"ธีร์" เผยเหตุไม่ให้เงิน "เอ็มมี่" ไปประกันตัว เพราะผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคที่ให้มาเพื่อรักษาตัวและดูแลแม่ ยันไม่เคยสัญญาจะให้เงิน 1.5 แสนกับเอ็มมี่ แต่ที่ให้ไป 5 หมื่นเพราะอยากจะช่วย ไม่โกรธโดนโพสต์ประจานทวงบุญคุณ ยังไงเอ็มมี่ก็ยังเป็นผู้มีพระคุณ
ยังไม่จบไม่สิ้นกับเงิน 8 ล้านที่ประชาชนได้ร่วมบริจาคให้กับอดีตดารา "ธีร์ ภูมิธนะวัชร์" เพื่อรักษาอาการป่วยวัณโรคทับตับทับต่อมน้ำเหลือง โดยครั้งนั้น "เอ็มมี่ แม็กซิม" อมลวรรณ กิตติศิริรัตน์ ได้เป็นผู้ร่วมโพสต์ประกาศขอความช่วยเหลือให้ประชาชนช่วยบริจาค ล่าสุดเอ็มมี่หาเงินประกันตัวคดีฉ้อโกงเงินแชร์ 28 ล้านไม่ทัน ก็เลยขอความช่วยเหลือจากธีร์เพราะได้เงินบริจาคไปตั้ง 8 ล้าน ในฐานะผู้ร่วมด้วยช่วยโพสต์ก็หวังว่าธีร์จะช่วยเหลือบ้าง แต่พอโดนธีร์ปฏิเสธเอ็มมี่ก็มาโพสต์ว่าโดนปฏิเสธ พร้อมกับโพสต์ข้อความที่แชตไลน์ ถึงเรื่องหนี้สินที่ธีร์มี 2 ล้าน ก็น่าจะมีเงินส่วนที่เหลือ ทำเอาหลายคนรุมด่าธีร์ว่าไม่ช่วยเอ็มมี่ ธีร์เลยตัดสินใจควงทนายออกมาแถลงถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว...
"จริงๆ ธีร์ไม่อยากดราม่าสร้างกระแสอะไร น้องเองก็มีปัญหาอยู่แล้ว ที่ออกมาพูดก็อยากจะเคลียร์ให้จบให้แฮบปี้กัน ที่น้องออกมาโพสต์ก็อยากจะขอโทษน้องที่ไม่ได้ช่วยตามี่น้องร้องขอให้เรื่องของเงินประกันตัวที่ขึ้นศาลต้องขอโทษด้วยนะครับ ก็ตามที่น้องไลน์มาเป็นไลน์ส่วนตัว ซึ่งอันนี้เรารู้กันดีตามมารยาทสังคมว่า เรายังไม่ได้รับอนุญาตจากอีกฝ่ายให้เอาออกมาสู่สาธารณะชนได้ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องคุยกันเองระหว่างคนสองคน แต่ก็ไม่เป็นไรน้องเขาเอาออกมาก็ข้อความตามนั้นเลย ธีร์บอกว่า ที่โอนช่วย
"ตอนนี้เอาเงินเข้าแบงค์คุณแม่แล้วในแต่เดือนธีร์จะใช้ลักษณะว่า ก็เอามาแค่ส่วนหนึ่งมาเปิดร้านที่กาดหน้ามอที่มหาลัยเชียงใหม่ ก็ใช้เงินไปประมาณแสนกว่าบาทในการเปิดร้านขายอุปกรณ์หมาแมว รายได้ก็ 4-5 ร้อยบาทต่อวัน บางวันก็ได้มากบางวันก็ได้น้อยหักค่ารถค่ากินแล้วก็พอเหลือได้ซื้อของใช้ของกินเข้าบ้านบ้างเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านมากกว่าครับเพราะว่าไม่อยากไปกวนเงินในส่วนที่ประชาชนบริจาคมาเพื่อให้รักษาตัวหลังใช้หนี้ไปแล้วตอนนี้เงินในบัญชีก็ยังเหลือเกินครึ่งครับ”
รับย้ายบ้านจริง แต่ไม่ได้หนีตามข่าวย้ายออกมาก่อนเอมมี่จะทักมาเป็นเดือนแล้ว เพราะมีคนพยายามปีนเข้าบ้าน
