ผู้จัดการรายวัน 360 - “ศักดิ์สยาม”ประสาน รมว.พาณิชย์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง จดทะเบียนบริษัทโฮปเวลล์ฯ ถูกต้องหรือไม่ คาดรอ 30 วัน จะส่งเรื่องทวงถาม หากข้อมูลไม่มีปัญหา แสดงว่า โฮมเวลล์ฯ จดทะเบียนไม่ถูกต้อง ต่างชาติถือหุ้นเกินกว่ากฎหมาย พร้อมยื่นศาลปกครอง สู้คดีสัญญาโมฆะ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการดำเนินการต่อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ว่า หลังจากที่ตรวจพบข้อพิรุธ 9 ข้อ ซึ่งตนได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ รวมถึงแนวทางการดำเนินการ ซึ่งล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่และรายงานกลับมาให้กระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้ ตนได้แจ้งไปยัง ถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประสานในระดับรัฐมนตรีด้วยกันให้ทราบเรื่องที่ รฟท.ได้ส่งเรื่องไปให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งตามขั้นตอนทาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีเวลาในการตรวจสอบและพิจารณา 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือจาก รฟท.
ทั้งนี้ ในการประสานงาน หากครบกำหนด 30 วัน ทาง รฟท.จะทำหนังสือสอบถามไปอีกครั้ง หากข้อมูลไม่มีปัญหา เท่ากับ หลักฐานที่พบ ว่าการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ไม่ถูกต้อง เท่ากับสัญญาโครงการโฮปเวลล์จะเป็นโมฆะทันที โดยรฟท.จะยื่นข้อมูลต่อศาลปกครอง เพื่อให้วินิจฉัยต่อไป
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยกองกฎหมาย และกองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
หลังรฟท.มอบเอกสารที่ระบุพบข้อมูลสงสัยเรื่องผู้ถือหุ้นต่างชาติ ที่ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ตัวแทนถือหุ้นแบบนอมินี ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และต้องทำด้วยความรอบคอบ เบื้องต้นพบว่า เมื่อปี 2533 บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย)ได้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในไทย หรือ 30 ปีแล้ว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว มีสาเหตุมาจากกรณีที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายผู้รับมอบอำนาจจากกระทรวงคมนาคมและรฟท. เดินทางมาที่ศาลปกครอง เพื่อยื่นฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท และอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่รับจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอให้เพิกถอนการจัดตั้งบริษัทดังกล่าว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการดำเนินการต่อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ว่า หลังจากที่ตรวจพบข้อพิรุธ 9 ข้อ ซึ่งตนได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ รวมถึงแนวทางการดำเนินการ ซึ่งล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่และรายงานกลับมาให้กระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้ ตนได้แจ้งไปยัง ถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประสานในระดับรัฐมนตรีด้วยกันให้ทราบเรื่องที่ รฟท.ได้ส่งเรื่องไปให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งตามขั้นตอนทาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีเวลาในการตรวจสอบและพิจารณา 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือจาก รฟท.
ทั้งนี้ ในการประสานงาน หากครบกำหนด 30 วัน ทาง รฟท.จะทำหนังสือสอบถามไปอีกครั้ง หากข้อมูลไม่มีปัญหา เท่ากับ หลักฐานที่พบ ว่าการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ไม่ถูกต้อง เท่ากับสัญญาโครงการโฮปเวลล์จะเป็นโมฆะทันที โดยรฟท.จะยื่นข้อมูลต่อศาลปกครอง เพื่อให้วินิจฉัยต่อไป
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยกองกฎหมาย และกองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
หลังรฟท.มอบเอกสารที่ระบุพบข้อมูลสงสัยเรื่องผู้ถือหุ้นต่างชาติ ที่ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ตัวแทนถือหุ้นแบบนอมินี ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และต้องทำด้วยความรอบคอบ เบื้องต้นพบว่า เมื่อปี 2533 บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย)ได้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในไทย หรือ 30 ปีแล้ว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว มีสาเหตุมาจากกรณีที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายผู้รับมอบอำนาจจากกระทรวงคมนาคมและรฟท. เดินทางมาที่ศาลปกครอง เพื่อยื่นฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท และอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่รับจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอให้เพิกถอนการจัดตั้งบริษัทดังกล่าว