MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.ชี้พฤติกรรม ผอ.คลิปฉาวเข้าข่ายอนาจารเด็ก จ่อแจ้งข้อหาหนัก เตรียมลงพื้นที่ 23 เม.ย.นี้ ด้าน ผบ.ตร.กำชับทำคดีตรงไปตรงมา ย้ำชัดหากผิดจริงฟันอาญาเด็ดขาด
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และ ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปวิดีโอผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงนักเรียนโดยการจับหน้าอกว่า ขณะนี้ตนสั่งการให้คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต หรือไทแคค ลงไปร่วมสืบสวนติดตามคดีดังกล่าวแล้ว แม้ว่า ผอ.คนดังกล่าวจะอ้างว่าเป็นคลิปเก่าก็ต้องสืบสวนให้ถึงพฤติการณ์แห่งคดี ทั้งนี้ หากดูจากพฤติกรรมแล้วเข้าข่ายความผิดกระทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี แต่ยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ตนจะลงไปขับเคลื่อนคดีด้วยตนเองอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ได้กำชับกับคณะทำงานไทแคคให้ทำข้อมูลให้รอบด้าน และความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานจาก สภ.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ว่าเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสอบคลิปวิดีโอที่ปรากฏบนเพจเฟซบุ๊กหนึ่งซึ่งระบุข้อความว่า บุคคลในคลิปวิดีโอคือผู้อำนวยการ และเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนเเห่งหนึ่งใน อ.หล่มสัก โดยเป็นภาพเหตุการณ์ที่ผู้ชายกำลังกระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิง เจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนหาข่าวเพิ่มเติม กระทั่งทราบตัวผู้เสียหายจึงได้เชิญตัวเด็กและผู้ปกครองมาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กหญิงรับว่าบุคคลในคลิปดังกล่าวคือตนจริง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ขณะที่ตนเรียนอยู่ชั้น ป.6 อายุเพียง 12 ปีเศษ
“คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบสวนปากคำผู้เสียหายต่อหน้าพนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ หรือนักจิตวิทยา และผู้ปกครองหรือผู้ไว้วางใจ แล้วรับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด อยู่ระหว่างเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา โดยกรณีดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ” รองโฆษก ตร.ระบุ
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับไปยังพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพบว่ากระทำความผิดจริงให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยให้พิจารณาจากพยานหลักฐาน และความเชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