คนแต่งเพลง "ถอนตัว" หลั่งน้ำตา ฟ้อง "เบิร์ด-ฮาร์ท-แชมป์ ศุภวัฒน์" และบริษัทละเมิดลิขสิทธิ์ 18 ปี เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน ช้ำคดีไม่คืบ โฮแตกมีรายได้แค่เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับนักร้อง ทำไมไม่จ่ายเงินให้ถูกต้อง จวกอย่าล้อเล่นกับความรู้สึก อัดไม่แมน กรีดจบมาสูง จะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้
วันนี้ (4 ก.พ.) เวลา 12.30 น. "ทนายรัชพล ศิริสาคร" ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พร้อมด้วย "ไบร์ท วรวิทย์ นิมมานศิริกุล" นักแต่งเพลง เจ้าของเพลง “ถอนตัว” และ "ฟลุ๊ค แอร์เฮด" เข้ายื่นหนังสือต่อ "พ.ต.อ.รุตจิรัสย์ ธนัตพรภิญโญ" ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดดำเนินคดีกับนักร้องดูโอรุ่นใหญ่ "เบิร์ด กุลพงศ์ บุนนาค" และ "ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล" กรณีเอาเพลง "ถอนตัว" ไปร้องโดยละเมิดลิขสิทธิ์นานกว่า 18 ปี ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้วที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แต่ผ่านมา 3 ปี คดีไม่คืบหน้า โดยทางไบร์ทเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าอยากจะขอความเป็นธรรม และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ไบรท์ : "ก็อย่างที่ทนายรัชพลได้บอกไว้นะครับ 2 ก.พ. 60 ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ ในคดีดีวีดี ซึ่งไม่ได้มีความผิดที่ซับซ้อนอะไรเลย และเรามีหลักฐานครบทุกอย่าง มีดีวีดี มีใบเสร็จ และผมได้เข้าไปให้การ 2-3 ครั้งแล้ว ทางตำรวจก็ได้ติดต่อไปที่ร้านแมงป่องสยามพารากอน ใกล้กับที่นี่นิดเดียวเอง แต่ว่าคดี 3 ปีไม่คืบ"
"ติดต่อไปที่แมงป่องแล้วแมงป่องบอกว่าได้รับดีวีดีนี้มาจากบริษัทเบิร์ดกับฮาร์ท พอทราบปุ๊บก็ไม่ได้มีการติดตามให้เบิร์ดกับฮาร์ทมาให้การแต่อย่างใด ผมก็เลยรู้สึกว่าเวลามัน 3 ปีแล้ว รอมานานมาก ก็อยากให้กระบวนการยุติธรรมได้เดินต่อไปตามลำดับขั้น เพราะเราก็มาเรียกร้องในสิ่งที่ถูกที่ควร ผมเป็นคนเขียนเพลงมีรายได้เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับนักร้องต่างกันมาก (ร้องไห้)"
"ผมมาเรียกร้องสิทธิที่ถูกต้องของผม เขามีรายได้มากกว่านักแต่งเพลงมากอยู่แล้ว ทำไมเขาไม่ชำระให้ถูกต้อง ทำไมไปบอกคนอื่นว่านักร้องอีกท่านนึงแต่ง ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนแต่งกับต่อ เอกภพ สองคนแต่งอยู่ในเครดิตปกแน่นอน แล้วถูกต้องทั้งหมด แต่เขาไปบิดเบือนไปพูดอะไรก็ไม่รู้ว่านักร้องรุ่นน้องเขาแต่ง ซึ่งมันไม่ถูกต้อง เขาต้องมาบอกกับทุกคนว่าสิ่งที่เขาพูดมันไม่จริงและต้องมาชำระค่าลิขสิทธิ์ให้ถูกต้อง 18 ปีที่นำไปเล่นต้องมาคุยมาจ่ายให้เรียบร้อย ไม่ต้องคุยกันเรื่องของกฎหมายก็ยังได้ คนเรามันเป็นเรื่องของจิตสำนึก เรื่องของสามัญสำนึกสำคัญที่สุด ถ้าคุณยังเป็นคนอยู่ คุณอย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของคน คุณอย่าล้อเล่นกับความเป็นคน"
