MGR Online - โฆษก ตร.เผยตำรวจติดโควิด-19 แล้ว 7 ราย กักตัวอีก 102 ราย สั่งเพิ่มความเข้มคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง งัดระเบียบนำหน้ากากอนามัยของกลางกว่า 1 แสนชิ้น ที่ยึดไว้มาใช้ระหว่างดำเนินคดี ด้าน รพ.ตำรวจ เตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วย 150 เตียง รองรับ
วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.20 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล นายแพทย์ (สบ5) กลุ่มงานอายุรกรรม รพ.ตร. แถลงความคืบหน้าติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในส่วนของ ตร. ว่า ขณะนี้มีข้าราชการตำรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว จำนวน 7 ราย เป็นตำรวจสังกัด บช.น. 4 ราย สตม. 1 ราย ตชด. 1 ราย และ สถาบันนิติเวช 1 ราย ขณะเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใกล้ชิดกลุ่มคนเหล่านี้ที่ต้องกักตัวรอดูอาการ 14 วัน อีกจำนวน 102 ราย ยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการดูแล หรือให้บริการประชาชน
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ล่าสุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบ คัดกรอง และติดตามตัวบุุคคลที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยใช้แอปพลิเคชันที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทำขึ้น พร้อมพิจารณามาตรการและวิธีการดำเนินการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าออกตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
“นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ทุกจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด หากมีการประกาศสถานการณ์ต่างๆ และให้ทุกสถานีตำรวจเพิ่มการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะมาติดต่อราชการตามสถานีตำรวจต่างๆ โดยจัดหาอุปกรณ์ป้องกันและทำความสะอาด และเพิ่มความถี่ในการจัดบิ๊กคลีนนิงสถานีตำรวจ จากเดิมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย 3 ครั้ง และให้ทำความสะอาดห้องขังตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อ” โฆษก ตร.กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังปรับแนวทางการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายของหมายเลข 191 เพื่อคอยประสานข้อมูล การแพร่ระบาดของโรค ร่วมกับหมายเลข 1422 กรมควบคุมโรค และ 1111 ของทางรัฐบาล
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลการปราบปรามการกระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ล่าสุดสามารถจับกุมได้ 82 ราย ผู้ต้องหา 85 คน ยึดของกลาง 170,821 ชิ้น มูลค่า 2,376,037 บาท จับกุมผู้โพสต์หรือส่งต่อข่าวปลอม 7 ราย ผู้ต้องหา 10 ราย ส่วนกรณีของกลางที่เป็นหน้ากากอนามัยนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบก.ปคบ. อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ศึกษาแนวทางที่ไม่ให้ของกลางเสื่อมสภาพโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งตามกฎหมายของกลางต้องรอคำสั่งศาลในการแจ้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยขณะนี้มีแนวทางในการนำของกลางมาใช้ 3 แนวทาง คือ 1. การให้ผู้ต้องหายินยอมมอบของกลางให้ตกเป็นของหลวง และจะใช้ในการพิจารณาบรรเทาโทษในชั้นศาล ช่องทางต่อมา คือ การเร่งขั้นตอนในการทำสำนวนคดีก่อนส่งฟ้องให้รวดเร็วมากขึ้น แต่ตามระเบียบการตำรวจฯ เรื่องของกลางคดีลักษณะที่ 15 ข้อ 418 กรณีถ้าของกลางนั้นเป็นของกลางที่อาจจะเสียหาย เน่าเสีย หรือเสื่อมสภาพ ให้พิจารณาตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งทาง ปคบ.แนะนำประสานผู้ต้องหาว่าของกลางเหล่านั้นยังใช้ประโยชน์ได้ยินยอมยกให้เป็นของหลวง ก็จะดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ส่งคืนทางกระทรวงพาณิชย์ ศูนย์โควิด-19 ของรัฐบาล หรือกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการแจกจ่ายให้กับผู้มีความจำเป็นต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ กล่าวว่า รพ.ตำรวจ มีภารกิจที่สนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยจะเริ่มให้บริการคลินิกโรคหวัดแยกจากโซนอื่นๆ เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อในวันพรุ่งนี้ (18 มี.ค.) สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ ได้เตรียมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัย รพ.ตำรวจ ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานการแพทย์อื่นๆ และจัดสถานที่จำนวน 129 เตียง และรองรับสูงสุดได้ 150 เตียง รวมทั้งอาคารเรือนนอน ตชด. และโรงพยาบาลศูนย์ การเตรียมความพร้อมจัดสร้างโรงพยาบาลสนาม หากมีความจำเป็น