“ผมอ่านแล้วผมก็ตกใจธีร์ล่อนหนย้ายบ้านหนีเอมมี่แต่พอเข้าไปอ่านจริงๆ เขาก็ได้เขียนว่า นักข่าวได้ไปสอบถามคนข้างบ้านก็ได้คำตอบว่าผมย้ายไปเดือนกว่าแล้ว ก่อนหน้าที่น้องจะสอบถามผมให้ช่วยเรื่องของเงินประกันตัวเหตุผลก็มาจากครั้งที่แล้วที่เคยแจ้งไปว่ามีนักข่าวปีนบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงๆเป็นนักข่าวหรือเปล่าที่ปีนบ้านเพราะว่าผู้ใหญ่บ้านแถวนั้นก็มาเตือนว่าไม่น่าไว้วางใจเพราะว่าทุกคนทราบว่าเรามีเงินบริจาคตรงนี้ ให้ใช้ชีวิตอยู่แบบระวังตัว”
“เราก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความวิตกจริตแล้วก็เครียด คุณแม่ก็เครียด ได้ยินเสียงอะไรกุกกักก็ต้องรีบตื่นเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของคนในบ้าน แล้วก็ตัวเองพอเครียดปุ๊บก็มีช่วงไม่สบายอยู่หลายวัน มีภาวะเครียด แม่ก็น้ำตาลขึ้น ความดันขึ้นถ้าดูในเฟซบุ๊กก็จะเห็นว่าผมพาแม่ไปหาหมอบ่อยขึ้นๆก็เลยเป็นสาเหตุให้เมื่อเดือนกว่าที่แล้ว เราย้ายออกจากบ้านหลังนั้นครับ”
เปรยบอกเอ็มมี่ไปตามตรงแล้วว่าตอนนี้ยังไม่สะดวกจะช่วยแต่ยังไม่ทันได้ตอบกลับถึงเหตุผล เจ้าตัวก็ได้โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กไปแล้ว
“คุยไปแล้วตามแชทไลน์ที่น้องทักมาสอบถาม ผมก็ตอบไปว่าตอนนี้พี่ยังไม่สะดวกจะช่วยนะแต่น้องก็ส่งมาอีก ว่า 4-5 หมื่นก็ได้ ผมก็อ่านจริง แต่ผมไม่ได้ตอบ เพราะผมก็ออกไปทำธุระประจำวันกะว่า2 ชั่วโมงกว่าเดี๋ยวจะมาตอบ แล้วมาเห็นเฟซบุ๊กก็เลยตกใจว่าน้องโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กไปแล้ว ตอนนั้นก็เลยยังไม่ได้คุยอะไรกันเลยครับ”
แจงไม่ได้สัญญาว่าจะให้เงินเอ็มมี่แสนห้าตอนที่โอนไปให้ 5 หมื่นรอบแรกแค่อยากช่วยพร้อมบอกไปแล้วว่าในการช่วยครั้งต่อไป คงต้องปรึกษาแฟนและที่บ้านก่อน
“คือลักษณะตอนนั้นที่ผมโอนไป 5 หมื่นเนี่ย ก็จะเป็นลักษณะที่ผมบอกว่าพี่ขออนุญาตช่วยน้องนะผมพูดเองว่าช่วยน้องนะเพราะน้องก็มีภาระเยอะ ก็ขอช่วยน้องไป แต่ถ้าจะช่วยกันต่อไปพี่ขอปรึกษาที่บ้านก่อนต้องถามแฟน ถามที่บ้านก่อน พอคุยกันแค่นั้นก็จบแล้วน้องก็ทำงานของน้องธีร์ก็ทำงานของธีร์ ต่างคนต่างทำหน้าที่ไป เลยยังไม่ได้ติดต่อจนมาเป็นประเด็นตามที่น้องเขาโพสต์นี้แหละครับ”
“ตอนนั้นไม่ได้ระบุจำนวนนะ ก็บอกว่าเดี๋ยวถามแฟนกับที่บ้านก่อนว่าจะช่วยเหลือกันต่อไปได้ยังไงบ้าง(แต่เอมที่บอกว่าแสนห้า?) จากที่น้องเขาพูดว่า1 แสน 5 หมื่น เหมือนกับว่าผมยังไม่ได้โอนให้เขาอีก 1แสน มันน่าจะเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดกันมากกว่าอาจจะเป็นเรื่องของการที่เขาต้องใช้หรือเปล่าแต่ว่าตัวผมเองตอนนั้นสามารถช่วยได้แค่นั้นครับ”