เผยไม่มีสิทธิ์นำดีวีดีไปแจก ไม่มีสิทธิ์เอาไปขาย ดำเนินคดีแล้วแต่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำไมถึงกล้า
ไบร์ท : "คดีแรก 4 ปี แต่จริงๆ เขาละเมิดมาแล้ว 18 ปีทั้งหมด ล่าสุดเขาก็ยังเอาไปขายตามงานที่เขาเล่นบ้าง เอาไปแจกบ้าง ซึ่งไม่มีสิทธิ์ ดีวีดีที่ละเมิดลิขสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์เอาไปแจก ไม่มีสิทธิ์เอาไปขาย และเราก็ดำเนินคดีเขาแล้ว แต่เขาไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย ขนาดผมแจ้งความเขาปี 59-60 แล้ว เขายังเอาดีวีดีชุดนี้ไปออนแอร์ที่อัมรินทร์ วันที่ 5 ธ.ค.61 ทำไมเขากล้า ในเมื่อเขารู้อยู่แล้วว่ามันผิดกฎหมาย ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าละเมิดลิขสิทธิ์ทำไมเขากล้า ฝากถามเขาด้วยครับ"
เผยปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อ 18 ปี เพราะไม่มีหลักฐานจับ จนอีกฝ่ายออกมาเป็นดีวีดี
ไบร์ท : "เพราะว่าผมไม่มีหลักฐานที่จะไปจับเขาได้จนเขาออกเป็นดีวีดีมา ผมไปเดินที่แคปซีคอนแล้วก็เจอดีวีดีชิ้นแรก ก็มาเปิดดูว่ามีเพลงผม ใช่เพลงผมทั้งหมดเลย แล้วผมก็เลยเข้าแจ้งความในปี 59 เกือบ 3 ปีคดีนั้นถึงจะเดินหน้าแล้วก็ไปถึงอัยการ แต่คดีนี้ 3 ปีแล้วก็ยังไม่มีการเรียกเบิร์ดกับฮาร์ทมาให้การแต่อย่างใด ซึ่งผมคิดว่ามันนานเกินไป"
แฉเคยยอมรับกับปากว่าละเมิด จ่าย 2 หมื่น แต่อีก 18 ปีกลับไม่คุยกัน ขาดสามัญสำนึก
ไบร์ท : "ที่ผ่านมามีทั้งยื่นโนติส มีทั้งให้จดหมาย มีการคุยกันบ้างหลังจากเกิดเหตุ แต่เขาก็คุยครั้งนึงแล้วก็หายไป แล้วก็ไม่ติดต่อไม่จ่ายไม่อะไรทั้งสิ้น แล้วครั้งนึงก็มาไกล่เกลี่ยที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญา แล้วก็บอกว่ายอมรับนะว่าละเมิด แต่จะจ่าย 2 หมื่น อีก 18 ปีไม่คุย ซึ่งมันเหมือนกับคุณละเมิดเรามาทั้งหมด 18 ปี แต่คุณยอมจ่ายในวันที่เรามีหลักฐานชี้ชัดว่าจะจับคุณได้แค่นั้นเอง ซึ่งอันนี้คือเรื่องขาดจิตสำนึก ขาดสามัญสำนึก"
ช้ำยกเครดิตให้นักร้องรุ่นน้องแต่งเพลงนี้ ทั้งที่เครดิตปกดีวีดีคือตน และต่อ เอกภพ บิดเบือนความจริง
