เลขาฯ ศาลยุติธรรม ย้ำให้กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติตามแนวทางออกหมายขังหมายปล่อยนักโทษ หรืออ่านคำพิพากษา-คำสั่งศาล ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมกำชับ ตร.-ดีเอสไอ ออกหมายจับและหมายค้นผ่านออนไลน์ ป้องกันแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
วันนี้ (31 มี.ค.) นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมแนบส่งระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาในศาลที่เกี่ยวกับผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ หรือสถานที่กักขังในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19) แจ้งให้ทราบว่าหลังจากนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ลงนามในระเบียบดังกล่าวเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อประโยชน์ในการการปฏิบัติงานตามระเบียบดังกล่าวระหว่างศาลยุติธรรมกับเรือนจำ จึงขอให้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะเดียวกัน ตนยังได้มีหนังสือเวียนแจ้งถึงหัวหน้าหน่วยงานสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมด้วย ให้ปฏิบัติตามแนวทางการออกหมายขัง หมายปล่อย กรณีการอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลสูงและศาลชั้นต้นในลักษณะการประชุมทางจอภาพ
รายละเอียดระบุว่า ตามที่ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลสูงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ. 2562 และประกาศสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลสูงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ กำหนดให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการแนวทางปฏิบัติของศาลในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลสูง ในลักษณะการประชุมทางจอภาพมาใช้บังคับกับกรณีที่มีการนัดอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลชั้นต้นในลักษณะการประชุมทางจอภาพ กับเรือนจำ หรือ ศาลปลายทางโดยอนุโลมนั้น เนื่องจากปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ รวมถึงบุคลากรต่างๆในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้การออกหมายขัง หมายปล่อย หลังจากที่มีการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลสูงและศาลชั้นต้นในลักษณะการประชุมทางจอภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ลดการมาศาลป้องกันบุคลากรจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำนักงานศาลยุติธรรมจึงเห็นควรกำหนดแนวทางในการออกหมายขังและหมายปล่อยดังกล่าว
เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมระบุด้วยว่า นอกจากกรมราชทัณฑ์แล้ว วันนี้ตนยังมีหนังสือถึงผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรื่องขอความร่วมมือในการขอออกหมายจับและหมายค้นโดยทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทั้งนี้ ศาลยุติธรรมขอความร่วมมือให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจดำเนินการขอออกหมายจับ และหมายค้น ตามแนวทางปฏิบัติงานสำนักงานศาลยุติธรรมที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งกำหนดแนวทางปฏิบัติงานในการยื่นคำร้องขอออกหมายจับและหมายค้น, การรับคำสั่ง, การออกหมาย ทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และไต่สวนคำร้องผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ, แอปพลิเคชัน หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกคำสั่งหรือหมายอาญา พ.ศ. 2548 ข้อ 28-34 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้เป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ลดการเดินทางมาศาล และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน กับเพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของเจ้าพนักงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยสามารถดาวน์โหลดแนวทางปฏิบัติงานดังกล่าวได้ที่ htp://www.oja.coj.go.th หรือผ่าน QR CODE