"หาหมอทุกเดือนครับ พูดเยอะๆ ก็จะเป็นเหมือนเดิมเสียงเริ่มหายแล้วก็เหนื่อยเพราะว่าทับต่อมน้ำเหลืองกับทับตับ ก็ยังต้องกินยาต่อไปสักระยะหนึ่งแต่ดีขึ้นมากจากตอนแถลงข่าวครั้งที่แล้วครับ น้ำหนักขึ้นมาจากตอนนั้น 23-24 กิโลได้”
ค่าใช่จ่ายต่อเดือนต้องขอบคุณหน่วยงานราชการที่น้องเอ็มมี่ดีลให้ ขอบคุณน้องเอ็มมี่อีกครั้ง น้องเอ็มมี่ก็ยังเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อเราอยู่เพราะว่าหน่วยงานราชการก็ดูแลดี นอกจากประกันสังคมดูแลเป็นยาพื้นฐานแล้วยังมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วย บางทีก็เอายาบำรุงมาให้ แล้วแฟนคลับส่งยาบำรุงมาให้ทำให้กินข้าวได้ ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นทั้งกายและใจ”
ไม่โกรธโดนคอมเมนต์ด่ายับเข้าใจด่าเพราะความไม่รู้ ห่วงแม่มากกว่า ต้องมารับรู้จนความดันขึ้น
“ไม่โกรธเพราะมันเกิดจากการไม่รู้ไม่รู้ว่าเราได้ช่วยน้องไปแล้วในส่วนหนึ่ง แต่ที่ไม่ได้ช่วยต่อเพราะอะไรอธิบายไปแล้ว ก็เครียดพอสมควร แต่เครียดแม่มากกว่าเพราะแม่รู้ความดันขึ้นผลกระทบก็จะไปตกที่แม่เปล่าๆ ว่าทำไมเป็นดราม่าอีก”
เรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคตขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง
“ก็ถ้ารักษาตัวเองไม่ดี ดูแลไม่ดีโรคก็อาจจะกลับใหม่ อันนั้นก็จะเป็นค่ารักษาในอนาคต”
ได้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยค่าใช้จ่ายมันเบาลงไปเยอะ ยันไม่ได้กินหรูอยู่สบาย มีแบ่งเงินไปทำบุญบริจาคบ้างแต่ไม่เคยโพสต์สร้างภาพ
“เยอะครับ แต่ว่าอย่างเช่นถั่งเช่าที่กินบำรุงตับไตเราก็ต้องจัดหาเองให้ตัวเองกับแม่ แต่ก็ช่วยได้เยอะนะก็ดีทำให้น้ำหนักขึ้นมาเยอะเลยแล้วก็ไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยนะไม่ได้กินหรูอยู่สบาย ถ้าเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของธีร์ก็แบ่งเงินทำงานบางส่วนไปช่วยน้ำท่วมที่อุบลที่ล้มป่วยก็มี หรือทำบุญต่างๆ ที่ทำไปแล้วแต่ไม่เคยไปโพสต์สร้างภาพสร้างกระแสเพราะฉะนั้นวันนี้โดยรวมที่ออกมาพูด อยากจะให้เรายิ้มให้กันมากกว่าที่จะไปดราม่าไม่อยากดราม่า”
โดยรวมตอนนี้ชีวิตเราก็ดีใจขึ้นแล้วล่าสุดไปเป็นกรรมการประกวดหนูน้อยนพมาศวันลอยกระทง โดยไม่เอาค่าตัว
