MGR Online - ดีเอสไอสนธิหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดหลักฐานคลินิกเวชกรรมและทันตกรรม จ.ปทุมธานี และกรุงเทพฯ เอาผิดสถานบริการเรียกเก็บเงินค่าบริการสาธารณสุขไม่ชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (29 ก.ค.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะกำกับดูแลได้มอบหมายให้ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสืบสวนที่ 195/2563 สนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการปราบปราม กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 4 แห่ง ดังนี้
1. บริษัท สยามเมดิคอล ไฮคิว แล็บ จำกัด เลขที่ 2/104 ซอยรังสิต-นครนายก 34/1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 2. บริษัท โปรเซ็นทรัล เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 55/11 ถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 3. คลินิกทันตแพทย์สมรัก เลขที่ 129 3/2 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ และ 4. คลินิกทันตแพทย์อนุสรณ์ เลขที่ 59 3/1-2 ถนนลาดพร้าว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นได้ยึดเอกสารการรักษา ใบเสร็จ เวชระเบียน และเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบและอาจใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางคดี
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้พบความผิดปกติในการขอเบิกจ่ายจากคลินิกชุมชนอบอุ่น จำนวน 18 แห่ง และคลินิกทันตกรรมในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข จากเงินงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต และเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เชิญ พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นผู้แทนดีเอสไอ รวมทั้งผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ ซึ่งดีเอสไอได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการสืบสวนเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าวเพื่อดำเนินการทางอาญา
การดำเนินการดังกล่าวเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ตามการร้องขอจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการทางคดีอาญาต่อกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อเนื่องกับหน่วยบริการอีกจำนวน 256 แห่ง และหน่วยทันตกรรมประมาณ 100 แห่งต่อไป โดยดีเอสไอจะดำเนินการการสืบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดและเพื่อปกป้องเงินงบประมาณแผ่นดินที่ถูกกระทำการโดยทุจริตดังกล่าว ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ที่สายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