ไบร์ท : "เขาเอาเพลงเราไปร้อง 1 เพลง แต่ว่าไม่ใช่แค่เอาไปร้อง แต่เขายังไปพูดว่านักร้องรุ่นน้องเขาแต่ง ทั้งที่เครดิตปกลงชัดเจนว่าเป็นไบร์ทและต่อ เอกภพ แต่เขาก็ไปพูดโกหกปกปิดบิดเบือนความเป็นจริงทั้งสามคน คือศิลปินสองคนและตัวศิลปินรุ่นน้องเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราปล่อยผ่านไปไม่ได้ และผมก็บันทึกคลิปมาทั้งหมดที่เขาพูดว่าคนนั้นแต่ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ว่าผมแต่ง เพราะในแกรมมี่เขาลงปกเครดิตชัดเจนว่าไบร์ทกับต่อแต่ง เขาจะมาอ้างว่าไม่รู้และไปบอกว่าคนนั้นแต่งไม่ได้"
ไม่แมนปัดภาระให้คนอื่น
ไบร์ท : "กับศิลปินรุ่นน้องคนนั้นไม่ได้คุยครับ เพราะเขาพูดทุกครั้งว่าเขาแต่ง แม้แต่คอนเสิร์ตใหญ่ที่เขาเล่นที่ครบ 30 ปีเขาก็พูด ผมก็เลยขอคลิปที่แชมป์ (แชมป์ ศุภวัฒน์) พูดให้ผมหน่อย แต่พี่เบิร์ดพี่ฮาร์ทไม่ยอมให้ จนสุดท้ายผมแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จนคดีถึงใกล้ที่สุดแล้วเขาถึงจะนำหลักฐานชิ้นนั้นมาให้ทางศาลว่าทางนักร้องรุ่นน้องเขาโกหกเขา ทางผู้ประพันธ์ที่ประพันธ์ร่วมกับผมโกหกเขา คือไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร มันคล้ายๆ กับว่าปัดสิ่งที่เขาทำให้กับคนอื่นรับภาระไป ซึ่งผมว่าไม่แมน"
เห็นคาตา "แชมป์ ศุภวัฒน์" จดเนื้อเพลง แต่ตอนเซ็นสัญญาที่ที่แกรมมี่ ไม่กล้าเซ็นเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
ไบร์ท : "เรื่องนี้ต้องให้ฟลุ๊คเล่าเลย"
ฟลุ๊ค แอร์เฮด : "อันนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์ ก็คือวันที่มีการแต่งเพลงนี้ขึ้นมา โดยการที่ไบร์ทกับต่อ เอกภพช่วยกันวางเพลง วางโครง แล้วไบร์ทก็เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยแท้ วันนั้นเกิดขึ้นในปี 43 ประมาณวันที่ 4 พฤษภาคมวันเกิดผมพอดี เราก็จัดปาร์ตี้กัน แล้วด้วยความที่ ช.อ้วนนี่เขาชอบเพลงนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คือปกติเราก็จะหยิบเอากีต้าร์ขึ้นมาร้องเล่นเพลงกันอยู่แล้ว ตอนนั้นเราก็กำลังเริ่มที่จะอัดเพลง เพราะว่าเพลงนี้ต้องอยู่ในอัลบั้มของไบร์ทเขา แต่ด้วยความที่ ช.อ้วน เขาชอบเพลงนี้มาก เขาก็เลยไปคุยกับ ต. ว่าจดเนื้อให้เขาหน่อย วันนั้นผมอยู่ในเหตุการณ์"
ไบร์ท : "ต. ก็คือต่อ เอกภพที่แต่งร่วมกับผม"
ฟลุ๊ค แอร์เฮด : "นั่นคือสิ่งแรกที่ทำให้เขาได้เนื้อร้องและทำนองไปทั้งหมด"
ไบร์ท : "ซึ่งเขาได้ฟังครั้งแรกวันที่ 1 พ.ค. เป็นวันเกิดเขา เขาได้ฟังครั้งแรกที่งานวันเกิดเขา โดยต่อไปเล่น แต่พอครั้งต่อมาก็คือวันที่ 4 พ.ค. วันเกิดฟลุ๊คเขาก็เล่นอีกครั้ง ทีนี้เขาก็จดเลย อันนี้ผมไม่รู้ แต่ฟลุ๊คมาเล่าให้ผมฟัง เพราะฟลุ๊คเป็นเพื่อนของแชมป์ แล้วฟลุ๊คได้เห็นว่าแชมป์จด พอมีเรื่องผมก็โทร.หาฟลุ๊ค ฟลุ๊คก็เลยเล่าย้อนให้ฟังว่ามันเอาไปตอนนั้น เขาเห็นอยู่ เขาก็เลยมายืนยันครับ คือฟลุ๊คเป็นศิลปินที่เคยโด่งดังในปี 90 และเขาก็อยู่ในอัลบั้มนกเฉลียง ซึ่งมีผม มีฟลุ๊ค มีแชมป์ ศุภวัฒน์, มีปอร์ กสิ , ต่อ เอกภพ รวมอยู่ในอัลบั้ม"