“เรื่องรับงานที่เชียงใหม่ตอนบอกว่าวันนั้นที่โพสต์ว่า แอบไปเที่ยวลอยกระทง รถติดมากเลยรู้งี้ลอยในโอ่งที่บ้านดีกว่า จริงๆ แล้ววันนั้นเจ้าของงานเขาเห็นว่าเราดีขึ้นเขาก็เลยชวนไปเป็นกรรมการตัดสินหนูน้อยนพมาศ เราก็ว่ามันน่าสนุกดีก็เลยไปแต่เราก็ไม่อยากพาดพิงว่าว่าเจ้าของงานเขาให้เราไปเป็นกรรมการเลยโพสต์ว่าไปเที่ยวลอยกระทง แต่จริงๆ ไม่ได้ไปเที่ยว ไปเป็นกรรมการพี่เขายังจะใส่ซองให้เลย แต่เราบอกว่าไม่เป็นไร ถือว่าผมมาช่วย ผมไม่รับซองแล้วกันไม่ได้ใช้ชีวิตหรูดูแพงอะไรเลย เสื้อผ้าเก่าๆ ครับเพียงแต่ว่าใช้แอปในการถ่ายรูปเท่านั้นเอง”
ถือว่ามีงานมีเงินเก็บไว้สำรองเผื่ออาการป่วยในอนาคต
“ใช่ครับ ก็เอาไว้สำรองตัวเองแต่แม่ก็จะสำรองหนักหน่อย เพราะ 76-77 แล้วก็เป็นเรื่องของยาบำรุงมากกว่า เพราะยาพื้นฐานแม่ใช้บัตร 30 บาทก็ไม่ได้หวือหวาอะไร ก็จ่ายยาสามัญทั่วไปพื้นฐานครับ”
งานหลักตอนนี้คือการเปิดร้านอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงแต่ก็ต้องหักต้นทุนต่างๆ ด้วย
“ก็ตอนนี้เปิดร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงที่หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดตอนเย็นๆ สัก 3-4 ทุ่มก็ปิดแล้ว รายได้ 3-5 ร้อยแล้วแต่วัน คนเยอะก็ได้มากหน่อย แต่ส่วนนั้นมันไม่ใช่รายได้ทั้งหมดก็ต้องตัดต้นทุนจากสินค้าที่เราขาย ค่าเช่า ค่ากิน ค่าไฟ ค่าน้ำมัน”
อยากบอกเอ็มมี่ว่ายังนับถือเป็นพี่เป็นน้องเหมือนเดิม
“ก็เรายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมที่วันนี้ให้ทนายรัชพลมาเป็นเพื่อน เพราะเราเองก็ยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ก็เลยให้พี่เขามาเป็นธุระให้ ปรึกษาพี่เขาในหลายๆ กรณี”
วันนี้ที่พา ทนายรัชพล ศิริสาคร มาด้วยเพราะอยากให้มาเป็นที่ปรึกษาในการใช้คำพูด ไม่อยากให้เป็นคดีหมิ่นประมาท
“พี่เขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กมาสักพักแล้วผมแอบขอพี่เขาเป็นเพื่อนเอง ทีนี้ด้วยความที่ธีร์ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายบางทีก็ขอคำแนะนำจากพี่เขาครับ พี่เขาก็แนะนำดีครับ ก็ปรึกษาเขาว่าถ้าออกมาพูดช่วยเคลียร์ให้หน่อยว่าอยากให้เราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมรักกันเหมือนเดิมช่วยเหลือกันได้เหมือนเดิม ไม่อยากให้เราผิดใจกัน คอมเมนต์ของประชาชนไม่ว่าจะด่าหรืออะไรน้องก็โดนไม่น้อยเลย แต่ที่เป็นประเด็นว่า สื่อจวกยับหรือทางบ้านจวกยับธีร์แทบจะจมธรณีผมอ่านแล้วก็รู้สึกไม่โกรธ เฉยๆ เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็น ทุกคนไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไงแต่หลังจากวันนี้ได้รู้ความจริงแล้ว ก็น่าจะเข้าใจมากขึ้นตัวพี่เขาก็ได้ให้ความรู้ในการใช้ภาษา”
