ตำรวจหิ้ว “อานนท์-ไมค์ ระยอง” ฝากขังศาลอาญา กลุ่มประชาชนปลดแอกรวมตัวให้กำลังใจ พยายามฝ่าแผงกั้น!

ตำรวจหิ้ว “อานนท์-ไมค์ ระยอง” ฝากขังศาลอาญา กลุ่มประชาชนปลดแอกรวมตัวให้กำลัง ระทึก “เพนกวิน” พร้อมมวลชนพยายามยื้อยุดฝ่าแผงกั้น ตำรวจกว่า 50 นาย ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (8 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน หนึ่งในทีมทนายความของนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง” แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญา เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-18 ส.ค. 2563 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานเพิ่มอีกหลายปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา หลังเมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาขออำนาจศาลฝากขังในคดียุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ รวม 7 ข้อหา แต่ภายหลังไต่สวนคัดค้านฝากขัง แล้วศาลมีคำสั่งให้คืนคำร้อง และพนักงานสอบสวนรับตัวผู้ต้องหากลับไป เพราะมาฝากขังเมื่อพ้นกำหนดเวลาราชการ โดยให้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรกภายใน 48 ชั่วโมง

บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายอานนท์ และนายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหามาฝากขัง ปรากฏว่าได้มีผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งพากันเดินทางมาติดตามความคืบหน้า โดยรวมตัวกันอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าประตู 8 ซึ่งมีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก มาคอยให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังมีนายคารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางเข้ามาที่ศาลด้วยเช่นกัน พร้อมเปิดเผยว่าได้นำหลักทรัพย์จำนวนหนึ่งสำหรับประกันตัว 2 ผู้ต้องหา ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป เนื่องจากตอนนี้ยังคงอยู่ระหว่างการไต่สวน

ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่ศาลอาญา ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศาล เจ้าพนักงานตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ในพื้นที่ และเสริมกำลังตำรวจ 191 รอบศาลอาญากว่า 200 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยได้นำแผงเหล็กกั้นมาตั้งเป็นแนวหน้าทางเข้าอาคารศาลอาญา และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ศาลและประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเข้าไปภายในอาคารเท่านั้น

นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน หนึ่งในแกนนำเยาวชนปลดแอก เปิดเผยว่า เราจะมุ่งมั่นเคลื่อนไหวต่อไปและจะทำอะไรเพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชนอีกหลายอย่าง วันนี้ต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าเราก็ยังไม่รู้ว่ากระบวนการทางกฎหมายที่พี่อานนท์และไมค์ต้องต่อสู้จะมีอะไรบ้าง วันนี้ตนและเพื่อนก็มาให้กำลังใจ ขอเชิญชวนเย็นนี้จะมีการชุมนุมที่สกายวอล์ก ซึ่งได้เคยคุยกับทนายอานนท์และไมค์ว่ายอมโดนจับ ไม่ยอมรับกระบวนการ และหากโดนจับต้องสู้ต่อ

“ผมโชคดีผมยังไม่โดน เราก็ต้องสู้ต่อ ตอนนี้ไม่ใช้การสู้เพื่อเซฟใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่การสู้เพื่อเอาพี่อานนท์และพี่ไมค์ออกมา แต่มันคือการสู้เพื่อประชาธิปไตย การสู้เพื่อหลักการสิทธิและเสรีภาพ พี่อานนท์ต้องการให้สู้ต่อไป เราก็จะสู้ต่อไป ไม่ใช่ที่นี่ ที่โรงพัก หรือที่ไหน เราจะไปสู้ที่สกายวอล์ก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นก่อน ต่อจากบางเขน ห้วยขวาง และศาลอาญา รัชดาฯ เช้านี้”

ต่อมานายชูชัย วิริยะสุนทรวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้มาตรวจดูความสงบเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าศาลอาญา โดยมีเจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้นำป้ายข้อความข้อกำหนดของศาลอาญา หลังจากมีการชุมนุมโดยมีข้อกำหนด

- ห้ามมิให้ผู้ใดประพฤติตนในทางก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือก่อความรำคาญ หรือกระทำการในลักษณะส่งเสริม ยั่วยุ สนับสนุนใดๆ ในการกระทำดังกล่าวบริเวณศาล

- ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดัง อันเป็นการรบกวนการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีในศาล
ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน ถือว่ากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล มาติดไว้เพื่อให้ผู้ชุมนุมภายในรั้วบริเวณศาลได้ทราบ

ล่าสุดบรรยากาศการชุมนุม เมื่อ 10.30 น. ปรากฏว่า นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ได้พูดให้กลุ่มมวลชนที่มาติดตามให้กำลังใจนายอานนท์ และนายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหา มายืนอออยู่ที่ริมรั้วหน้าบันไดศาล ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแผงเหล็กกั้นไว้ ก่อนสื่อสารให้ทุกคนพยายามฝ่าแนวรั้วของเจ้าหน้าที่ตำรวจและจะเข้าไปในอาคารศาลอาญา หลังจากทราบกระแสข่าวว่าอาจจะมีการควบคุมตัวทั้งสองคนไปฝากขังที่ศาลนครชัยศรี เขตทุ่งสองห้อง เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการคำตอบ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ โดยเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากแผงเหล็ก แต่ไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด จากนั้นกลุ่มมวลชนยังคงปักหลักรออยู่หน้าบันไดศาลอาญา