รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563 ตอน ไวรัสโควิด-19 ลาม เข้าระยะเขย่ารัฐบาล
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเจอวิกฤตเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินติดขัด จากการรับมือไวรัสโควิด –19 เพราะการสู้เชื้อไวรัสไม่เป็นที่ถูกใจสังคม ทำคนไทยสับสนในข้อมูลข่าวสารไร้ทิศทางที่แน่นอน
ทำให้ประชาชนเกิดอาการตื่นตระหนก ไม่รู้รัฐบาลจะเอาอยู่ไหม จนเกิดอาการตื่นกลัวกับสารพัดเรื่อง ที่คาดกันเอง ไปต่างๆนานา ซึ่งล้วนเป็นการประเมินในทางลบมากกว่าดี
ล่าสุดก็กลัวจะถูกปิดเมือง เลยแห่กันตุนอาหารของใช้จนอลเวงไปหมด เหตุก็เพราะข่าวสารทางการไม่มีแผนการแก้ไขปัญหาวิกฤติไวรัสระบาดที่เห็นความชัดเจน
ประเด็นการบริหารจัดการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในประเทศของรัฐบาล ถูกโจมตีอย่างหนักว่า หย่อนประสิทธิภาพ จนทำให้ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ
การบริหารแบบสะเปะสะปะ ทำให้ประชาชนในประเทศขาดความเชื่อมั่น การให้ข้อมูลที่ไม่เป็นเอกภาพ คนละทิศคนละทาง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน คือ โจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลกำลังเผชิญ
“บิ๊กตู่” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกตั้งคำถามถึงภาวะผู้นำ จากการปล่อยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศลุกลามมากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าคุมได้แล้ว
ทั้งที่ ตอนนั้นมีเสียงเรียกร้องให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ตอบสนอง จนตอนนี้ก็ยังคุมโรคระบาดไม่ได้ สถานการณ์ของโรคระบาดกลับขยายตัว ทำท่าจะเริ่มมีสัญญาณเข้าระยะ 3 ตามที่เป็นห่วงกัน
มิหนำซ้ำ ขณะที่โรคไวรัสยังคุกคามไม่หยุด ยังเกิดกรณีหน่วยงานของรัฐเปิดสงครามกันเอง ทำงานกันคนละทิศละทาง โดยเฉพาะกรณีล่าสุดของกรมการค้าภายในกับกรมศุลกากร
ที่ถึงขั้นฟ้องร้องกัน ในยามที่ควรจะผนึกกำลังสามัคคีกันช่วยกันทำงาน แต่กลับมาทะเลาะกันเอง ซึ่งเรื่องนี้อธิบดีกรมการค้าภายใน นายวิชัย โภชนกิจ ก็ถูกคำสั่งนายกรัฐมนตรีย้ายเข้ากรุไป
และอีกกรณีที่เป็นเรื่องใหญ่ ประเด็นร้อน กรณีกลิ่นคาวทุจริตเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัย ที่มีคนในรัฐบาลถูกครหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง
เรื่อยไปถึงสงครามภายในพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่งัดข้อกันเองภายในพรรค ดังทะลุออกมาถึงภายนอก และที่ปรึกษาหญิงสาวของรัฐมนตรีประชาธิปัตย์ถูกเปิดโปงเป็นไอ้โม่งอยู่เบื้องหลังกักตุนหน้ากากอนามัย
ไวรัสจ่อระบาดเข้าระยะสาม บิ๊กตู่ยิ่งประสบปัญหาหนักทางด้านขวัญและกำลังใจ เมื่อแนวร่วมที่เป็นกองเชียร์ หน่วยรบปากกล้าซึ่งคอยปกป้องรัฐบาลลุงตู่มาตลอด ก็ส่อจะตีจาก
พ่อยกหลายคนส่งเสียงว่าหมดเรี่ยวแรงที่จะโอบอุ้มแล้ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น หลายเรื่องทำให้กองเชียร์ผิดหวัง
อาจกล่าวได้ว่า ครั้งนี้ “บิ๊กตู่” เจอวิกฤตที่สุดในชีวิต นับตั้งแต่ขึ้นหลังเสือเข้ายึดอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
ไวรัสโควิด -19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแค่เพียงความหวาดกลัวต่อโรคภัยไข้เจ็บ แต่ส่งผลกระทบแรงต่อเศรษฐกิจในประเทศ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ในภาวะย่ำแย่กันไปทุกหย่อมหญ้าอยู่แล้ว จากนี้ไวรัสโควิด-19จะกระหน่ำซ้ำเติมหนักขึ้นไปอีก
ที่เห็นแน่ๆ คือรายได้จากการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ ตอนนี้เครื่องยนต์ตัวนี้ดับไปแล้ว เงินนักท่องเที่ยวหดหายไปหลายแสนล้านบาท ทำให้ห้างร้าน โรงแรม รีสอร์ท ร้านค้าต่างๆ รวมทั้งสถานบริการซบเซา เงียบเหงา เตรียมปิดตัวกันระนาว
งานอีเวนต์ต่างๆ ถูกยกเลิกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต กีฬารายการใหญ่ อันส่งผลต่อการจ้างงานในทุกๆ ระดับตั้งแต่ระดับบิ๊กบอสถึงคนใช้แรงงาน
คนตกงาน และรายได้หายจากผลพวงไวรัสโควิด -19
นี่คือ ปมร้อนที่รอวันขยายใหญ่ มาตรการเพื่อรับมือไวรัสโควิด -19 ก็ต้องทำ มาตรการสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศทั้งรายเล็กรายน้อย อีกไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ก็เป็นงานที่รอแก้ปัญหา ที่สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่วันนี้
หลายคนไม่เชื่อแล้วว่า รัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาได้ และคาดการณ์กันว่า มันอาจถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลงหลังประเทศชำรุดจากวิกฤตครั้งนี้