ยืนยันยังเป็นห่วงและสงสารเอ็มมี่เสมอไม่โกรธ และน้อมรับทุกคำติชมจากทุกคน
“ก็ยังเป็นห่วงและสงสารน้องอยู่เพราะว่าคดีตั้งเยอะน้องก็คงต้องเครียดเพราะฉะนั้นไม่เป็นไรเลยสำหรับน้องเอมมี่ยังเป็นผู้มีพระคุณกับพี่อยู่ถ้าวันหนึ่งพี่ได้ค่าตัวจากละครมาเล็กๆ น้อยๆ พอแบ่งกันได้บ้าง ถ้าน้องยังรับน้ำใจจากพี่อยู่พี่ก็ยังยินดีเป็นกำลังใจให้เสมออยากให้เรายิ้มให้กันดีกว่าจะปีใหม่แล้ว ไม่รู้ว่าเจตนาที่น้องโพสต์จะเป็นอะไรก็แล้วแต่แต่ตอนนี้ธีร์ก็ได้รับคำวิจารณ์จากพี่น้องประชาชนแล้ว ก็น้อมรับทุกถ้อยคำครับไม่ว่าจะกำลังใจ ไม่ว่าจะชื่นชม ด่าทอ หรือว่าอะไรก็ตาม ก็ต้องขอบคุณมากๆ ครับ”
"ตอนนี้เอาเงินเข้าแบงค์คุณแม่แล้วในแต่เดือนธีร์จะใช้ลักษณะว่า ก็เอามาแค่ส่วนหนึ่งมาเปิดร้านที่กาดหน้ามอที่มหาลัยเชียงใหม่ ก็ใช้เงินไปประมาณแสนกว่าบาทในการเปิดร้านขายอุปกรณ์หมาแมว รายได้ก็ 4-5 ร้อยบาทต่อวัน บางวันก็ได้มากบางวันก็ได้น้อยหักค่ารถค่ากินแล้วก็พอเหลือได้ซื้อของใช้ของกินเข้าบ้านบ้างเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านมากกว่าครับเพราะว่าไม่อยากไปกวนเงินในส่วนที่ประชาชนบริจาคมาเพื่อให้รักษาตัวหลังใช้หนี้ไปแล้วตอนนี้เงินในบัญชีก็ยังเหลือเกินครึ่งครับ”
รับย้ายบ้านจริง แต่ไม่ได้หนีตามข่าวย้ายออกมาก่อนเอมมี่จะทักมาเป็นเดือนแล้ว เพราะมีคนพยายามปีนเข้าบ้าน
“ผมอ่านแล้วผมก็ตกใจธีร์ล่อนหนย้ายบ้านหนีเอมมี่แต่พอเข้าไปอ่านจริงๆ เขาก็ได้เขียนว่า นักข่าวได้ไปสอบถามคนข้างบ้านก็ได้คำตอบว่าผมย้ายไปเดือนกว่าแล้ว ก่อนหน้าที่น้องจะสอบถามผมให้ช่วยเรื่องของเงินประกันตัวเหตุผลก็มาจากครั้งที่แล้วที่เคยแจ้งไปว่ามีนักข่าวปีนบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงๆเป็นนักข่าวหรือเปล่าที่ปีนบ้านเพราะว่าผู้ใหญ่บ้านแถวนั้นก็มาเตือนว่าไม่น่าไว้วางใจเพราะว่าทุกคนทราบว่าเรามีเงินบริจาคตรงนี้ ให้ใช้ชีวิตอยู่แบบระวังตัว”
“เราก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความวิตกจริตแล้วก็เครียด คุณแม่ก็เครียด ได้ยินเสียงอะไรกุกกักก็ต้องรีบตื่นเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของคนในบ้าน แล้วก็ตัวเองพอเครียดปุ๊บก็มีช่วงไม่สบายอยู่หลายวัน มีภาวะเครียด แม่ก็น้ำตาลขึ้น ความดันขึ้นถ้าดูในเฟซบุ๊กก็จะเห็นว่าผมพาแม่ไปหาหมอบ่อยขึ้นๆก็เลยเป็นสาเหตุให้เมื่อเดือนกว่าที่แล้ว เราย้ายออกจากบ้านหลังนั้นครับ”