"และช่วงนั้นเราทัวร์ด้วยกัน ก็เลยเกิดการทำเพลงนี้ขึ้นมาและเขาได้ฟังและหยิบเอาไปที่แกรมมี่แล้วไปแอบอ้างว่าเขาเป็นคนแต่ง จนเกิดเรื่องขนาดที่ว่าพิมพ์ปกออกมาเป็นชื่อเขา แต่พอวันที่ทนายแกรมมี่เรียกเข้าไปเซ็นสัญญา เขาไม่กล้าที่จะเซ็น และถึงได้บอกว่าไบร์ทกับต่อเป็นคนแต่ง เรื่องจึงแดง เพราะเขาต้องโทร.หาผม ผมกับต่อก็เลยเข้าไปเซ็น สัญญาตอนนั้นก็เลยถูกต้องโดยแกรมมี่รับรอง สมาคม ดนตรีจัดการทำเอกสารให้ ทุกอย่างถูกต้องหมด"
"คือแกรมมี่ทำถูกต้อง แกรมมี่ซื้อไปหนึ่งต้นแบบ คนที่ทำผิดก็คือศิลปิน เพราะศิลปินนำไปร้อง แล้วไม่มาชำระ ซ้ำร้ายกว่านั้นยังแอบอ้างว่าแชมป์แต่ง ซึ่งไม่ถูกต้อง (ทั้งๆ ที่แกรมมี่ทำทุกอย่างถูกต้อง?) ใช่ แต่ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ถ้าเจอเขาช่วยถามเขาให้หน่อยว่าทำไมเขาทำอย่างนั้น เพราะว่าเขารู้อยู่แล้วว่าไบร์ทกับต่อแต่ง ไม่มีทางไม่รู้ เพราะเครดิตลงชัดเจน แม้แต่เครดิตในปกที่เขาพิมพ์เอง เขาก็ลงว่าเป็นชื่อไบร์ทกับต่อ เพราะอย่างนั้นจะมาบอกว่าไม่รู้เรื่องนี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง เขาก็จบสูงนะ"
"ต่อโทร.มาขอผมว่าพี่ช่วยเขาไปแล้ว ให้ไบร์ทช่วยหน่อยได้ไหม ผมก็บอกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นคน มันช่วยไม่ได้ เพราะผมเคยได้ช่วยไปครั้งแรกแล้ว ตอนที่เขาขโมยเพลงไปครั้งแรก ผมได้ไปช่วยเซ็นอนุญาตให้แกรมมี่ เพื่อให้พวกเขาไม่เสียหาย ผมช่วยไปแล้วครั้งนึง ทั้งๆ ที่เพื่อนผมทั้งฟลุ๊คและปอร์ กสิบอกว่ายูควรแถลงข่าว แต่ผมคิดว่าผมอยากให้โอกาสคน ตอนนั้นผมก็เลยไม่แถลงข่าวเพื่อไม่ให้แชมป์ เพื่อไม่ให้พี่เบิร์ดพี่ฮาร์ทเสียหาย เพื่อไม่ให้อัลบั้มทั้งหมดเสียหาย เพื่อไม่ให้แกรมมี่ที่เป็นคนดีเสียหาย"
"เพราะพี่นิค จีนี่ฯ แกก็สปิริตดี แกฟังเพลง 11 เพลงของผมทั้งอัลบั้ม แกก็บอกว่าพี่รู้ว่ามันเกิดความเสียหายกับไบร์ท พี่ยินดีที่จะซื้อทั้งอัลบั้ม ผมก็เห็นว่าผู้ใหญ่เป็นคนดีนะ เราเจ็บอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นไร แล้วก็ให้โอกาสไอ้กลุ่มนี้สักครั้งนึง แต่ปรากฎว่ามันยังทำร้ายต่อเนื่องมา 18 ปีมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน มันย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (ร้องไห้) ความเป็นนักแต่งเพลงของคนทำเพลงเบื้องหลัง ซึ่งมันยอมไม่ได้"
ฟ้อง 5 ล้านถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด 18 ปี 4 ผู้ต้องหา
