MGR Online - สองผัวเมียร้องกองปราบ จี้คดีถูก ส.ต.ท.โรงพักเมืองสมุทรปราการ พร้อมสายลับบุกค้นห้อง กล่าวหาค้ายาเสพติด
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พา นายณัฐกร คุณานันต์ อายุ 27 ปี และ น.ส.ณิญากร สืบเสาะจบ อายุ 21 ปี แฟนสาว ทั้งสองประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับรับผลิตเสื้อเอี๊ยมหนัง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ปาณสาร บุญแจ่ม สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมคดีที่ถูกตำรวจยศ ส.ต.ท. สังกัด สภ.เมืองสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่สายลับบุกเข้าล็อกตัว พร้อมกับเข้าค้นห้องพักที่ หลังก่อนหน้านี้ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องเรียนต้นสังกัดแต่คดีผ่านมานานร่วมเดือนกลับยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นายณัฐกร กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ในห้องพักที่ เดอะเบส เพลส คอนโด กระทั่งกลางดึกได้มี รปภ. มาเคาะประตูเรียกให้ไปขยับรถ แต่เมื่อลงมากลับพบตำรวจคนดังกล่าวกับสายลับรวม 2 คน เข้ามาล็อกตัวไว้ อ้างว่า ตนเป็นเอเยนต์ยาเสพติดและพกพาอาวุธปืน ก่อนขอตรวจค้น แต่ไม่เจอสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นทั้งสองก็บังคับให้ขึ้นไปตรวจค้นภายในห้อง และตรวจปัสสาวะ แต่ก็ไม่พบเจออีกเช่นเคย ทั้งสองจึงเริ่มเปลี่ยนท่าทีก่อนจะบอกกับตนว่าให้ช่วยหาใครก็ได้ที่มีปืน หรือมียาเสพติดให้หน่อย ต้องการทำผลงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งสองคนเดินออกจากห้องไปแล้วนั้น ก็ได้สำรวจความเสียหาย พบว่า พระเลี่ยมทององค์เล็กบนหัวเตียงได้หายไป แต่ก็ไม่ได้จะกล่าวหาทั้งสองคนนี้ว่าเป็นคนเอาไป เพราะไม่มีหลักฐาน
ด้าน น.ส.ณิญากร กล่าวว่า ภายหลังเกิดเรื่องตนก็นำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องเรียนกับหน่วยงานต้นสังกัด ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดให้ไปพบที่ร้านกาแฟข้างโรงพัก เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย เมื่อไปถึง ส.ต.ท.คนดังกล่าวก็ได้เข้ามาขอโทษตน พร้อมกับบอกว่าจะไม่ไปก่อเหตุแบบนี้อีก จากนั้นไม่นานก็ได้มีคนโทรศัพท์มาหาตน โดยอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ พร้อมกับบอกว่าจะมีค่าทำขวัญและค่าพระที่หายให้ แต่ไม่ได้บอกจำนวนว่าเท่าไหร่ ก่อนจะเงียบหายไป อย่างไรก็ตาม เมื่อตนสอบถามลูกบ้านคนอื่นๆ ที่พักอยู่ในคอนโดเดียวกันนั้น พบว่า ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นเดียวกับตนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นฝีมือของ ส.ต.ท.คนดังกล่าว
ส่วน นายรัชพล กล่าวว่า มองว่า การที่เคยร้องเรียนแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เกรงว่า น่าจะมีการช่วยเหลือกัน เพราะผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ อยากให้กองปราบตรวจสอบว่าคดีไปถึงไหนแล้ว และได้ทราบจากผู้เสียหายว่าผู้กำกับไม่ได้ชี้แจงว่ามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุหรือยัง ทั้งที่ตอนนี้ควรจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยแล้ว แต่ทราบว่าผู้ก่อเหตุยังไปทำงานใช้ชีวิตปกติ และเรียกผู้เสียหายไปไกล่เกลี่ยที่โรงพัก โดยไม่คำนึงความปลอดภัยผู้เสียหายเลย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป