ศาลอนุญาตให้รวมสำนวนคดี “ตั๊น” ร่วม กปปส.ขับไล่ “ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกฯ กับคดีฟ้อง “แกนนำ คปท.-หน.การ์ด-ทนายนกเขา” โดยอนุญาตให้เลื่อนไปตรวจหลักฐาน 26 ต.ค.นี้
ที่ห้องพิจารณา 711 ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐานและสอบคำให้การคดีดำที่ อ.532/2563 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.จิตภัสร์ หรือตั๊น กฤดากร อายุ 35 ปี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นกบฏ ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุม ซ่องโจรฯ จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 - 1 พ.ค. 2557 ต่อเนื่องกัน กรณีที่จำเลยได้ร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กับพวก ชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการชัตดาวน์กรุงเทพฯ ช่วงปลายปี 2556-2557
โดยวันนี้อัยการโจทก์ และ น.ส.จิตภัสร์ จำเลย พร้อมทนายความเดินทางมาศาล ซึ่งศาลสอบคำให้การแล้วปรากฏว่าจำเลยให้การปฏิเสธ
เมื่อถึงเวลานัดอัยการโจทก์แถลงต่อศาลว่า เนื่องจากคดีนี้มีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เป็นชุดเดียวกันกับคดีหมายเลขดำที่ อ.2732/2562 จึงขอรวมเป็นคดีเดียวกัน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้นำคดีไปรวมด้วยกันได้
ต่อมาในวันเดียวกัน ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลนัดตรวจหลักฐานและสอบคำให้การคดีหมายเลขดำที่ อ.2732/2562 ที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ยื่นฟ้อง นายนัสเซอร์ ยีหมะ อดีตหัวหน้าการ์ด คปท. นายอุทัย ยอดมณี อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ กปปส.และ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ, เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ. 2550 มาตรา 76, 152 รวม 8 ข้อหา
เมื่อถึงเวลานัดอัยการโจทก์ได้แถลงขอรวมคดีหมายเลขดำที่ อ.532/2563 ที่มี น.ส.จิตภัสร์ เป็นจำเลยเข้ากับคดีนี้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามูลเหตุของคดี ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ ล้วนเป็นชุดเดียวกันกับคดีหมายเลขดำที่ อ.2732/2562 หากรวมสำนวนเข้าด้วยกันจะทำให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างรวดเร็ว เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย จึงอนุญาตให้รวมเป็นคดีเดียวกัน โดยให้ น.ส.จิตภัสร์ เป็นจำเลยที่ 4 ต่อจากนายนัสเซอร์ ยีหมะ, นายอุทัย ยอดมณี และนายนิติธร ล้ำเหลือ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1-3
นอกจากนี้ อัยการโจทก์แถลงขอเลื่อนคดีออกไปก่อนเนื่องจากคดีนี้มีพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ต้องคัดถ่ายจำนวนมากยังไม่เสร็จ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐาน เป็นวันที่ 26 ต.ค. 63 เวลา 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาแล้ว น.ส.จิตภัสร์ และคนอื่นๆ ได้ทยอยเดินทางกลับทันที โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน