกลับ

ม็อบเหิมเกริม แต่ไม่ฮึกเหิมเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า สถานการณ์โดยรวมในประเทศมันยังไม่สุกงอม ไม่มีเงื่อนไขที่จะทำให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้ ต่างจากตอน กปปส. ที่มีเรื่องนิรโทษกรรมเข้ามาเป็นเงื่อนไข

การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้เหมือนเป็นการโหมโรง อุ่นเครื่อง รอเงื่อนไขเท่านั้น โดยเฉพาะข้อเรียกร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภาจะมีการพิจารณากันในวันที่ 23-24 กันยายน

ซึ่งมีกระแสข่าวหลุดรอดมาค่อนข้างเยอะว่า สุดท้ายแล้วอาจจะถูกคว่ำได้ โดยเฉพาะเรื่องการปิดสวิตซ์ ส.ว.ในมาตรา 272 ที่มีโอกาสสูงจะถูกโหวตคว่ำ และนั่นอาจจะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่ม็อบจะนำเรื่องนี้ มาปลุกระดมชุมนุมครั้งใหญ่แบบเบิ้มกว่าเดิมอีก

หรือว่าการชุมนุมที่นัดรวมตัวอีกครั้ง ในวันที่24 ก. ย. อาจจะเป็นการชุมนุมที่ต้องลากยาวเพื่อรุกฆาตมห้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จบในคราวนี้ก็เป็นได้ ถ้าแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่แนวทางที่กลุ่มประชาชนปลดแอกต้องการ

แน่นอนว่า หากฝ่ายผู้มีอำนาจโหวตคว่ำ ม็อบต้องเคลื่อนหนักกว่าเดิม เพราะเรื่อง ส.ว.ถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไข ที่มวลชนไม่ต้องการให้มี การกระทำสวนทางกระแส ย่อมสร้างจุดเดือด

เหมือนที่ เพนกวิ้น พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศกร้าวว่า รัฐบาลจะอยู่ไม่พ้นเดือนนี้ ซึ่งก็น่าจะหมายถึงไทม์มิ่งในช่วงปลายเดือนที่จะมีประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ถือเป็นประเด็นที่ต้องวัดใจกัน ว่ารัฐบาล ซึ่งกุมอำนาจในประเทศอยู่จะทำอย่างไร เพราะท่าทีของกลุ่ม ส.ว.ที่ผ่านมาแสดงออกค่อนข้างชัดว่า จะไม่ยอม

รัฐบาลจะกล้าฝ่าสวนกระแสหรือไม่ เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย่ามใจ ลักหลับผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย กลางดึก จนเป็นเงื่อนไขสำคัญ ให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กำลังพยายามปลุกมวลชน ปลุกระดม สร้าง กปปส. ขึ้นมาขับไล่กันเต็มท้องถนนได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน

ย่อมถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ว่ารัฐบาลจะประมาทม็อบหรือไม่ หรือคิดว่า ม็อบไม่สามารถไปไกลได้กว่าการจัดแฟลชม็อบ จึงลำพองใจหัก ไม่ยอมให้แก้ไขเรื่อง ส.ว.

ดูแล้วรัฐบาลน่าจะใช้ช่วงระยะเวลาาก่อนถึงวันที่ 23-24 กันยายน ประเมินสถานการณ์ ประเมินกระแสม็อบว่า เป็นไปในทิศทางอย่างไร ถึงจะส่งสัญญาณชัดๆ ไปยัง ส.ว. ว่าจะลุยฝ่าดงระเบิด หรือลดโทนกระแสม็อบ ด้วยการยอมให้แก้รัฐธรรมนูญ ในประเด็น ส.ว.

ในช่วงปลายเดือนนี้ ต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญของประเทศว่า ม็อบจะอยู่แค่แฟลชม็อบ หรือจะขยับไปสู่การชุมนุมยืดเยื้อและปักหลักเพื่อขับไล่รัฐบาล

เป็นการชิงจังหวะวัดใจกันระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กับม็อบ ใครจะเหนือกว่ากัน สถานการณ์ปลายเดือนนี้ เป็นตัวกำหนด


กำลังโหลดความคิดเห็น