"คือผมไม่ได้คิดเอง ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย ผมก็เป็นคนแต่งเพลงธรรมดา แต่ผมก็ได้ปรึกษากับพี่นก-ประธาน ที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสที่แกรมมี่ ที่เขาอยู่ดูเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นๆ ตอนที่มีเรื่องเลย แล้วก็พี่กบ นพดลที่เป็นฝ่ายลิขสิทธิ์แกรมมี่ แล้วก็อาจารย์เจนที่ดูแลศิลปิน ดูแลลิขสิทธิ์ที่แกรมมี่ 3 ท่านก็ถามผมว่าต้องการเรียกร้องเพื่อฟ้องเอาเงินหรือต้องการเรียกความถูกต้องเป็นธรรม ผมก็บอกว่าผมต้องการความถูกต้องเป็นธรรม ท่านก็บอกว่าให้ผมคิดประเมินเป็นค่าเฉลี่ยตัวเลขที่มีความเป็นไปได้ ผมคิดว่าตัวเลข 5 ล้านบาทถูกต้องเป็นธรรมที่สุด เพราะว่า 5 ล้านบาทนี่มาจาก 18 ปีและ 4 ผู้ต้องหา เบิร์ด ฮาร์ท แชมป์ และบริษัทเขา เฉลี่ยแล้วล้านเศษๆ ต่อคน"
"ถ้าเฉลี่ยเป็นปีนี่ตกปีนึงหลักหมื่น ไม่ได้เยอะเลย ผมไม่ได้เรียกเกินความเป็นจริง 18 ปีกับ 5 ล้านกับ 4 คนที่ละเมิดงานผม ผมว่ามันสมเหตุสมผล ผมไม่ได้เรียกจะเอารวยจากตรงนี้ ผมแค่มาเรียกร้องศักดิ์ศรีของความเป็นคน ศักดิ์ศรีของความเป็นนักแต่งเพลง อยากให้วงการเพลงเราถูกต้องเป็นธรรม และให้เป็นคดีตัวอย่าง ให้รู้ว่าคุณไม่มีสิทธิที่จะละเมิดสิทธิคนอื่น คุณไม่มีสิทธิที่จะไปบอกว่าคนนี้แต่ง คนนั้นแต่งทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แต่ง"
ฝากถึงคนว่าจ้าง ห้ามศิลปินนำเพลงถอนตัวไปร้องเด็ดขาด
ทนายรัชพล : "เราก็ติดตามผลอยู่นะครับ แต่ผมอยากจะฝากบอกผ่านสื่อตรงนี้ว่าไม่ว่าผู้ว่าจ้างหรือว่าร้านค้าที่จะทำสัญญากับศิลปิน ควรระบุไปเลยว่าห้ามร้องเพลงถอนตัว เพราะถ้าคุณไม่ระบุแล้วศิลปินเอาไปเล่น คุณจะเข้าข่ายว่าเป็นการละเมิดเพลงถอนตัวด้วย เพราะฉะนั้นควรทำสัญญา และคดีนี้เราตามมา 3 ปีนะครับ คดีนี้คือละเมิดลิขสิทธิ์ที่เป็นการค้า มีโทษสูงสุด 4 ปี ออกหมายจับได้เลย ถ้าเป็นไปได้อยากให้ออกหมายจับเลย เพราะว่าพยานหลักฐานเขาชัดเจน มีซีดีชัดเจน มีการแสดงสด มีการร้องเพลงนี้ชัดเจนครับ"
"หากมีการนำเพลงนี้ไปร้องอีก จะผิดฐานละเมิดทันที ผิดแน่นอนครับ แต่เบื้องต้นเราขอความร่วมมือ เพลงมันแค่เพลงเดียว คุณเอาศิลปินไปเล่นก็ร้องเพลงอื่นก็ได้ ยกเว้นเพลงนี้เท่านั้นเอง ไม่งั้นก็ต้องมาขออนุญาตคุณไบร์ท แต่ถ้าคุณไม่เขียนสัญญาไว้ว่าให้ยกเว้นเพลงนี้ แล้วศิลปินเอาไปเล่น คือมันเป็นข่าวแล้วคุณก็น่าจะรู้ แต่ถ้าคุณยังปล่อยให้ศิลปินเล่นเพลงนี้ คุณจะเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยครับ เบื้องต้นเราก็ขอความร่วมมือก่อนว่าอย่าเอาไปเล่นครับ"
หวังพึ่งเจ้าหน้าที่ตร.
