รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 7 มกราคม 2563 ตอน เพื่อไทย ในรอยร้าว สุดารัตน์ ถอยดีกว่า!?
ห้วงนี้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการพิสูจน์บทบาทการทำงานในสภาผู้แทนราษฏรของ พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคพี่ใหญ่ ฝ่ายค้าน จะต้องนำทัพฝ่ายค้าน ลับดาบ เชือดรัฐบาลบิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลางสภาฯ ติดๆกันสองแมทช์ใหญ่
นั่นก็คือ การประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสองและสาม ในช่วง พุธ และพฤหัสบดีนี้ 8 กับ 9 มกราคม ซึ่งมีส.ส.ขอสงวนคำแปรญัตติกันเยอะเช่น งบกลาง -งบกระทรวงมหาดไทย-งบกระทรวงกลาโหม ที่คาดว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายแบบซ้อมย่อย ก่อนถึงคิวซักฟอก
จากนั้นช่วงปลายๆ เดือน หลังผ่านพ้นเทศกาล ตรุษจีน 25 มกราคม ก็ถึงคิวศึกใหญ่ กับการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
ซึ่งมีคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย ชุดร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำเพื่อไทย เป็นหัวหน้าทีม ที่คุยว่า การซักฟอกรอบนี้มีหมัดเด็ดเปิดแผล บิ๊กตู่กลางสภาฯ อีกทั้ง บอกว่ายิ่งใกล้ถึงวันปิดบัญชีสรุปรายชื่อรัฐมนตรีโดนซักฟอก ข้อมูลยิ่งไหลมาเทมา ทำให้จากเดิมที่ฝ่ายค้านจะซักฟอก 5 รัฐมนตรีคือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายก ด้านเศรษฐกิจ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย พล.อ.อนุพงพษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และดอน ปรมัติวินัย รมว.ต่างประเทศ
แต่ล่าสุด ข่าววงในบอกว่ามีข้อเสนอจากพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรค ให้ยื่นซักฟอก รัฐมนตรีเพิ่มเติม โดยมีการเสนอชื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แกนนำสำคัญของกลุ่มสามมิตร พลังประชารัฐ
ในเรื่องการพลิกมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่สุริยะ ใช้การเป็นประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ประชุมนัดแรก ก็ทำการยกเลิกและเลื่อนการแบสารพิษสามชนิด เช่น พาราควอต ออกไป โดยส.ส.ฝ่ายค้าน ทั้ง เพื่อไทย อนาคตใหม่ จองกฐิน ขอซักฟอกสุริยะกันหลายคน
เพราะมีข้อมูลต่างๆ ที่จะอภิปรายสุริยะ เพื่อชี้ให้เห็นความผิดปกติในการยกเลิกการแบนสารพิษดังกล่าว ที่ก็ไม่รู้ว่า ข้อมูลที่จะใช้ซักฟอก สุริยะ จะมาจากคนในพรรคร่วมรัฐบาล ด้วยกันเอง หรือไม่
หากเป็นเช่นที่เริ่มมีกระแสข่าวพูดกัน สงสัย รัฐมนตรีในรัฐบาลที่ตามโผที่ฝายค้านจองกฐิน ที่ส่วนใหญ่อยู่ซีก พลังประชารัฐ ไม่มีคนจากภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ การเตรียมรับมือฝ่ายค้าน ที่ต้องทำการบ้านหนักแล้ว การต้องระวังหลังจากพวกเดียวกันเองในพรรคร่วมรัฐบาล ยังเหนื่อยเสียยิ่งกว่า
สองศึกใหญ่กลางสภาข้างต้น อภิปรายงบ63 กับศึกซักฟอก ที่ตามกันมาติดๆ จึงเป็นบทพิสูจน์ พรรคเพื่อไทย ได้เป็นอย่างดี หลังถูกปรามาสทางการเมือง ว่า เล่นบทฝ่ายค้าน ตรวจสอบฝ่ายบริหารไม่เป็น จนผลงานในสภาฯ ผ่านไปหนึ่งสมัยประชุม กลับกลายเป็น พรรคอนาคตใหม่ ที่แสดงบทบาทฝ่ายค้านในสภาฯได้ดีกว่า
ถึงขนาด สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้าน ยังถูกสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ตั้งฉายาประจำปีให้เป็น “ขนมจีนไร้น้ำยา”
