รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 21 เมษายน 2563 ตอน จดหมายน้อย นายกฯ ตู่ ถึง 20 มหาเศรษฐี คลอดแล้ว
เส้นตาย ครบกำหนดการประกาศใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯ และการประกาศเคอร์ฟิว ช่วง 22.00 น.ถึงตีสี่ ในวันพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย. ก็จะครบกำหนด การใช้มาตรการแบบเข้มข้น เพื่อสกัดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19
ตาม ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้กฎเหล็ก คุมเข้ม มาร่วมเดือนกว่าๆ
ยิ่งใกล้ถึงวันที่ 30 เมษายน ก็พบเห็นความเคลื่อนไหวและการสร้างกระแสต่างๆ เพื่อเรียกร้อง และคาดหวังให้ พลเอกประยุทธ์ ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงบ้าง
ไม่ต้องปลดล็อกให้ทุกอย่าง กลับไปเหมือนเดิม แต่ขอให้ ภาคธุรกิจ สถานประกอบการ กลับมาขับเคลื่อนได้บ้างในบางธุรกิจ
เนื่องจากว่า หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ จะเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ด้วยที่ประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่ว ขาดรายได้ ว่างงาน หากขืนไม่ปลดล็อก นายจ้าง ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่รายเล็ก ตลอดจนแม้แต่ระดับรากหญ้า ร้านค้าชุมชน ยันร้านหรู ในห้างสรรพสินค้า จ่อว่าจะพังทลายหมด
แม้ว่าบางกิจการ แม้จะปรับตัวในช่วงโควิด19 เช่นเปลี่ยนไปขายทาง เดลิเวอรี่ แต่ก็แค่พอประทังกิจการไม่ต้องเลิกจ้างพนักงานเท่านั้น
บัดนี้เจ้าของ ผู้ประกอบการ เลยประสานเสียงเร่งกระแส ให้พลเอกประยุทธ์ ปลดล็อก เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ นานวัน กิจการขาดรายได้ จะรับไม่ไหว สุดท้าย อาจต้องปลดคนงาน เลิกกิจการ
ความคาดหวังให้ บิ๊กตู่ คลายล็อก ให้ทุกอย่างกลับมาเดินเครื่อง ทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อีกครั้ง หลัง 30 เมษายน จึงเกิดขึ้นไปทั่ว ถึงกับที่บางห้างสรรพสินค้าระดับยักษ์ใหญ่ ทำหนังสือภายใน ให้พนักงานเตรียมตัว กลับเข้าทำงานกันแล้ว 1 พ.ค. วันแรงงานแห่งชาติ
แน่นอนว่า บิ๊กตู่ ย่อมรู้ถึงความเดือดร้อนแสนสาหัสของประชาชนทั้งแผ่นดิน ตั้งแต่เศรษฐีจนถึงคนหาเช้ากินค่ำ โดยเฉพาะพวกแรงงานนอกระบบ ที่ระบบประกันสังคมไม่ได้เข้าไปคุ้มครองร่วม 20 กว่าล้านคน
แต่การตัดสินใจว่าจะคลายล็อกยังไง ให้ธุรกิจกลับมาขับเคลื่อนตามปกติ แล้วสามารถควบคุมการแพร่เชื้อได้ เป็นเดทล็อคในเวลานี้ ซึ่งสถานการณ์มาถึงทางแยกสำคัญ ที่รอการตัดสินใจจาก บิ๊กตู่
ทางด้าน พลเอกประยุทธ์ คงอยู่ในสภาวะลำบากกดดันไม่น้อย ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด จนทำให้ คะแนนนิยมส่วนตัว ที่กำลังตีตื้นขึ้นมาอย่างมาก ซวนเซ เพราะตัดสินใจพลาดแค่ครั้งเดียว
ซึ่งผลการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโคโรนา 2019 เมื่อวันจันทร์ที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมี นายกฯ บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะ ฟังการสรุปสถานการณ์แต่ละด้าน
ข่าวว่าเรื่องการคลายล็อกนั้น บิ๊กตู่ ขอให้ กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพหลักในการทำข้อมูล เพื่อเสนอให้ ศปค.ตัดสินใจอีกครั้งว่า จะผ่อนคลายการใช้มาตรการ lock down ในกิจการประเภทใดบ้าง
สำหรับในภาพรวม มีแนวโน้ม บิ๊กตู่ จะต่อเวลาการใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งรอบ ถึงสิ้นเดือนพ.ค. แต่ในระดับจังหวัด จะมีการพิจารณาแบบยืดหยุ่น โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาคลายล็อกกิจการบางประเภท ถ้ามั่นใจว่าคุมการแพร่เชื้อได้
ส่วนจังหวัดใหญ่ๆ และยังมีผู้ติดเชื้อสูง อย่างกรุงเทพมหานคร นนทบุรี รวมถึงจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมาก และยังรักษาตัวอยู่พอสมควร เช่น ภูเก็ต ยะลา มีแววว่าอาจมีการคงไว้ซึ่งกฎเหล็กแบบเข้มข้นต่อไป
กลุ่มที่ต้องทำใจว่ายาวแน่ ก็คือพวก กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ยามกลางคืน อย่าง พวกสถานบันเทิง ร้านเหล้า ผับ บาร์ รวมถึงกิจกรรมบางประเภทเช่น สนามมวย
ก็รอการตัดสินใจของบิ๊กตู่ กันต่อไป คาดว่า ทุกอย่างน่าจะชัดเจน อย่างช้าก็ไม่เกินอังคารหน้า
ส่วนเรื่อง ที่ทุกคนจับจ้อง คือพล.อ.ประยุทธ์ จะขอฟังความเห็น การแก้วิกฤตโควิด โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ จาก 20 มหาเศรษฐี-เจ้าสัวเมืองไทย ระดับ Millionaire ล่าสุด ยืนยันมาแล้วว่า บิ๊กตู่ ลงนามในหนังสือถึง 20 มหาเศรษฐีแล้ว
จดหมายเปิดผนึกดังกล่าว เนื้อหาสรุปความได้ว่า ที่ทำจดหมายดังกล่าวเพราะเห็นว่า เป็น ผู้อาวุโสของสังคม จึงขอให้เข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐบาลในการฝ่าวิกฤตรอบนี้ โดยนายกฯ ขอให้ทำเอกสาร นำเสนอการทำโครงการที่ช่วยเหลือคนไทยทุกกลุ่ม ส่วนบางคนที่ทำไปแล้วก็ขอให้ทำเพิ่มเติม
โดยยืนยันไม่ขอรับเป็นเงินบริจาค โดยขอให้ส่งหนังสือกลับมาที่นายกฯ ภายในสัปดาห์หน้า
รอดูแล้วกันว่า 20 เศรษฐีเมืองไทยตระกูลดัง อย่าง สิริวัฒนภักดี ของเสี่ยเจริญ ,เจียรวนนท์ ของเจ้าสัว ธนินท์ ,โสภณพนิช แห่งแบงค์กรุงเทพ ,ล่ำซำ เจ้าของกสิกรไทย ,จิราธิวัฒน์ ตระกูลใหญ่การค้าปลีก กิจการโรงแรม การท่องเที่ยว
รวมถึง “เสี่ยกลาง” สารัชถ์ รัตนาวะดี เจ้าสัวหนุ่มแห่งธุรกิจพลังงาน ซึ่งรั้งอันดับ5 มหาเศรษฐีเมืองไทย จะเสนออะไรให้ นายกฯลุงตู่ เอาไปแก้ปัญหา