เปรยบอกเอ็มมี่ไปตามตรงแล้วว่าตอนนี้ยังไม่สะดวกจะช่วยแต่ยังไม่ทันได้ตอบกลับถึงเหตุผล เจ้าตัวก็ได้โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กไปแล้ว
“คุยไปแล้วตามแชทไลน์ที่น้องทักมาสอบถาม ผมก็ตอบไปว่าตอนนี้พี่ยังไม่สะดวกจะช่วยนะแต่น้องก็ส่งมาอีก ว่า 4-5 หมื่นก็ได้ ผมก็อ่านจริง แต่ผมไม่ได้ตอบ เพราะผมก็ออกไปทำธุระประจำวันกะว่า2 ชั่วโมงกว่าเดี๋ยวจะมาตอบ แล้วมาเห็นเฟซบุ๊กก็เลยตกใจว่าน้องโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กไปแล้ว ตอนนั้นก็เลยยังไม่ได้คุยอะไรกันเลยครับ”
แจงไม่ได้สัญญาว่าจะให้เงินเอ็มมี่แสนห้าตอนที่โอนไปให้ 5 หมื่นรอบแรกแค่อยากช่วยพร้อมบอกไปแล้วว่าในการช่วยครั้งต่อไป คงต้องปรึกษาแฟนและที่บ้านก่อน
“คือลักษณะตอนนั้นที่ผมโอนไป 5 หมื่นเนี่ย ก็จะเป็นลักษณะที่ผมบอกว่าพี่ขออนุญาตช่วยน้องนะผมพูดเองว่าช่วยน้องนะเพราะน้องก็มีภาระเยอะ ก็ขอช่วยน้องไป แต่ถ้าจะช่วยกันต่อไปพี่ขอปรึกษาที่บ้านก่อนต้องถามแฟน ถามที่บ้านก่อน พอคุยกันแค่นั้นก็จบแล้วน้องก็ทำงานของน้องธีร์ก็ทำงานของธีร์ ต่างคนต่างทำหน้าที่ไป เลยยังไม่ได้ติดต่อจนมาเป็นประเด็นตามที่น้องเขาโพสต์นี้แหละครับ”
“ตอนนั้นไม่ได้ระบุจำนวนนะ ก็บอกว่าเดี๋ยวถามแฟนกับที่บ้านก่อนว่าจะช่วยเหลือกันต่อไปได้ยังไงบ้าง(แต่เอมที่บอกว่าแสนห้า?) จากที่น้องเขาพูดว่า1 แสน 5 หมื่น เหมือนกับว่าผมยังไม่ได้โอนให้เขาอีก 1แสน มันน่าจะเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดกันมากกว่าอาจจะเป็นเรื่องของการที่เขาต้องใช้หรือเปล่าแต่ว่าตัวผมเองตอนนั้นสามารถช่วยได้แค่นั้นครับ”
"หาหมอทุกเดือนครับ พูดเยอะๆ ก็จะเป็นเหมือนเดิมเสียงเริ่มหายแล้วก็เหนื่อยเพราะว่าทับต่อมน้ำเหลืองกับทับตับ ก็ยังต้องกินยาต่อไปสักระยะหนึ่งแต่ดีขึ้นมากจากตอนแถลงข่าวครั้งที่แล้วครับ น้ำหนักขึ้นมาจากตอนนั้น 23-24 กิโลได้”
ค่าใช่จ่ายต่อเดือนต้องขอบคุณหน่วยงานราชการที่น้องเอ็มมี่ดีลให้ ขอบคุณน้องเอ็มมี่อีกครั้ง น้องเอ็มมี่ก็ยังเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อเราอยู่เพราะว่าหน่วยงานราชการก็ดูแลดี นอกจากประกันสังคมดูแลเป็นยาพื้นฐานแล้วยังมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วย บางทีก็เอายาบำรุงมาให้ แล้วแฟนคลับส่งยาบำรุงมาให้ทำให้กินข้าวได้ ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นทั้งกายและใจ”