ทนายรัชพล : "ก็ต้องหวังพึ่งทางเจ้าหน้าที่ครับว่าจะดำเนินการได้รวดเร็วแค่ไหน ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงต้องฟ้องเอง ตอนนี้มีฟ้อง 2 คดี คดีแรกจะขึ้นศาลเดือนพฤษภาคมนี้ครับ"
ไบร์ท : "อันนั้นเป็นแพ่งครับ แล้วอีกคดีนึงที่ยังช้าอยู่ 4 ปีแล้วเพิ่งไปถึงแค่ขั้นอัยการ แล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อันนั้นตำรวจดูหลักฐานพยานทุกอย่างครบรอบด้าน แล้วมีคำสั่งฟ้อง แล้วก็พาเบิร์ด ฮาร์ท แชมป์ไปส่งให้อัยการเรียบร้อยแล้ว"
"อัมรินทร์ก็ติดต่อมาให้ผมไป แต่พี่เบิร์ด พี่ฮาร์ทไม่มาเอง เพราะเขาเอาดีวีดีไปฉายวันที่ 5 ธ.ค.61 ที่อัมรินทร์โดนอัมรินทร์ก็ไม่รู้ว่าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรทางอัมรินทร์ เพราะผมรู้ว่าอัมรินทร์ไม่รู้แน่นอน คนที่ละเมิดคือเบิร์ด-ฮาร์ท"
ทนาย : "ก็ฝากถึงสื่อมวลชนต่างๆ ด้วยครับ เวลาพาไปออกคอนเสิร์ตถ้าเล่นเพลงนี้เมื่อไหร่ละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ"
เอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ไบร์ท : "ที่สุดครับ เขาต้องมาพูดว่าทำไมไปโกหกว่าแชมป์แต่ง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าในปกมันเป็นชื่อผมกับต่อ เอกภพชัดเจนทุกปกของแกรมมี่ แม้แต่ปกเขาเองก็ใช่ แต่ทำไมเขาไปพูดในทุกสื่อใหญ่ๆ ทั้งหมดเลย สื่อแกรมมี่ สื่อเรื่องเล่าเช้านี้ สื่อของเอกกี้ สื่อของคุณแจ็ค ผมเก็บทั้งหมดไว้และมีหลักฐานทั้งหมดแล้ว พร้อมที่จะดำเนินคดีถ้าไม่มาคุยให้จบจะมีเรื่องพวกนี้ไล่ไปเรื่อยๆ เพราะเขาทำผิดไว้เยอะมาก นี่ผมเลือกมาเฉพาะที่ชัดเจนเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังมีการละเมิดต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งผมไม่ได้ไปแตะเลย เพราะคิดว่าพี่น้องกันน่าจะคุยกันได้ ศิลปินด้วยกันน่าจะคุยกันได้"
"จริงๆ แล้วผมแต่งเพลงมาเป็นสิบๆ ปี ไม่เคยมีเคสอย่างนี้เลย ปกติแล้วคนแต่งเพลงเขาจะมีจรรยาบรรณในใจ และเขาจะเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ไม่มีหรอกที่จะไปแอบอ้างว่าฉันทำ เท่าที่จำได้เห็นชัดๆ เพิ่งมีแค่คดีนี้และคดีที่ขโมยเพลงช่อง 7 ช่อง 3 อะไรกันน่ะ เพิ่งมี 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้ร้ายแรงกว่า เพราะครั้งนั้นมันทีเดียวแล้วจบ แต่อันนี้มันต่อเนื่องมา 18 ปี เอาเป็นว่า 3-4 วันที่แล้วเขาก็ยังขายดีวีดีบ้าง จำหน่ายจ่ายแจกบ้าง ซึ่งมันผิดกฎหมาย"
ร่ำไห้เหมือนเป็นบันไดให้นักร้องเดินขึ้นไปแล้วก็ถูกถีบทำลาย
ไบร์ท : "ผมพูดแทนนักแต่งเพลงก็แล้วกันว่านักแต่งเพลงก็เป็นเหมือนบันไดให้เขาเดินขึ้นไป (เสียงสั่น) เมื่อคุณเดินไปถึงจุดที่สูงพอแล้ว คุณต้องไม่ถีบทำลายบันไดของคุณ (ร้องไห้) คุณต้องดูแลรักษาบันไดที่มันพาคุณขึ้นไป ผมพูดแทนนักแต่งเพลงทั้งหมด เพราะนักแต่งเพลงรายได้นิดเดียวเอง เทียบเป็นสัดส่วนกับนักร้องแล้วเทียบกันไม่ได้ ห่างกันมาก แค่ความเป็นธรรมให้นักแต่งเพลงคุณยังไม่ให้ คุณก็โหดร้ายเกินไปแล้ว"