xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญาจำคุกตลอดชีวิต สามี “น้องพลอย” ข่มขืนลูกสาววัย 8 ขวบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายเชษฐ์ หรือหนึ่ง เทียนถวาย อายุ 30 ปี เดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลอาญาสั่งจำคุกตลอดชีวิต สามี น้องพลอย ที่ฆ่าพ่อตัวเอง ก่อเหตุข่มขืนลูกสาววัย 8 ขวบ เมื่อปี 60 ชี้พยานหลักฐานโจทก์แน่นหนา กระทำต่อผู้สืบสันดาน-ใช้อาวุธมีด ด้านทนายความเผยจะอุทธรณ์สู้คดี

จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนใจ ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง จับกุม น.ส.บุญญดา จันจวง หรือพลอย อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาสาวสติแตก ก่อเหตุใช้มีดฟันหน้าผากและตัดอวัยวะเพศของนายเกษม บุญญชล อายุ 58 ปี บิดาแท้ๆ ของตัวเอง เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 36/1 ซอยชุมชนท่าทราย 3 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยภายหลังจับกุม น.ส.บุญญดา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเกิดจากความเครียดที่ถูกบิดาทำร้ายร่างกายตั้งแต่เด็ก อีกทั้งสามียังก่อเหตุข่มขืนลูกสาววัย 8 ขวบ เมื่อตรวจสอบในส่วนของคดีที่สามีข่มขืนลูกสาวนั้นพบว่าศาลอาญาได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้

โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีล่วงละเมิดทางเพศ อ.1819/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเชษฐ์ หรือหนึ่ง เทียนถวาย อายุ 30 ปี สามีของ น.ส.บูญญดา จันจวง เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนโดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดานตนเอง ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและต่อสู้คดี

อัยการโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2562 ระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อระหว่างเดือนเมษายน 2560 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ขณะเกิดเหตุ นายเชษฐ์ จำเลยบังอาจกระทำชำเราเด็กหญิง วัย 8 ขวบ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานของจำเลย โดยจำเลยใช้กำลังบังคับและพูดข่มขู่จะทำร้ายและฆ่ามารดาของผู้เสียหาย จากนั้นจึงกระทำชำเรา ขณะผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หลังจากนั้นจำเลยยังได้กระทำชำเราผู้เสียหายอีก 2 ครั้ง คือ ประมาณ เดือนมิถุนายน 2560 และเดือนกันยายน 2561 เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร และเหตุ เกิดที่ ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 277 และ 285

ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวนายเชษฐ์ จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อฟังคำพิพากษา ซึ่งมีญาติของจำเลยจำนวนหนึ่งเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมีน้ำหนักมั่นคง รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ จำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้สืบสันดานของจำเลย และการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายมี 1 ครั้งที่จำเลยได้ใช้อาวุธมีดด้วย เชื่อว่าจำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายจริง ข้ออ้างที่จำเลยนำสืบว่าไม่เคยกระทำชำเราผู้เสียหายจึงเลื่อนลอย เป็นการง่ายในการกล่าวอ้างและไม่มีน้ำหนักให้รับฟังหักล้างพยานโจทก์ได้

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีฯ จำคุกกระทงละ 20 ปี ทั้งหมด 4 กระทง รวมจำคุก 80 ปี และ ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีฯ โดยใช้อาวุธและเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน จำคุกตลอดชีวิต ซึ่งเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต

ด้านทนายความของนายเชษฐ์ จำเลย เปิดเผยสั้นๆ ว่า ความจริงตนไม่อยากให้อุทธรณ์หรือฎีกาต่อสู้คดีอีก แต่เมื่อจำเลยยืนยันให้การปฏิเสธ และต้องการจะอุทธรณ์สู้คดีอีกครั้งก็จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์คดีให้จำเลยตามขั้นตอนกระบวนการต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น