คณะทำงานศาลยุติธรรมป้องกันไข้หวัดโควิด-19 สั่งสำนักการแพทย์ในศาล ตรวจเช็กรายชื่อเอกชนจำหน่ายอุปกรณ์ลดเสี่ยงไข้หวัดโควิด-19 รองรับจัดสรรงบประมาณและเครื่องมือส่งเสริมสุขภาพทั่วถึง
วันนี้ (18 มี.ค.) นายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) สำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมคณะทำงาน 10 คนที่แต่งตั้งมาจากตัวแทนสำนักต่างๆ ในส่วนกลาง สำนักงานศาลยุติธรรมเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อติดตามผลมาตรการป้องกันของศาลต่างๆ ว่า ในการประชุมคณะทำงานป้องกันการแพร่ระบาดฯ ครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 ได้มติให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรค COVID-19 ให้มากขึ้น
และมอบหมายให้สำนักการแพทย์ ดำเนินการจัดหา รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อผู้ขายหน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์, เครื่องวัดอุณหภูมิแบบมือถือ เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมสะดวกในการจัดหาอุปกรณ์ เพราะสถานการณ์ในช่วงนี้เครื่องป้องกันหลายอย่างมีค่อนข้างจำกัดและไม่สามารถจัดหาได้จำนวนมากอย่างทั่วถึงในคราวเดียว จึงต้องพยายามหาข้อมูลให้ไว้ได้มากที่สุดเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการจัดหาและจัดสรร
นอกจากนี้ ยังให้ สำนักการแพทย์ ปรับรายละเอียดกิจกรรมเพื่อของบประมาณกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมและบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อพิจารณาจัดสรรให้ตามเหตุผลความจำเป็นของแต่ละศาล
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่มอบหมายสำนักการแพทย์ ดำเนินการดังกล่าวก็ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วัน เพื่อจะเสนอพิจารณาโดยเร่งด่วนและทั่วถึงตามนโยบายนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา และ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เนื่องจากเป็นส่วนเกี่ยวกับความปลอดภัยทั้งในสุขภาพของบุคลาการในศาลและสิ่งแวดล้อมบริเวณศาล รวมทั้งผู้ที่มาติดต่อราชการที่เราต้องดูแลอย่างเหมาะสมและดีที่สุด โดยก่อนหน้านี้ ที่มีการจัดสรรงบประมาณเบื้องต้นให้แต่ละศาลจำนวน 10,000 บาท ได้รับรายงานกลับมาว่าไม่เพียงพอกับการจัดซื้ออุปกรณ์-เครื่องมือ ซึ่งบางแห่งแจ้งว่าใช้งบในการจัดซื้อไปหมดแล้ว ทั้งนี้สำหรับเครื่องเทอร์โมสแกนกล้องถ่ายภาพจับความร้อน ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่ทำงานด้วยระบบเซ็นเซอร์เมื่อเดินผ่านกล้อง ที่มีแนวทางจะจัดหาให้กับ 6 ศาลขนาดใหญ่ในพื้นที่ กทม. ก็เริ่มติดตามหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเอกชนที่ผลิตแล้ว