ไม่โกรธโดนคอมเมนต์ด่ายับเข้าใจด่าเพราะความไม่รู้ ห่วงแม่มากกว่า ต้องมารับรู้จนความดันขึ้น
“ไม่โกรธเพราะมันเกิดจากการไม่รู้ไม่รู้ว่าเราได้ช่วยน้องไปแล้วในส่วนหนึ่ง แต่ที่ไม่ได้ช่วยต่อเพราะอะไรอธิบายไปแล้ว ก็เครียดพอสมควร แต่เครียดแม่มากกว่าเพราะแม่รู้ความดันขึ้นผลกระทบก็จะไปตกที่แม่เปล่าๆ ว่าทำไมเป็นดราม่าอีก”
เรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคตขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง
“ก็ถ้ารักษาตัวเองไม่ดี ดูแลไม่ดีโรคก็อาจจะกลับใหม่ อันนั้นก็จะเป็นค่ารักษาในอนาคต”
ได้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยค่าใช้จ่ายมันเบาลงไปเยอะ ยันไม่ได้กินหรูอยู่สบาย มีแบ่งเงินไปทำบุญบริจาคบ้างแต่ไม่เคยโพสต์สร้างภาพ
“เยอะครับ แต่ว่าอย่างเช่นถั่งเช่าที่กินบำรุงตับไตเราก็ต้องจัดหาเองให้ตัวเองกับแม่ แต่ก็ช่วยได้เยอะนะก็ดีทำให้น้ำหนักขึ้นมาเยอะเลยแล้วก็ไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยนะไม่ได้กินหรูอยู่สบาย ถ้าเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของธีร์ก็แบ่งเงินทำงานบางส่วนไปช่วยน้ำท่วมที่อุบลที่ล้มป่วยก็มี หรือทำบุญต่างๆ ที่ทำไปแล้วแต่ไม่เคยไปโพสต์สร้างภาพสร้างกระแสเพราะฉะนั้นวันนี้โดยรวมที่ออกมาพูด อยากจะให้เรายิ้มให้กันมากกว่าที่จะไปดราม่าไม่อยากดราม่า”
โดยรวมตอนนี้ชีวิตเราก็ดีใจขึ้นแล้วล่าสุดไปเป็นกรรมการประกวดหนูน้อยนพมาศวันลอยกระทง โดยไม่เอาค่าตัว
“เรื่องรับงานที่เชียงใหม่ตอนบอกว่าวันนั้นที่โพสต์ว่า แอบไปเที่ยวลอยกระทง รถติดมากเลยรู้งี้ลอยในโอ่งที่บ้านดีกว่า จริงๆ แล้ววันนั้นเจ้าของงานเขาเห็นว่าเราดีขึ้นเขาก็เลยชวนไปเป็นกรรมการตัดสินหนูน้อยนพมาศ เราก็ว่ามันน่าสนุกดีก็เลยไปแต่เราก็ไม่อยากพาดพิงว่าว่าเจ้าของงานเขาให้เราไปเป็นกรรมการเลยโพสต์ว่าไปเที่ยวลอยกระทง แต่จริงๆ ไม่ได้ไปเที่ยว ไปเป็นกรรมการพี่เขายังจะใส่ซองให้เลย แต่เราบอกว่าไม่เป็นไร ถือว่าผมมาช่วย ผมไม่รับซองแล้วกันไม่ได้ใช้ชีวิตหรูดูแพงอะไรเลย เสื้อผ้าเก่าๆ ครับเพียงแต่ว่าใช้แอปในการถ่ายรูปเท่านั้นเอง”
ถือว่ามีงานมีเงินเก็บไว้สำรองเผื่ออาการป่วยในอนาคต
“ใช่ครับ ก็เอาไว้สำรองตัวเองแต่แม่ก็จะสำรองหนักหน่อย เพราะ 76-77 แล้วก็เป็นเรื่องของยาบำรุงมากกว่า เพราะยาพื้นฐานแม่ใช้บัตร 30 บาทก็ไม่ได้หวือหวาอะไร ก็จ่ายยาสามัญทั่วไปพื้นฐานครับ”
งานหลักตอนนี้คือการเปิดร้านอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงแต่ก็ต้องหักต้นทุนต่างๆ ด้วย
