ผู้จัดการรายวัน360-"พาณิชย์"รับลูก "คมนาคม" สั่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบการจดทะเบียนตั้งบริษัท "โฮปเวลล์" หลังพบส่อผิดพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เหตุเจอข้อมูลถือหุ้นมากกว่ากฎหมายกำหนดและให้คนไทยถือหุ้นแทน ย้ำหากทำผิดกฎหมาย จะส่งผลให้ไม่สามารถรับงานจากภาครัฐ และใช้สู้คดีค่าโง่ได้
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยกองกฎหมายและกองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการจดทะเบียนของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มอบเอกสารที่ระบุว่าพบข้อมูลสงสัยเรื่องผู้ถือหุ้นต่างชาติที่ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ตัวแทนถือหุ้นแทน (นอมินี) โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และขอให้ทำอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติไว้ให้มากที่สุด ซึ่งเบื้องต้น พบว่า เมื่อปี 2533 บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ได้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในไทย หรือประมาณ 30 ปีมาแล้ว
"ผมไม่ได้รับแรงกดดันจากพรรคภูมิใจไทยแต่อย่างใด เพราะทีมงานของพรรค ต้องการให้ผมทำงานอย่างรอบครอบ และต้องอยู่บนความถูกต้องที่สุด ซึ่งผมได้สั่งการให้เร่งดำเนินการ และให้รายงานความคืบหน้ามาโดยเร็วที่สุด"นายวีรศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นที่มีการรับจดทะเบียนบริษัทอย่างผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องย้อนกับไปดูตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งกรณีนี้บริษัท โฮปเวลล์ ถือเป็นบริษัทต่างด้าวที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจในไทย ซึ่งจะทำการตรวจสอบว่ามีการตั้งบริษัทถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และยังพบว่า บริษัทที่มาลงนามในครั้งนั้น คือ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ใช่บริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง จากฮ่องกง ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนั้น กำหนดให้โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง มาลงนามและยังไม่มีการแก้มติ ครม. ให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนาม
ทั้งนี้ หากผลตรวจสอบ พบว่า มีข้อสงสัยเรื่องของผู้ถือหุ้นต่างชาติที่ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ตัวแทนถือหุ้นแทน ก็จะถือว่าเป็นบริษัทต่างด้าว ไม่สามารถรับงานจากภาครัฐ คือ การก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้ และจะทำให้คดีชดเชยค่าโง่โฮปเวลล์เป็นโมฆะไปด้วย ซึ่งประเด็นนี้ เป็น 1 ใน 9 ประเด็น ที่ทางกระทรวงคมนาคมใช้เป็นแนวทางการต่อสู้ค่าโง่โฮปเวลล์ 12,000 ล้านบาท
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยกองกฎหมายและกองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการจดทะเบียนของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มอบเอกสารที่ระบุว่าพบข้อมูลสงสัยเรื่องผู้ถือหุ้นต่างชาติที่ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ตัวแทนถือหุ้นแทน (นอมินี) โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และขอให้ทำอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติไว้ให้มากที่สุด ซึ่งเบื้องต้น พบว่า เมื่อปี 2533 บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ได้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในไทย หรือประมาณ 30 ปีมาแล้ว
"ผมไม่ได้รับแรงกดดันจากพรรคภูมิใจไทยแต่อย่างใด เพราะทีมงานของพรรค ต้องการให้ผมทำงานอย่างรอบครอบ และต้องอยู่บนความถูกต้องที่สุด ซึ่งผมได้สั่งการให้เร่งดำเนินการ และให้รายงานความคืบหน้ามาโดยเร็วที่สุด"นายวีรศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นที่มีการรับจดทะเบียนบริษัทอย่างผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องย้อนกับไปดูตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งกรณีนี้บริษัท โฮปเวลล์ ถือเป็นบริษัทต่างด้าวที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจในไทย ซึ่งจะทำการตรวจสอบว่ามีการตั้งบริษัทถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และยังพบว่า บริษัทที่มาลงนามในครั้งนั้น คือ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ใช่บริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง จากฮ่องกง ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนั้น กำหนดให้โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง มาลงนามและยังไม่มีการแก้มติ ครม. ให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนาม
ทั้งนี้ หากผลตรวจสอบ พบว่า มีข้อสงสัยเรื่องของผู้ถือหุ้นต่างชาติที่ถือหุ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ตัวแทนถือหุ้นแทน ก็จะถือว่าเป็นบริษัทต่างด้าว ไม่สามารถรับงานจากภาครัฐ คือ การก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้ และจะทำให้คดีชดเชยค่าโง่โฮปเวลล์เป็นโมฆะไปด้วย ซึ่งประเด็นนี้ เป็น 1 ใน 9 ประเด็น ที่ทางกระทรวงคมนาคมใช้เป็นแนวทางการต่อสู้ค่าโง่โฮปเวลล์ 12,000 ล้านบาท