หากสองศึกใหญ่ ครั้งนี้ เพื่อไทย ดาบยังขึ้นสนิม ที่บอกจะเชือดบิ๊กตู่ กลางสภาฯ ฟัน รัฐมนตรี กลางจอทีวี และหากสุดท้าย สิ่งที่บอกมามีแต่คำคุยโว ข้อมูลไม่มีอะไรเด็ด มีแต่ข้อมูลเก่าขึ้นสนิมที่สื่อนำเสนอไปหมดแล้ว บทบาท เพื่อไทยในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน ดัชนีความเชื่อมั่นเสื่อมทรุดแน่
ยิ่งช่วงนี้ เพื่อไทย มีแต่เรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อพรรคออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังประสบความพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมที่ขอนแก่น ก็มีแต่ข่าว แกนนำพรรคขัดแย้ง งัดข้อ ออกมาเรื่อยๆ ที่ก่อนหน้านี้ เคยซ่อนขยะไว้ใต้พรหม ทำกลบเกลื่อนว่าแกนนำเพื่อไทยรักใคร่กันดี ถึงตอนนี้เริ่มเห็นร่องรอย เรือเริ่มแตกให้เห็นอีกครั้ง
ดูได้จาก กระแสข่าว ความขัดแย้งในระดับบนของพรรค โดยเฉพาะคู่เกาเหลา คู่พระคู่นาง เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ ที่สมพงษ์ หัวหน้าพรรคตั้งให้เป็นกรณีพิเศษ กับสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
โดยที่ภารกิจงานของกรรมการสองชุดดังกล่าวในยุคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน จริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่เนื้องานของกรรมการสองชุด กลับทาบทับซ้อนกันอยู่ในที แบบไม่มีใครยอมใคร เหมือน เสือสองตัว อยู่คนละถ้ำ ต่างคนต่างสร้างผลงาน ขุนส.ส.-อดีตส.ส.มาอยู่ใต้สังกัด กันให้มากที่สุดเพื่อโชว์พาว ฯ
ทำให้ที่ผ่านมา เฉลิม บางบอน กับ เจ๊หน่อย ที่ไม่กินเส้นกันมาแรมปี ถึงตอนนี้ก็ยังเคลียร์กันไม่ได้ ยิ่งใกล้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ รอยร้าวนี้ยิ่งเห็นชัด เพราะบทบาททั้งหมด ไปอยู่ที่ เฉลิม เกือบหมด
โดยสุดารัตน์ แม้เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค แต่ถูกกันไม่ให้มีบทบาทอะไรในการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
จนล่าสุด กระแสข่าว ความขัดแย้งในเพื่อไทย ก็มาปะทุอีกรอบ กับกรณี ข่าว เจ๊หน่อย สุดารัตน์ สุดทน หลังจากที่ไม่สามารถทำให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้งซ่อมที่ขอนแก่นได้ ทั้งที่ลงไปทุ่มสุดตัว
ขณะเดียวกัน บทบาทในพรรค กับการเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ก็ถูกแซะ ถูกเตะตัดขา เรื่อยๆ ให้เป็นตำแหน่ง ลอย เป็นเจ้าไม่มีศาล
เจ๊หน่อย ยื่นใบลาออกจากการเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เป็นข่าวออกมา
แถมปล่อยข่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เก็บข้าวของส่วนตัวออกจากห้องทำงานในพรรคเพื่อไทย แล้ว แต่ข่าวดังกล่าว มีการปฏิเสธทันควันจากแกนนำเพื่อไทยสายเจ๊หน่อย คือ นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่เจ๊หน่อยดันมาแทน ภูมิธรรม เวชยชัย ยืนยันว่า สุดารัตน์ยังปักหลักทำงานทุกตำแหน่งอยู่ไม่มีน้อยใจ จนต้องลาออกหรือเก็บของออกจากพรรค
สุดท้ายแล้ว แม้หลังจากนี้ แกนนำเพื่อไทยและเจ๊หน่อย จะมีการกลบกระแสเรื่องปัญหาภายในพรรคเพื่อไทย เพื่อรักษาภาพว่า เพื่อไทยไม่มีรอยร้าว แต่ร่องรอยปัญหาทั้งหมด ก็เหมือน ไม่มีไฟ ก็ไม่มีควัน ที่สะท้อนให้เห็นว่า เพื่อไทย มีปัญหาภายในหนักจริงๆ