MGR Online - “เลขาธิการ ป.ป.ส.” เผยรายงาน UNODC ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดหลายชนิด แนวโน้มขนส่งทางทะเล การผลิตไอซ์มากขึ้น ส่วนประเทศไทยพร้อมร่วมมือแก้ปัญหากับทุกประเทศ
วันนี้ (18 พ.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) แถลงรายงานสถานการณ์ยาเสพติดชนิดสังเคราะห์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก-อาเซียน (Synthetic Drugs in East and Southeast Asia: latest developments and challenges) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) อาคารมณียา
ในการแถลง นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทน UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ได้สรุปแนวโน้มสถานการณ์การลักลอบค้ายาเสพติดในปัจจุบัน พบว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อตลาดยาเสพติดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากยังมีการลักลอบค้าเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นได้อย่างต่อเนื่อง มีการรวมกลุ่มการผลิตยาเสพติดชนิดสังเคราะห์บริเวณตอนใต้ของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มีการเพิ่มการผลิตไอซ์มากขึ้น องค์กรอาชญากรรมมีความยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์โดยการปรับเปลี่ยนเส้นทางการลักลอบค้ายาเสพติดและวิธีการสังเคราะห์สารเสพติด โดยพบแนวโน้มการลักลอบค้ายาเสพติดทางทะเลเพิ่มมากขึ้น มีการใช้เคมีภัณฑ์สารตั้งต้นที่หลากหลายมากขึ้น แต่ตรวจยึดได้น้อยมาก ราคาเมทแอมเฟตามีนลดลงต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้ผู้ค้าปลีกและผู้เสพมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น และล่าสุด พบการซื้อขายโอปิออยด์ชนิดสังเคราะห์ในตลาดค้ายาเสพติดของภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ ยังได้เสนอปัจจัยสำคัญที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด 3 ประการ ได้แก่ ราคายาเสพติด (Price) ความบริสุทธิ์ของยาเสพติด (Purity) และ เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น (Precursor Chemicals) ทั้งยังได้กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคประสบปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดชนิดสังเคราะห์จากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ประเทศไทยได้ตระหนักถึงความท้าทายนี้และได้เน้นย้ำการเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
สำหรับ พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะโฆษก สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สรุปถึงภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทย ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลให้ไทยเพิ่มมาตรการการควบคุมตามแนวชายแดนมากขึ้น ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดไปพร้อมๆ กัน ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดต้องปรับเปลี่ยนทั้งช่องทาง เส้นทาง และวิธีการลำเลียงยาเสพติด นอกจากนี้ ยังพบการใช้ช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับการใช้บริการขนส่งทางพัสดุไปรษณีย์ในการค้ายาเสพติดเพิ่มสูงขึ้น และจากการที่ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังประสบปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดชนิดสังเคราะห์จากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รัฐบาลปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยประเทศไทยได้เสนอแผนปฏิบัติร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติดและสารตั้งต้นยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งได้มีการปฏิบัติมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 62 และมีความคืบหน้าตามลำดับ
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวตอนท้ายว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับไม่เพียงแต่ความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศและความมีส่วนร่วมในภูมิภาคจากทั้งระดับสากล ภูมิภาค และอนุภูมิภาค แต่ยังได้รับการยอมรับในด้านการกำหนดกลยุทธ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากนโยบายและการสนับสนุนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และการนำนโยบายสู่การปฏิบัติของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อีกทั้งความร่วมมือของหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร จึงขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในประเทศโดยลดผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทุกมิติ เพื่อทำให้สังคมไทยเป็นพื้นที่ปลอดภัย