“ก็ตอนนี้เปิดร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงที่หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดตอนเย็นๆ สัก 3-4 ทุ่มก็ปิดแล้ว รายได้ 3-5 ร้อยแล้วแต่วัน คนเยอะก็ได้มากหน่อย แต่ส่วนนั้นมันไม่ใช่รายได้ทั้งหมดก็ต้องตัดต้นทุนจากสินค้าที่เราขาย ค่าเช่า ค่ากิน ค่าไฟ ค่าน้ำมัน”
อยากบอกเอ็มมี่ว่ายังนับถือเป็นพี่เป็นน้องเหมือนเดิม
“ก็เรายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมที่วันนี้ให้ทนายรัชพลมาเป็นเพื่อน เพราะเราเองก็ยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ก็เลยให้พี่เขามาเป็นธุระให้ ปรึกษาพี่เขาในหลายๆ กรณี”
วันนี้ที่พา ทนายรัชพล ศิริสาคร มาด้วยเพราะอยากให้มาเป็นที่ปรึกษาในการใช้คำพูด ไม่อยากให้เป็นคดีหมิ่นประมาท
“พี่เขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กมาสักพักแล้วผมแอบขอพี่เขาเป็นเพื่อนเอง ทีนี้ด้วยความที่ธีร์ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายบางทีก็ขอคำแนะนำจากพี่เขาครับ พี่เขาก็แนะนำดีครับ ก็ปรึกษาเขาว่าถ้าออกมาพูดช่วยเคลียร์ให้หน่อยว่าอยากให้เราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมรักกันเหมือนเดิมช่วยเหลือกันได้เหมือนเดิม ไม่อยากให้เราผิดใจกัน คอมเมนต์ของประชาชนไม่ว่าจะด่าหรืออะไรน้องก็โดนไม่น้อยเลย แต่ที่เป็นประเด็นว่า สื่อจวกยับหรือทางบ้านจวกยับธีร์แทบจะจมธรณีผมอ่านแล้วก็รู้สึกไม่โกรธ เฉยๆ เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็น ทุกคนไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไงแต่หลังจากวันนี้ได้รู้ความจริงแล้ว ก็น่าจะเข้าใจมากขึ้นตัวพี่เขาก็ได้ให้ความรู้ในการใช้ภาษา”
ยืนยันยังเป็นห่วงและสงสารเอ็มมี่เสมอไม่โกรธ และน้อมรับทุกคำติชมจากทุกคน
“ก็ยังเป็นห่วงและสงสารน้องอยู่เพราะว่าคดีตั้งเยอะน้องก็คงต้องเครียดเพราะฉะนั้นไม่เป็นไรเลยสำหรับน้องเอมมี่ยังเป็นผู้มีพระคุณกับพี่อยู่ถ้าวันหนึ่งพี่ได้ค่าตัวจากละครมาเล็กๆ น้อยๆ พอแบ่งกันได้บ้าง ถ้าน้องยังรับน้ำใจจากพี่อยู่พี่ก็ยังยินดีเป็นกำลังใจให้เสมออยากให้เรายิ้มให้กันดีกว่าจะปีใหม่แล้ว ไม่รู้ว่าเจตนาที่น้องโพสต์จะเป็นอะไรก็แล้วแต่แต่ตอนนี้ธีร์ก็ได้รับคำวิจารณ์จากพี่น้องประชาชนแล้ว ก็น้อมรับทุกถ้อยคำครับไม่ว่าจะกำลังใจ ไม่ว่าจะชื่นชม ด่าทอ หรือว่าอะไรก็ตาม ก็ต้องขอบคุณมากๆ ครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น