“ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2563 ตอน เปิดเมือง กลับไปสู่วิถีเก่า ม็อบไฟลามทุ่งรุกรัฐบาล
บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. หรือ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ไฟเขียวให้มีการผ่อนปรนในระยะที่ 4 บนการตัดสินใจเปิดเมืองโดยยึดพื้นฐานข้อมูลการติดเชื้อภายในประเทศไทย ร่วม 20 วันแล้ว ที่ตัวเลขเป็น “ศูนย์”
คราวนี้ได้ปล่อยผี บรรดากิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ถึงตรงนี้จึงมีกิจการ/กิจกรรม ที่ต้องหยุดไปในช่วงโควิด-19 ระบาด ได้รับการผ่อนปรนมาตั้งแต่ระยะที่ 1 ถึงระยะที่4 ร่วม 95 เปอร์เซ็นต์
เหลือเพียงกิจการ ที่มีความเสี่ยงสูงมาก อย่างสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ โรงเบียร์ อาบอบนวด ที่ยังต้องถูกล็อคเอาไว้ก่อน
แต่หากไม่มีอะไรผิดพลาด ธุรกิจที่เหลือเหล่านี้คงได้รับการปลดล็อกกันทั้งหมดในวันที่ 30 มิถุนายน ถือเป็นเฟสสุดท้าย ก่อนกลุ่มที่เปราะบางที่สุดอย่างโรงเรียน จะเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นอันว่า ประเทศไทยปลดล็อกเต็มรูปแบบ
แต่ ทว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถเรียกว่า “เปิดเมือง” ได้ อย่างเต็มปากเต็มคำ เพราะขณะนี้ประเทศไทยยังห้ามการบินเข้า – ออกประเทศอยู่ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน และหลังจากนั้นถึงจะเริ่ม “เปิดประตูเมือง” ให้ชาวต่างชาติสามารถกลับเข้ามาประเทศไทยได้
การเปิดต้อนรับคนต่างชาติคราวนี้ ไม่ได้หมายความว่า ใครอยากเข้ามาก็มาได้ เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังไม่พ้นวิกฤติ
ตามโมเดลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้เสนอหลักการการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัดเอาไว้นั้น จะพิจารณาจากประเทศหรือเมืองที่ดูแลพื้นที่ภายในของตัวเองได้เป็นอย่างดี เช่น
จีน ฮ่องกง มาเก๊า เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ลาว เมียนมา ตะวันออกกลางบางประเทศ ซึ่งการเดินทางระหว่างกันต้องเข้มงวด ต้องมีการประกันสุขภาพด้านสาธารณสุข
อาคันตุกะที่เข้ามาต้องได้รับอนุญาตในลักษณะแบบเจาะจง เข้ามาแล้วเราควบคุมได้ เช่น การเข้ามาเพื่อทำธุรกิจ ที่เข้ามาแล้วมีบริษัทคู่ค้าในไทยรับรอง มีที่พักที่อยู่ชัดเจน มีการเฝ้าระวังทุกฝีก้าว สามารถติดตามบุคคลที่เขาไปพบปะได้
กลุ่มเป้าหมายที่วางไว้เบื้องต้น คือ กลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มที่เข้ามารับบริการตรวจรักษาทางการแพทย์ เพราะเป็นกลุ่มมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงและติดตามตัวได้ ซึ่ง “บิ๊กตู่” เห็นชอบในหลักการแล้ว
แต่อย่างไรก็ดี แม้ประเทศไทยจะไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศนานร่วม 20 กว่าวัน แต่สำหรับมุมมองผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้การันตีความปลอดภัยได้นัก เพราะตามหลักระบาดวิทยา ระยะฟักตัวที่มีความเสี่ยงต่ำต้องอยู่ที่ 28 วัน
และตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีน โอกาสจะเกิดการระบาดใหม่ในระลอกสองยังมีเสมอ ดังนั้น การปลดล็อกเกือบ 100% ที่ ศบค.เพิ่งเห็นชอบนั้น ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง
เป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจไม่ทำ เพราะปัญหาปากท้องประชาชนสำคัญจริงๆ การล็อคเมืองนานๆ แสดงให้เห็นแล้วว่า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหาศาล คนตกงานเดินเกลื่อนเมือง ผู้ประกอบการขาดทุน และจ่อจะล้มลาย มันจึงไม่มีทางเลือกมากนัก
ขณะเดียวกัน เงินเยียวยา 5 พันบาท ที่กระทรวงการคลังจ่ายให้ประชาชนนั้น ก็ครบโควตา 3 เดือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถอัดฉีดเพิ่มรอบใหม่ได้ เพราะไม่มีงบประมาณที่จะใช้ในการณ์นี้แล้ว
ประกอบกับ ตัวเลขไม่มีการติดเชื้อมานานร่วม 20 วัน การจะหาเหตุผลในการยื้อล็อคดาวน์ออกไปอาจจะถูกต่อต้าน ต่างกับตอนที่ระบาดหนัก เพราะประชาชนมองเห็นสถานการณ์
ช่วงเวลานี้ ด้านประชาชนก็กลับมาทำตัวเกือบจะปกติกันหมด “การ์ดเริ่มตก” ไม่ค่อยกังวลกันเหมือนแต่ก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศที่ไม่มีมายาวเกือบเดือน
เหล่านี้ อาจเป็น "ความเสี่ยง" เพราะมาตรการถูกปลดล็อก ประกอบกับประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนก่อนที่จะมีการระบาด การชุมนุมมั่วสุมก็จะตามมาด้วย เช่นการเปิดให้ธุรกิจเสี่ยงอย่าง อนุญาตเปิดร้านตู้เกมบนห้าง จะมีเด็กวัยรุ่นไปมั่วสุมเล่นการพนันกับตู้เกมที่ซ่อนอยู่ภายในร้าน เรื่องนี้อันตรายมาก
ดังนั้น หากปรากฏว่ามีเชื้ออยู่ในประเทศแค่เพียงจุดเดียว ย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระบาดระลอกสอง
แต่รัฐบาลอาจจะมีความมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่ต่อสู้มา และระบบติดตามตัวต่างๆ ที่มีความพร้อมมากกว่า ก็คิดว่า พอรับไหวหากจะมีการติดเชื้อในประเทศอีกครั้ง
อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากังวลคือ การเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่วันนี้ยังไม่ออกมาเต็มที่ เพราะยังมีพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่หากสิ้นเดือนนี้รัฐบาลตัดสินใจไม่ขยายอายุพรก. ฉุกเฉิน
รับรองว่า ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจะขยับกันอีกครั้ง โดยเฉพาะการหาเงื่อนไขจากความผิดพลาดเรื่องต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปากท้อง และเศรษฐกิจที่จะต้องฟื้นฟูกันหนัก ความไม่พอใจของประชาชนมีมาก
ย่อมเป็นเชื้อเพลิงจุดติดง่าย หากถูกฝ่ายตรงข้ามราดน้ำมัน ปลุกระดม ก็เป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาการระบาดของม็อบไฟลามทุ่ง ที่ยาก แก่การรับมือ
จากสถานการณ์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้แต้มจากการรับมือโควิด-19 แต่เมื่อโควิด-19 เบาลง หลังจากสถานการณ์จะกลับเข้าสู่โหมดปกติ การเมืองจะอยู่ในวิถีเดิมๆ
ก็ไม่ชัวร์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยังเป็นพระเอก อยู่หรือไม่?